นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย จะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปลี่ยนแปลงการนับคะแนนส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง หรือปาร์ตี้ลิสต์ โดยให้นับคะแนนในบัตรเสียรวมเข้าไปด้วยว่า ถ้าพรรคไทยรักไทยทำเช่นนั้นจริง ๆ ก็เป็นไปได้ว่าพรรคการเมืองขนาดเล็กจะได้รับผลกระทบค่อนข้างสูงมาก แสดงให้เห็นว่าพรรคไทยรักไทยพยายามตีความกฎหมายเลือกตั้ง เพื่อให้มีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นในระบบปาร์ตี้ลิสต์แบบก้าวกระโดด โดยไม่คำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มีพรรคการเมืองหลายพรรค จะได้เกิดความแตกต่างด้านอุดมการณ์ นโยบาย เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกได้อย่างเต็มที่
นายองอาจ กล่าวว่า สาเหตุที่พรรคไทยรักไทยต้องการตีความกฎหมายเช่นนี้ เพื่อต้องการให้ได้ ส.ส.ตรงตามยุทธศาสตร์ 400 เสียง ตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองขนาดเล็กเป็นอย่างมาก จึงขอเรียกร้องให้ กกต. ที่รับผิดชอบกฎหมายเลือกตั้ง และพรรคไทยรักไทย คำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มีพรรคการเมืองหลากหลาย รวมไปถึงการให้เกียรติกับพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพราะเป็นตัวแทนของประชาชนเหมือนกัน พรรคไทยรักไทย และ กกต. ไม่ควรไปจำกัดอุดมการณ์การเมืองให้มีเฉพาะพรรคไทยรักไทยเท่านั้นที่จะต้องมี ส.ส.มากที่สุดในประเทศ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า กฎหมายมีข้อจำกัดที่ชัดเจนว่าบัตรเสียไม่น่าจะมานับรวมกับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ได้ เพราะเป็นบัตรเสียไปแล้วตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ควรจะนับเฉพาะบัตรดีตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
“ผมเห็นว่าพรรคไทยรักไทยไม่ควรตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเองมากเกินไป จนละเลยความหลากหลายในสังคมประชาธิปไตย ความต้องการให้พรรคของตัวเองมีเสียงข้างมากก็ไม่ควรไปทำลายพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเมือง คือ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองเข้ามาจะดีที่สุดตามระบอบประชาธิปไตย” นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายองอาจ กล่าวว่า สาเหตุที่พรรคไทยรักไทยต้องการตีความกฎหมายเช่นนี้ เพื่อต้องการให้ได้ ส.ส.ตรงตามยุทธศาสตร์ 400 เสียง ตรงนี้จะส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองขนาดเล็กเป็นอย่างมาก จึงขอเรียกร้องให้ กกต. ที่รับผิดชอบกฎหมายเลือกตั้ง และพรรคไทยรักไทย คำนึงถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้มีพรรคการเมืองหลากหลาย รวมไปถึงการให้เกียรติกับพรรคการเมืองขนาดเล็ก เพราะเป็นตัวแทนของประชาชนเหมือนกัน พรรคไทยรักไทย และ กกต. ไม่ควรไปจำกัดอุดมการณ์การเมืองให้มีเฉพาะพรรคไทยรักไทยเท่านั้นที่จะต้องมี ส.ส.มากที่สุดในประเทศ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า กฎหมายมีข้อจำกัดที่ชัดเจนว่าบัตรเสียไม่น่าจะมานับรวมกับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ได้ เพราะเป็นบัตรเสียไปแล้วตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ควรจะนับเฉพาะบัตรดีตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น
“ผมเห็นว่าพรรคไทยรักไทยไม่ควรตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเองมากเกินไป จนละเลยความหลากหลายในสังคมประชาธิปไตย ความต้องการให้พรรคของตัวเองมีเสียงข้างมากก็ไม่ควรไปทำลายพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการเมือง คือ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองเข้ามาจะดีที่สุดตามระบอบประชาธิปไตย” นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 19 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-