กระทรวงการคลัง โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติคลื่นซึนามิในภาคใต้
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติคลื่นซึนามิในภาคใต้ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมาก รวมทั้งลูกค้าของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็ได้รับความเสียหายในทรัพย์สิน พื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน และส่งผลกระทบต่อรายได้ ซึ่งจะต้องมีการปลูกสร้างซ่อมแซมที่อยู่อาศัย กระทรวงการคลัง โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์จึงออกมาตรการช่วยเหลือด้วยการออกโครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบภัยซึนามิ ซึ่งมีหลักเกณฑ์และวิธีการให้เงินกู้ของโครงการ ดังนี้
1. คุณสมบัติของผู้กู้
1.1 เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่ ซึ่งที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจากการประสบภัยซึนามิในภาคใต้ 6 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และระนอง
1.2 เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพใน 6 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และระนอง และได้รับผลกระทบต่อรายได้จากภัยซึนามิ
2. วัตถุประสงค์การขอกู้
2.1 เพื่อลดภาระหนี้ที่ผ่อนชำระเงินกู้กับ ธอส.
2.2 เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
2.3 เพื่อซ่อมแซมอาคารที่เสียหาย ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
3. วงเงินให้กู้
การให้กู้ตามข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ให้กู้/กู้เพิ่มไม่เกินรายละ 1.5 ล้านบาท โดยเกณฑ์การพิจารณาให้สินเชื่อเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของ ธอส.
4. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
4.1 กรณีลูกหนี้เดิมและอาคารได้รับความเสียหาย
ลดภาระอัตราดอกเบี้ยในช่วง 1 ปี โดยคิดในอัตรา 1% ต่อปี ปีที่ 2-4 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคารในขณะนั้น และหลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
ส่วนที่กู้เพิ่ม คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี ในอัตรา 2% ต่อปี ปีที่ 6-8 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคารในขณะนั้น และหลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
4.2 กรณีกู้ใหม่
คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี ในอัตรา 2% ต่อปี ปีที่ 6-8 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคารในขณะนั้น และหลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
4.3 กรณีลูกหนี้เดิมของ ธอส.
ลดภาระอัตราดอกเบี้ยในช่วง 1 ปี โดยคิดในอัตรา 1% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิม
5. หลักประกันในการขอกู้เงิน
เป็นโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3ก. หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และระนอง ยกเว้นลูกหนี้เดิมของ ธอส. ตามข้อ 1.2 หลักประกันตั้งอยู่ในจังหวัดใดก็ได้
6. การพิจารณาให้กู้เงินและเงื่อนไขอื่นๆ รวมถึงกรณีผิดนักชำระหนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
7. กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงิน
ติดต่อยื่นคำขอกู้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2547 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2548
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 109/2547 27ธันวาคม 2547--
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติคลื่นซึนามิในภาคใต้ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดแถบชายฝั่งทะเลอันดามัน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมาก รวมทั้งลูกค้าของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็ได้รับความเสียหายในทรัพย์สิน พื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน และส่งผลกระทบต่อรายได้ ซึ่งจะต้องมีการปลูกสร้างซ่อมแซมที่อยู่อาศัย กระทรวงการคลัง โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์จึงออกมาตรการช่วยเหลือด้วยการออกโครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบภัยซึนามิ ซึ่งมีหลักเกณฑ์และวิธีการให้เงินกู้ของโครงการ ดังนี้
1. คุณสมบัติของผู้กู้
1.1 เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. หรือลูกค้าใหม่ ซึ่งที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจากการประสบภัยซึนามิในภาคใต้ 6 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และระนอง
1.2 เป็นลูกหนี้เดิมของ ธอส. ที่ประกอบอาชีพใน 6 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และระนอง และได้รับผลกระทบต่อรายได้จากภัยซึนามิ
2. วัตถุประสงค์การขอกู้
2.1 เพื่อลดภาระหนี้ที่ผ่อนชำระเงินกู้กับ ธอส.
2.2 เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนอาคารเดิม เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
2.3 เพื่อซ่อมแซมอาคารที่เสียหาย ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
3. วงเงินให้กู้
การให้กู้ตามข้อ 2.2 และข้อ 2.3 ให้กู้/กู้เพิ่มไม่เกินรายละ 1.5 ล้านบาท โดยเกณฑ์การพิจารณาให้สินเชื่อเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของ ธอส.
4. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
4.1 กรณีลูกหนี้เดิมและอาคารได้รับความเสียหาย
ลดภาระอัตราดอกเบี้ยในช่วง 1 ปี โดยคิดในอัตรา 1% ต่อปี ปีที่ 2-4 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคารในขณะนั้น และหลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
ส่วนที่กู้เพิ่ม คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี ในอัตรา 2% ต่อปี ปีที่ 6-8 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคารในขณะนั้น และหลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
4.2 กรณีกู้ใหม่
คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปี ในอัตรา 2% ต่อปี ปีที่ 6-8 คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคารในขณะนั้น และหลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวตามประกาศธนาคาร
4.3 กรณีลูกหนี้เดิมของ ธอส.
ลดภาระอัตราดอกเบี้ยในช่วง 1 ปี โดยคิดในอัตรา 1% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามสัญญาเดิม
5. หลักประกันในการขอกู้เงิน
เป็นโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3ก. หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล ตรัง และระนอง ยกเว้นลูกหนี้เดิมของ ธอส. ตามข้อ 1.2 หลักประกันตั้งอยู่ในจังหวัดใดก็ได้
6. การพิจารณาให้กู้เงินและเงื่อนไขอื่นๆ รวมถึงกรณีผิดนักชำระหนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
7. กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงิน
ติดต่อยื่นคำขอกู้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2547 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2548
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 109/2547 27ธันวาคม 2547--