นายนริศ ขำนุรักษ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยออกมาระบุว่า มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งจัดทำซีดีเหตุการณ์ความรุนแรงที่สภ.อ.ตากใบ ว่า พรรคไม่เคยจัดทำและเผยแพร่ซีดีเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในทางกลับกันพรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอแนะวิธีการในแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ทั้งความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเรื่องการทบทวนการยุบ ศอ.บต. , พตท.43 การส่งทหารไทยไปช่วยอเมริกาบุกยึดอิรัก การให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดสภาเพื่ออภิปรายถึงปัญหาและวิธีแก้ไข ซึ่งรัฐบาลได้ปฏิเสธข้อเสนอแนะดังกล่าวมาโดยตลอด แต่รัฐบาลชุดนี้กับใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา และแสดงความคิดเห็นออกมาว่าข้อเสนอแนะของฝ่ายค้านเป็นความเห็นที่ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง อีกทั้งยังคอยใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายค้านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความรุนแรงอยู่เสมอ
‘ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เคยมีนักการเมืองจากฝ่ายค้านเข้าไปเกี่ยวข้องและตกเป็นผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียว มีแต่นักการเมืองของพรรคไทยรักไทยเท่านั้นที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนี้มีความล่าช้าและไม่จริงจัง แต่ถ้าผู้ต้องหาเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์คงจะเอาจริงเอาจังเหมือนกรณีที่กาญจนบุรีไปแล้ว’ นายนริศ กล่าว
รองโฆษกปชป. กล่าวว่า จากการสอบถามพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ได้ทราบว่า พวกพี่น้องเหล่านั้นรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวจากประสบการณ์ตรงมาโดยลำดับ ซีดีดังกล่าวไม่มีผลอะไร เพราะพอที่จะแยกแยะได้ว่าซีดีจริงหรือตัดต่อ รัฐบาลควรที่จะหันกลับไปค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุจริง อย่าเบี่ยงเบนประเด็น อย่าสร้างข่าวกลบข่าว เพื่อปกปิดความล้มเหลวของรัฐบาล ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ยึดปฏิบัติมาตลอด 4 ปี อย่าโยนบาปและความรับผิดชอบให้ผู้อื่นโดยเฉพาะข้าราชการผู้ปฏิบัติในพื้นที่ เพราะความผิดพลาดเป็นของฝ่ายกำหนดและกำกับนโยบาย และที่สำคัญอย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้ทัน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
‘ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่เคยมีนักการเมืองจากฝ่ายค้านเข้าไปเกี่ยวข้องและตกเป็นผู้ต้องหาแม้แต่คนเดียว มีแต่นักการเมืองของพรรคไทยรักไทยเท่านั้นที่ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งการดำเนินการในเรื่องนี้มีความล่าช้าและไม่จริงจัง แต่ถ้าผู้ต้องหาเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์คงจะเอาจริงเอาจังเหมือนกรณีที่กาญจนบุรีไปแล้ว’ นายนริศ กล่าว
รองโฆษกปชป. กล่าวว่า จากการสอบถามพี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ได้ทราบว่า พวกพี่น้องเหล่านั้นรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวจากประสบการณ์ตรงมาโดยลำดับ ซีดีดังกล่าวไม่มีผลอะไร เพราะพอที่จะแยกแยะได้ว่าซีดีจริงหรือตัดต่อ รัฐบาลควรที่จะหันกลับไปค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุจริง อย่าเบี่ยงเบนประเด็น อย่าสร้างข่าวกลบข่าว เพื่อปกปิดความล้มเหลวของรัฐบาล ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ยึดปฏิบัติมาตลอด 4 ปี อย่าโยนบาปและความรับผิดชอบให้ผู้อื่นโดยเฉพาะข้าราชการผู้ปฏิบัติในพื้นที่ เพราะความผิดพลาดเป็นของฝ่ายกำหนดและกำกับนโยบาย และที่สำคัญอย่าคิดว่าประชาชนไม่รู้ทัน
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 9 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-