กลุ่มธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิซิกจำนวน 11 แห่ง (Executives' Meeting of East Asia and Pacific Central Banks หรือ EMEAP) มีความยินดีในการประกาศจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่สอง (Asian Bond Fund 2) ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจัดตั้งกองทุนพันธบัตรเอเชียระยะที่ 1 (ABF1) ซึ่งลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและกึ่งรัฐบาลของประเทศสมาชิก EMEAP 8 ประเทศ (ไม่รวมญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) ในสกุลดอลลาร์ สรอ. เมื่อเดือนมิถุนายน 2546 กองทุน ABF2 นี้ จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและ กึ่งรัฐบาลของ<ประเทศสมาชิก EMEAP 8 ประเทศ ในสกุลเงินท้องถิ่น
การจัดตั้งกองทุน ABF2 เป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของการร่วมมือของธนาคารกลางในภูมิภาคนี้ กลุ่มสมาชิก EMEAP เชื่อมั่นว่าการริเริ่มจัดตั้งกองทุน ABF2 จะนำมาซึ่งประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาตลาดพันธบัตรในภูมิภาคเอเชีย กองทุน ABF2 นี้ จะมีบทบาทในการจุดประกายส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ รวมทั้งการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบ เพื่อลดอุปสรรคในการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งจะเอื้อให้ตลาดตราสารหนี้ของแต่ละประเทศและของภูมิภาคมีความกว้างและความลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ตัวกลางทางการเงินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว
จากการประกาศให้ทราบแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนเมษายน 2547 ว่าโครงสร้างของกองทุน ABF2 จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Pan-Asian Bond Index Fund (PAIF) และ Fund of Bond Funds (FoBF) โดย PAIF จะเป็นกองทุนที่จะลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลและกึ่งรัฐบาลในสกุลเงินท้องถิ่นของสมาชิก EMEAP 8 ประเทศ ในขณะที่กองทุน FoBF นั้น จะมีโครงสร้างเป็นสองระดับ (Two-layered structure) คือ มีกองทุนหลัก (Parent fund) ซึ่งจะเข้าไปลงทุนในกองทุนย่อย (Sub-funds) 8 กองทุน ในแต่ละประเทศ โดยในแต่ละกองทุนย่อยจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและกึ่งรัฐบาลสกุลเงินท้องถิ่นในแต่ละประเทศสมาชิก ทั้งนี้ กองทุน PAIF และกองทุนย่อยในแต่ละประเทศ จะบริหารการลงทุนในลักษณะเชิงรับ (Passively managed) เมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิงรวมและดัชนีอ้างอิงรายประเทศ ตามลำดับ ดังจะเห็นได้จากแผนภาพประกอบแสดงโครงสร้างกองทุนตามภาคผนวก 1 และ ตารางสรุปลักษณะที่สำคัญของกองทุน PAIF และกองทุนย่อย ตามภาคผนวก 2
กองทุน ABF2 ของกลุ่มสมาชิก EMEAP จะมีขนาดประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยจะแบ่งการลงทุนในกองทุน PAIF และ FoBF ในจำนวนที่เท่าๆ กัน กลุ่มประเทศสมาชิกได้พิจารณาขนาดของเงินลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสม คือ ไม่สูงเกินไปจนไปแย่งการลงทุนของภาคเอกชน หรือไม่ต่ำเกินไปจนไม่ก่อให้เกิดขนาดประหยัดของการลงทุนที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกองทุน
ในระยะแรกเงินลงทุนในกองทุน ABF2 จะมาจากกลุ่มธนาคารกลางของประเทศสมาชิก EMEAP เท่านั้น และในระยะต่อไป จะเปิดให้นักลงทุนอื่น ๆ ทั้งภาคเอกชน และประเทศนอกกลุ่ม EMEAP สามารถเข้าร่วมลงทุนได้ ในชั้นนี้ กองทุน PAIF จะจัดตั้งขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ และจะนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศฮ่องกง ในระยะต่อไป อาจมีการพิจารณานำกองทุน PAIF ไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสมาชิกอื่นๆ เพิ่มเติมได้หากเห็นว่าเหมาะสม สำหรับ 8 กองทุนย่อยนั้น จะจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นใน 8 ประเทศ รวมทั้งนำเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศนั้นๆ ตามความเหมาะสม
กองทุน ABF2 จะช่วยจุดประกายความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในพันธบัตรเอเชียผ่านกองทุนที่บริหารในลักษณะเชิงรับ (Passively managed bond funds) ซึ่งเป็นช่องทางในการลงทุนที่สะดวกและต้นทุนต่ำ อีกทั้งจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้มีการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตลาดพันธบัตรทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ออกตราสารและผู้ลงทุนในภูมิภาคนี้ เห็นได้จากสมาชิก EMEAP บางประเทศในภูมิภาคได้เริ่มที่จะทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์และระบบภาษี เพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนข้ามประเทศมากขึ้น รวมทั้งในระดับประเทศ บางประเทศได้เริ่มปรับเปลี่ยนกฎระเบียบให้สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนที่เป็น Exchange Traded Funds (ETF) ได้ เพื่อให้ต้นทุนของนักลงทุนรายย่อยต่ำลง เหมาะสำหรับการขยายหน่วยลงทุนไปสู่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนประเภทสถาบันประเภทต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง
ประโยชน์เพิ่มเติมอีกประการหนึ่งที่เป็นผลจากการจัดตั้งกองทุนนี้ คือ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดดัชนีอ้างอิงสำหรับการลงทุนในตลาดพันธบัตรเอเชีย ที่มีความโปร่งใส เชื่อถือได้ และสามารถลงทุนตามได้ (replicable) ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการพัฒนาตลาดพันธบัตร กลุ่มประเทศสมาชิก EMEAP ได้ร่วมกับบริษัท International Index Company (เดิมชื่อ iBoxx) อย่างใกล้ชิด ในการจัดทำดัชนีอ้างอิงของตลาดพันธบัตร เอเชีย ที่จะมีแหล่งข้อมูลราคาพันธบัตรจากผู้ร่วมตลาดหลากหลาย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาพันธบัตรในดัชนีอ้างอิงเป็นกลางและน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ iBoxx จะเผยแพร่หลักเกณฑ์และวิธีการสร้างดัชนีอ้างอิงนี้แก่สาธารณะ เพื่อให้ภาคเอกชนอื่นๆ สามารถนำไปใช้ในการลงทุนหรือดัดแปลงการลงทุนให้เหมาะกับความต้องการได้ อีกทั้งดัชนีอ้างอิงนี้ สามารถนำตราสารอนุพันธ์มาร่วมเป็นองค์ประกอบในโครงสร้างของดัชนีได้ด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ (Bank for International Settlement — BIS) จะช่วยทำหน้าที่ดูแลการลงทุน (Fund Administrator) ให้กับกลุ่มสมาชิก EMEAP ขณะนี้ กลุ่มประเทศสมาชิก EMEAP อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้จัดการทุน (Fund Manager) ผู้เก็บรักษาหลักทรัพย์ (Custodian) และผู้ให้บริการด้านอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับกองทุน PAIF และกองทุนย่อยทั้ง 8 กองทุน
รายชื่อบุคคลและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของผู้แทนกลุ่มประเทศสมาชิก EMEAP
ธนาคารกลางออสเตรเลีย
Guy Debelle (กาย ดีเบล)
61 2 9551 8400
ธนาคารกลางสาธารณรัฐประชาชนจีน
Chen Jing (เชน จิง)
86 10 6619 4853
ธนาคารกลางฮ่องกง
Thomas Chan (โทมัส ชาน)
852 2878 1480
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย
Rasmo Samiun (ราสโม ซาเมียม)
62 21 381 8100
ธนาคารกลางญี่ปุ่น
Atsushi Takeuchi (อัตสุชิ ทาเกอูชิ)<
81 3 3277 2915
ธนาคารกลางเกาหลี
Heung-Sik Choo ฮึง ซิก ชู)<
82 2 759 5202
ธนาคารกลางมาเลเซีย
Abu Hassan Alshari Yahaya (อาบู ฮัสซัน อัลซารี ยาฮายา)
60 3 2691 9335
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์
Kelly Eckhold (เคลลี เอคโฮล)
64 4 471 3879
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์
Editha S. Alido (อีดิทต้า เอส อะลีโด
63 2 524 6760
ธนาคารกลางสิงคโปร์
Corinna Chan (คอรินน่า ชาน)
65 6229 9923
ธนาคารแห่งประเทศไทย
พวรรณ มหามุสิก
66 2 283 5402
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--
การจัดตั้งกองทุน ABF2 เป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของการร่วมมือของธนาคารกลางในภูมิภาคนี้ กลุ่มสมาชิก EMEAP เชื่อมั่นว่าการริเริ่มจัดตั้งกองทุน ABF2 จะนำมาซึ่งประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาตลาดพันธบัตรในภูมิภาคเอเชีย กองทุน ABF2 นี้ จะมีบทบาทในการจุดประกายส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ รวมทั้งการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบ เพื่อลดอุปสรรคในการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ซึ่งจะเอื้อให้ตลาดตราสารหนี้ของแต่ละประเทศและของภูมิภาคมีความกว้างและความลึกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ตัวกลางทางการเงินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาว
จากการประกาศให้ทราบแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเดือนเมษายน 2547 ว่าโครงสร้างของกองทุน ABF2 จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ Pan-Asian Bond Index Fund (PAIF) และ Fund of Bond Funds (FoBF) โดย PAIF จะเป็นกองทุนที่จะลงทุนในพันธบัตรที่ออกโดยรัฐบาลและกึ่งรัฐบาลในสกุลเงินท้องถิ่นของสมาชิก EMEAP 8 ประเทศ ในขณะที่กองทุน FoBF นั้น จะมีโครงสร้างเป็นสองระดับ (Two-layered structure) คือ มีกองทุนหลัก (Parent fund) ซึ่งจะเข้าไปลงทุนในกองทุนย่อย (Sub-funds) 8 กองทุน ในแต่ละประเทศ โดยในแต่ละกองทุนย่อยจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและกึ่งรัฐบาลสกุลเงินท้องถิ่นในแต่ละประเทศสมาชิก ทั้งนี้ กองทุน PAIF และกองทุนย่อยในแต่ละประเทศ จะบริหารการลงทุนในลักษณะเชิงรับ (Passively managed) เมื่อเทียบกับดัชนีอ้างอิงรวมและดัชนีอ้างอิงรายประเทศ ตามลำดับ ดังจะเห็นได้จากแผนภาพประกอบแสดงโครงสร้างกองทุนตามภาคผนวก 1 และ ตารางสรุปลักษณะที่สำคัญของกองทุน PAIF และกองทุนย่อย ตามภาคผนวก 2
กองทุน ABF2 ของกลุ่มสมาชิก EMEAP จะมีขนาดประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยจะแบ่งการลงทุนในกองทุน PAIF และ FoBF ในจำนวนที่เท่าๆ กัน กลุ่มประเทศสมาชิกได้พิจารณาขนาดของเงินลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสม คือ ไม่สูงเกินไปจนไปแย่งการลงทุนของภาคเอกชน หรือไม่ต่ำเกินไปจนไม่ก่อให้เกิดขนาดประหยัดของการลงทุนที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของกองทุน
ในระยะแรกเงินลงทุนในกองทุน ABF2 จะมาจากกลุ่มธนาคารกลางของประเทศสมาชิก EMEAP เท่านั้น และในระยะต่อไป จะเปิดให้นักลงทุนอื่น ๆ ทั้งภาคเอกชน และประเทศนอกกลุ่ม EMEAP สามารถเข้าร่วมลงทุนได้ ในชั้นนี้ กองทุน PAIF จะจัดตั้งขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ และจะนำหน่วยลงทุนเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศฮ่องกง ในระยะต่อไป อาจมีการพิจารณานำกองทุน PAIF ไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสมาชิกอื่นๆ เพิ่มเติมได้หากเห็นว่าเหมาะสม สำหรับ 8 กองทุนย่อยนั้น จะจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นใน 8 ประเทศ รวมทั้งนำเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศนั้นๆ ตามความเหมาะสม
กองทุน ABF2 จะช่วยจุดประกายความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในพันธบัตรเอเชียผ่านกองทุนที่บริหารในลักษณะเชิงรับ (Passively managed bond funds) ซึ่งเป็นช่องทางในการลงทุนที่สะดวกและต้นทุนต่ำ อีกทั้งจะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้มีการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตลาดพันธบัตรทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งจะเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ออกตราสารและผู้ลงทุนในภูมิภาคนี้ เห็นได้จากสมาชิก EMEAP บางประเทศในภูมิภาคได้เริ่มที่จะทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กฎเกณฑ์และระบบภาษี เพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนข้ามประเทศมากขึ้น รวมทั้งในระดับประเทศ บางประเทศได้เริ่มปรับเปลี่ยนกฎระเบียบให้สามารถซื้อขายหน่วยลงทุนที่เป็น Exchange Traded Funds (ETF) ได้ เพื่อให้ต้นทุนของนักลงทุนรายย่อยต่ำลง เหมาะสำหรับการขยายหน่วยลงทุนไปสู่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนประเภทสถาบันประเภทต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง
ประโยชน์เพิ่มเติมอีกประการหนึ่งที่เป็นผลจากการจัดตั้งกองทุนนี้ คือ จะช่วยส่งเสริมให้เกิดดัชนีอ้างอิงสำหรับการลงทุนในตลาดพันธบัตรเอเชีย ที่มีความโปร่งใส เชื่อถือได้ และสามารถลงทุนตามได้ (replicable) ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการพัฒนาตลาดพันธบัตร กลุ่มประเทศสมาชิก EMEAP ได้ร่วมกับบริษัท International Index Company (เดิมชื่อ iBoxx) อย่างใกล้ชิด ในการจัดทำดัชนีอ้างอิงของตลาดพันธบัตร เอเชีย ที่จะมีแหล่งข้อมูลราคาพันธบัตรจากผู้ร่วมตลาดหลากหลาย ซึ่งจะส่งผลให้ราคาพันธบัตรในดัชนีอ้างอิงเป็นกลางและน่าเชื่อถือ ทั้งนี้ iBoxx จะเผยแพร่หลักเกณฑ์และวิธีการสร้างดัชนีอ้างอิงนี้แก่สาธารณะ เพื่อให้ภาคเอกชนอื่นๆ สามารถนำไปใช้ในการลงทุนหรือดัดแปลงการลงทุนให้เหมาะกับความต้องการได้ อีกทั้งดัชนีอ้างอิงนี้ สามารถนำตราสารอนุพันธ์มาร่วมเป็นองค์ประกอบในโครงสร้างของดัชนีได้ด้วย
ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ (Bank for International Settlement — BIS) จะช่วยทำหน้าที่ดูแลการลงทุน (Fund Administrator) ให้กับกลุ่มสมาชิก EMEAP ขณะนี้ กลุ่มประเทศสมาชิก EMEAP อยู่ระหว่างการคัดเลือกผู้จัดการทุน (Fund Manager) ผู้เก็บรักษาหลักทรัพย์ (Custodian) และผู้ให้บริการด้านอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับกองทุน PAIF และกองทุนย่อยทั้ง 8 กองทุน
รายชื่อบุคคลและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของผู้แทนกลุ่มประเทศสมาชิก EMEAP
ธนาคารกลางออสเตรเลีย
Guy Debelle (กาย ดีเบล)
61 2 9551 8400
ธนาคารกลางสาธารณรัฐประชาชนจีน
Chen Jing (เชน จิง)
86 10 6619 4853
ธนาคารกลางฮ่องกง
Thomas Chan (โทมัส ชาน)
852 2878 1480
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย
Rasmo Samiun (ราสโม ซาเมียม)
62 21 381 8100
ธนาคารกลางญี่ปุ่น
Atsushi Takeuchi (อัตสุชิ ทาเกอูชิ)<
81 3 3277 2915
ธนาคารกลางเกาหลี
Heung-Sik Choo ฮึง ซิก ชู)<
82 2 759 5202
ธนาคารกลางมาเลเซีย
Abu Hassan Alshari Yahaya (อาบู ฮัสซัน อัลซารี ยาฮายา)
60 3 2691 9335
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์
Kelly Eckhold (เคลลี เอคโฮล)
64 4 471 3879
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์
Editha S. Alido (อีดิทต้า เอส อะลีโด
63 2 524 6760
ธนาคารกลางสิงคโปร์
Corinna Chan (คอรินน่า ชาน)
65 6229 9923
ธนาคารแห่งประเทศไทย
พวรรณ มหามุสิก
66 2 283 5402
--ธนาคารแห่งประเทศไทย--