“รองหัวหน้าปชป.” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แนะ “ทักษิณ”แยกให้ออกหมวก 2 ใบ “นายกฯ-หัวหน้าทรท.” ติงนายกฯ ขอให้มีมารยาทเลิกใช้คำพูดข่มขู่ — ต่อรอง ส่วนเรื่องจับมือตั้งรัฐบาลร่วมนั้นไว้คุยหลังเลือกตั้ง
วันนี้ (16ธ.ค. 47 ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยู่ใน 2 สถานะอาจแยกไม่ออกระหว่างการเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในการให้งบประมาณ ว่า พอเข้าใจ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเป็นตัวอย่างในการแยกแยะให้ออกของการสวมหมวก 2 ใบ ต้องไม่เอาตำแหน่งหน้าที่เวลาและกลไกของราชการไปใช้ นโยบายเสนอได้ แต่ต้องไม่ใช่การสัญญาว่าจะให้ เพื่อแลกเปลี่ยนคะแนนเสียง อย่าสร้างค่านิยมที่ผิด ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ต้องติดตามและพิจารณาตามกฎหมาย แต่ต้องขอให้มีมารยาทขอให้เลิกใช้คำพูดของการข่มขู่ต่อรองเพราะไม่ต้องการให้เบี่ยงเบนการเมืองไปจากเจตนารมณ์ กระบวนการเลือกตั้งอยู่ที่นักการเมืองด้วยว่าจะสร้างอย่างไร มาตรฐานของคนที่เจริญแล้วไม่ทำอย่างนี้กัน ซึ่งหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เลิกพฤติกรรมอย่างนี้ ก็ต้องการให้ประชาชนลงโทษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดวนเวียนแต่เรื่องการเมือง คือ ซื้อเสียง ซื้อ ส.ส. ซื้อสื่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “แล้วคนทำไม่วนเวียนกว่าหรือครับ คนพูดก็พูดตามที่เห็นคนทำได้ทำ แต่อย่างน้อยก็ไม่ย้อนยุคกลับไปอย่างนี้ ไม่กลับไปเป็นนักต่อรอง นักข่มขู่ ไม่รู้ว่าใกล้ๆ จะกรรโชกด้วยหรือเปล่า” นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า กรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคมหาชน พร้อมจะจับมือพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคไทยรักไทย เหมือนสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มี 18 เสียงนั้นว่า ต้องดูผลการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการคะแนนเสียงมากที่สุด แต่โดยมารยาทต้องให้พรรคการเมืองที่มีเสียงอันดับหนึ่งได้รับโอกาสก่อน หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่อง ซึ่งต้องรอดูก่อน เพราะไม่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ถ้าจะตกลงต้องประกาศให้ชัดต่อประชาชน
“ไม่ทราบว่าพรรคมหาชนกับพรรคชาติไทยประกาศจับขั้วกันจริงหรือเปล่า สองพรรคนี้ประกาศหรือไม่ว่า ไม่ร่วมกับพรรคไทยรักไทยไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคมหาชนและพรรคชาติไทยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะทำงานกับ 2 พรรคนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอให้ทั้ง 2 พรรคนี้ประกาศก่อน เมื่อถามว่า แสดงว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้วางไว้เพื่อการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคขอคะแนนเสียงจากประชาชนให้ได้มากที่สุด หากมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคก็พร้อมจะเป็นรัฐบาล แต่หากไม่มากพอ พรรคก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ ช่วยตรวจสอบ ถ่วงดุล ส่วนพรรคอื่นก็ต้องดูว่าจริงจังแค่ไหน เพราะบางวันก็บอกว่าจับมือกับพรรคไหนก็ได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
วันนี้ (16ธ.ค. 47 ) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าอยู่ใน 2 สถานะอาจแยกไม่ออกระหว่างการเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในการให้งบประมาณ ว่า พอเข้าใจ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเป็นตัวอย่างในการแยกแยะให้ออกของการสวมหมวก 2 ใบ ต้องไม่เอาตำแหน่งหน้าที่เวลาและกลไกของราชการไปใช้ นโยบายเสนอได้ แต่ต้องไม่ใช่การสัญญาว่าจะให้ เพื่อแลกเปลี่ยนคะแนนเสียง อย่าสร้างค่านิยมที่ผิด ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ต้องติดตามและพิจารณาตามกฎหมาย แต่ต้องขอให้มีมารยาทขอให้เลิกใช้คำพูดของการข่มขู่ต่อรองเพราะไม่ต้องการให้เบี่ยงเบนการเมืองไปจากเจตนารมณ์ กระบวนการเลือกตั้งอยู่ที่นักการเมืองด้วยว่าจะสร้างอย่างไร มาตรฐานของคนที่เจริญแล้วไม่ทำอย่างนี้กัน ซึ่งหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เลิกพฤติกรรมอย่างนี้ ก็ต้องการให้ประชาชนลงโทษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดวนเวียนแต่เรื่องการเมือง คือ ซื้อเสียง ซื้อ ส.ส. ซื้อสื่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “แล้วคนทำไม่วนเวียนกว่าหรือครับ คนพูดก็พูดตามที่เห็นคนทำได้ทำ แต่อย่างน้อยก็ไม่ย้อนยุคกลับไปอย่างนี้ ไม่กลับไปเป็นนักต่อรอง นักข่มขู่ ไม่รู้ว่าใกล้ๆ จะกรรโชกด้วยหรือเปล่า” นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า กรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคมหาชน พร้อมจะจับมือพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคไทยรักไทย เหมือนสมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่มี 18 เสียงนั้นว่า ต้องดูผลการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องการคะแนนเสียงมากที่สุด แต่โดยมารยาทต้องให้พรรคการเมืองที่มีเสียงอันดับหนึ่งได้รับโอกาสก่อน หากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่อง ซึ่งต้องรอดูก่อน เพราะไม่ได้ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ถ้าจะตกลงต้องประกาศให้ชัดต่อประชาชน
“ไม่ทราบว่าพรรคมหาชนกับพรรคชาติไทยประกาศจับขั้วกันจริงหรือเปล่า สองพรรคนี้ประกาศหรือไม่ว่า ไม่ร่วมกับพรรคไทยรักไทยไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคมหาชนและพรรคชาติไทยประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะทำงานกับ 2 พรรคนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอให้ทั้ง 2 พรรคนี้ประกาศก่อน เมื่อถามว่า แสดงว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้วางไว้เพื่อการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคขอคะแนนเสียงจากประชาชนให้ได้มากที่สุด หากมากพอจะจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคก็พร้อมจะเป็นรัฐบาล แต่หากไม่มากพอ พรรคก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ ช่วยตรวจสอบ ถ่วงดุล ส่วนพรรคอื่นก็ต้องดูว่าจริงจังแค่ไหน เพราะบางวันก็บอกว่าจับมือกับพรรคไหนก็ได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-