วันที่ ( 22 ธ.ค. 2547) ขบวนคาราวานประชาธิปไตย ของพรรคประชาธิปัตย์ ออกเดินทางหาเสียงในจังหวัดพัทลุง โดยเริ่มเดินทางไป อ.ปากพยูน พื้นที่นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 3 อ.เขาชัยสน นายสุพัฒน์ ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง เขต 1 อ.ควนขนุน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง เขต 2 จากนั้นในช่วงเย็น นายบัญญัติและแกนนำได้ร่วมกันปราศรัยใหญ่ ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลาง อ.เมือง จ.พัทลุง โดยมีแกนนำของพรรคนำโดย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคฯ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรคฯ พร้อมด้วยส.ส.จังหวัดพัทลุง โดยมีประชาชนให้ความสนใจร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 30,000 คน
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง กล่าวปราศรัยว่า รัฐบาลไม่เคยคำนึงถึงประชาชน รัฐบาลบอกกับประชาชนว่า รัฐบาลมีบุญคุณกับประชาชน ดังนั้นเวลารัฐบาลหรือนายกฯไปไหนประชาชนก็ต้องมานั่งฟังว่า เงินจะมาลงที่ไหนบ้าง ตนขอให้พี่น้องชาวพัทลุงภูมิใจว่าภาคใต้ของเราเสียภาษีให้ประเทศมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะในขณะที่คนใต้เสียภาษีมาก ก็น่าจะได้รับงบประมาณมากตามสัดส่วนที่เสียภาษี แต่ 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลกลับตอบแทนคืนให้ภาคใต้น้อยที่สุด
นอกจากนี้นายนิพิฎฐ์ ยังกล่าวขอร้องพี่น้องชาวพัทลุง 2 เรื่อง คือ 1. ขอให้พี่น้องชาวพัทลุงอย่าเปิดประตูให้คนบุรีรัมย์เข้ามาฆ่าพี่น้องประชาชนถึงในบ้าน ซึ่งนายเนวินได้เดินทางมาที่พัทลุง และ บอกว่า ให้ประชาชนต้องกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนา และยังบอกอีกว่า อย่ามา ทรมารตัวเอง ดังนั้นหันมาเป็นรัฐบาลดีกว่าเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งนายนิพิฎฐ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การกระทำของนายเนวินในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ดูถูกพี่น้องชาวพัทลุง
นายนิพิฎฐ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่นายเนวินให้เปลี่ยนแปลงนั้น ตนอยากให้มองว่า ที่จังหวัดพัทลุงมีส.ส. 3 เขต ก็มี 3 นามสกุล แต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ส.ส.นามสกุล ‘ชิดชอบ’ทั้งหมดแม้แต่ส.ว.ก็นามสกุล ชิดชอบ ซึ่งถือเป็นการผูกขาดทั้งจังหวัด แล้วเนวินจะมาหลอกพี่น้องชาวพัทลุงว่า อย่าผูกขาดทางการเมือง เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อคนพันธุ์นี้ ส่วนกรณีที่นายเนวิน บอกว่า อย่าทรมารตัวเอง นายนิพิฎฐ์ ได้ยกตัวอย่างรายงานคุณภาพชีวิตขึ้นมาเปรียบเทียบระหว่างจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดพัทลุง ดังนี้
รายการ เปรียบเทียบอันดับคุณภาพชีวิต (ของประเทศ)
(เรื่อง) พัทลุง บุรีรัมย์
สุขภาพดี อันดับที่ 35 อันดับที่ 74
การศึกษา อันดับที่ 27 อันดับที่ 74
ด้านรายได้ อันดับที่ 38 อันดับที่ 69
ทั้งนี้ภาพรวมความเจริญทุกด้านจังหวัดพัทลุงอยู่อับดับที่ 37 ของประเทศ ส่วนจังหวัดบุรีรัมย์อยู่อันดับที่ 75 ของประเทศ จากรายงานดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพัทลุงดีกว่าที่บุรีรัมย์ ดังนั้นถ้าพี่น้องเชื่อนายเนวินที่บอกว่า ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาแล้วก็จะเหมือนจังหวัดบุรีรัมย์
ส่วนเรื่องที่ 2 ที่นายนิพิฎฐ์จะขอร้องพี่น้องชาวพัทลุงนั้น ถ้าสมมติมีคนเอาเงินมาให้ก็ให้รับไว้ แต่อย่าไปเลือกเขา
“ขอประกาศต่อน้าพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุงว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เลือดไหลไม่หยุด ส.ส.นิพิฎฐ์คนนี้ก็จะขอเป็นเลือดหยดสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าวันใดพรรคประชาธิปัตย์ต้องสูญสิ้น ต้องถูกยุบ ผมจะทำสิ่งสุดท้ายตอบแทนให้พรรคประชาธิปัตย์เอง” นายนิพิฎฐ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง กล่าวปราศรัยว่า รัฐบาลไม่เคยคำนึงถึงประชาชน รัฐบาลบอกกับประชาชนว่า รัฐบาลมีบุญคุณกับประชาชน ดังนั้นเวลารัฐบาลหรือนายกฯไปไหนประชาชนก็ต้องมานั่งฟังว่า เงินจะมาลงที่ไหนบ้าง ตนขอให้พี่น้องชาวพัทลุงภูมิใจว่าภาคใต้ของเราเสียภาษีให้ประเทศมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเพราะในขณะที่คนใต้เสียภาษีมาก ก็น่าจะได้รับงบประมาณมากตามสัดส่วนที่เสียภาษี แต่ 4 ปีที่ผ่านมารัฐบาลกลับตอบแทนคืนให้ภาคใต้น้อยที่สุด
นอกจากนี้นายนิพิฎฐ์ ยังกล่าวขอร้องพี่น้องชาวพัทลุง 2 เรื่อง คือ 1. ขอให้พี่น้องชาวพัทลุงอย่าเปิดประตูให้คนบุรีรัมย์เข้ามาฆ่าพี่น้องประชาชนถึงในบ้าน ซึ่งนายเนวินได้เดินทางมาที่พัทลุง และ บอกว่า ให้ประชาชนต้องกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนา และยังบอกอีกว่า อย่ามา ทรมารตัวเอง ดังนั้นหันมาเป็นรัฐบาลดีกว่าเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งนายนิพิฎฐ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การกระทำของนายเนวินในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ดูถูกพี่น้องชาวพัทลุง
นายนิพิฎฐ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่นายเนวินให้เปลี่ยนแปลงนั้น ตนอยากให้มองว่า ที่จังหวัดพัทลุงมีส.ส. 3 เขต ก็มี 3 นามสกุล แต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ส.ส.นามสกุล ‘ชิดชอบ’ทั้งหมดแม้แต่ส.ว.ก็นามสกุล ชิดชอบ ซึ่งถือเป็นการผูกขาดทั้งจังหวัด แล้วเนวินจะมาหลอกพี่น้องชาวพัทลุงว่า อย่าผูกขาดทางการเมือง เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อคนพันธุ์นี้ ส่วนกรณีที่นายเนวิน บอกว่า อย่าทรมารตัวเอง นายนิพิฎฐ์ ได้ยกตัวอย่างรายงานคุณภาพชีวิตขึ้นมาเปรียบเทียบระหว่างจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดพัทลุง ดังนี้
รายการ เปรียบเทียบอันดับคุณภาพชีวิต (ของประเทศ)
(เรื่อง) พัทลุง บุรีรัมย์
สุขภาพดี อันดับที่ 35 อันดับที่ 74
การศึกษา อันดับที่ 27 อันดับที่ 74
ด้านรายได้ อันดับที่ 38 อันดับที่ 69
ทั้งนี้ภาพรวมความเจริญทุกด้านจังหวัดพัทลุงอยู่อับดับที่ 37 ของประเทศ ส่วนจังหวัดบุรีรัมย์อยู่อันดับที่ 75 ของประเทศ จากรายงานดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพัทลุงดีกว่าที่บุรีรัมย์ ดังนั้นถ้าพี่น้องเชื่อนายเนวินที่บอกว่า ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อการพัฒนาแล้วก็จะเหมือนจังหวัดบุรีรัมย์
ส่วนเรื่องที่ 2 ที่นายนิพิฎฐ์จะขอร้องพี่น้องชาวพัทลุงนั้น ถ้าสมมติมีคนเอาเงินมาให้ก็ให้รับไว้ แต่อย่าไปเลือกเขา
“ขอประกาศต่อน้าพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุงว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เลือดไหลไม่หยุด ส.ส.นิพิฎฐ์คนนี้ก็จะขอเป็นเลือดหยดสุดท้ายของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าวันใดพรรคประชาธิปัตย์ต้องสูญสิ้น ต้องถูกยุบ ผมจะทำสิ่งสุดท้ายตอบแทนให้พรรคประชาธิปัตย์เอง” นายนิพิฎฐ์ กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 23 ธ.ค. 2547--จบ--
-ดท-