นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯรัฐมนตรีกล่าวพรรคประชาธิปัตย์ ทำงานบนความโลภะ โทสะ โมหะ ว่า นโยบายของพรรคยังไม่มีการพูดชัดเจนในเรื่องโทรศัพท์ แต่นายกฯก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงสร้างของโทรคมนาคมของไทยมีปัญหามาก การแข่งขันก็ไม่เป็นธรรม เพราะในแง่ของผู้ประกอบการ SME และแง่ของผลกระทบที่มีต่อผู้ใช้บริการและธุรกิจโทรคมนาคม ก็เป็นพื้นฐาน เป็นทุนของสำหรับทั้งธุรกิจ ตลอดทั้งการชีวิตสังคมในประเทศ เพราะฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ มีแนวคิดว่าจะต้องแก้ไขปัญหาตรงนนี้ ตนคิดว่านายกฯ จะมาปฏิเสธได้อย่างไร ว่าไม่ใช่เรื่องความไม่เป็นธรรม เพียงแต่ว่ากระทบผลประโยชน์ของนายกฯเอง จึงพยายามเบี่ยงเบนประเด็น
กรณีที่พยายามพูดถึงเรื่องความโลภ ความโกรธ ความหลง ตนอยากถามว่าวันนี้ที่รัฐบาลบริหารประเทศ ไม่ได้ใช้ความโลภนำเศรษฐกิจ ไม่ใช้ความโกรธนำนโยบายความมั่นคง และไม่ได้นำความหลงนำนโยบายนำการเมืองหรือ นี่เป็นสิ่งที่ตนคิดว่านายกฯควรจะหันมามองด้านนี้มากกว่า
ส่วนประเด็นที่ตนเคยบอกว่านายกฯไม่ควรใช้วิธีการข่มขู่หาเสียง ซึ่งนายกฯบอกว่าให้มองเป็นเรื่องอารมณ์ขันนั้นตนขอบอกนายกฯว่าควรออกมาย้ำว่าที่พูดไปนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และไม่ต้องห่วงว่าตนจะไม่ขำ เพราะตนขำนายกฯมาหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อไปดูทองที่จังหวัดกาญจนบุรี เพียงแต่ตนแยกแยะว่าช่วงไหนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ช่วงไหนเป็นตัวตลก
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
กรณีที่พยายามพูดถึงเรื่องความโลภ ความโกรธ ความหลง ตนอยากถามว่าวันนี้ที่รัฐบาลบริหารประเทศ ไม่ได้ใช้ความโลภนำเศรษฐกิจ ไม่ใช้ความโกรธนำนโยบายความมั่นคง และไม่ได้นำความหลงนำนโยบายนำการเมืองหรือ นี่เป็นสิ่งที่ตนคิดว่านายกฯควรจะหันมามองด้านนี้มากกว่า
ส่วนประเด็นที่ตนเคยบอกว่านายกฯไม่ควรใช้วิธีการข่มขู่หาเสียง ซึ่งนายกฯบอกว่าให้มองเป็นเรื่องอารมณ์ขันนั้นตนขอบอกนายกฯว่าควรออกมาย้ำว่าที่พูดไปนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และไม่ต้องห่วงว่าตนจะไม่ขำ เพราะตนขำนายกฯมาหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อไปดูทองที่จังหวัดกาญจนบุรี เพียงแต่ตนแยกแยะว่าช่วงไหนพ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ช่วงไหนเป็นตัวตลก
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 18 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-