นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯได้จัดทำบทวิเคราะห์เรื่อง “เขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน : ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไต้หวัน” เพื่อศึกษาผลกระทบที่ไต้หวันจะได้รับจากการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-จีน ซึ่งได้มีการลงนามเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 โดยถือเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2553 ทั้งนี้ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจของไต้หวัน ระบุว่า หลังจากมีการจัดตั้งเขตการค้าเสรีและภาษีลดเป็นศูนย์ จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 และประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 1-5.7 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไต้หวันจะลดลงร้อยละ 0.05 หรือเท่ากับ 149 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ไม้ กระดาษ พลาสติก และเคมีภัณฑ์ของไต้หวันจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
นอกจากนี้ การจัดทำความตกลงFTA อาเซียน-จีน อาจจะทำให้การลงทุนจากต่างชาติในไต้หวันลดลง โดยนักลงทุนต่างชาติเลือกที่จะลงทุนในจีนหรืออาเซียนมากกว่า เนื่องจากวัสดุและส่วนประกอบสำหรับการผลิตสามารถหมุนเวียนอยู่ในเขตการค้าอย่างเสรีมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำ นอกจากนี้ การขยายตัวของมูลค่าการค้าในเขตการค้าเสรีนี้ จะทำให้การส่งออกของจีนและอาเซียนไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของไต้หวันมีการแข่งขันมากขึ้น และอาจทำให้การส่งออกของไต้หวันไปสหรัฐฯ ลดลง
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวต่อไปว่า เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากการจัดทำความตกลงFTAอาเซียน-จีน รัฐบาลและภาคเอกชนต่างๆของไต้หวันได้ร่วมมือกันเพื่อแสวงหาโอกาสที่จะขอเจรจากับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งไต้หวันได้สำรวจความคิดเห็นของอุตสาหกรรมต่างๆปรากฏว่า ภาคอุตสาหกรรมมีความสนใจที่จะให้มีการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับสหรัฐฯเป็นอันดับแรก และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอันดับสอง ส่วนอุตสาหกรรมเคมี พลาสติก และปิโตรเลียมของไต้หวันต้องการที่จะให้รัฐบาลจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ซึ่งมีประชากร 220 ล้านคน โดยต้องการที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมันของอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมสิ่งทอของไต้หวันมีความกังวลกับการที่จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดียกำลังเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับอาเซียน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอของไต้หวัน เนื่องจากฮ่องกงและอาเซียนเป็นตลาดส่งออกสิ่งทอที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ด้านอุตสาหกรรมเหล็กได้เร่งรัดให้รัฐบาลเจรจาจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีกับอาเซียน เพราะนอกจากจีนแล้ว อาเซียนเป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-