นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า ตามที่สหภาพยุโรปได้มีข้อกำหนดให้ผู้ส่งออกสิ่งทอต้องขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิด สินค้าสิ่งทอ ( C/O Textile ) ไปแสดงประกอบการนำเข้าทุกครั้ง และจากการที่ สหภาพยุโรปได้ประกาศจำกัดปริมาณนำเข้าสิ่งทอจากจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสำหรับสินค้าเครื่องนุ่งห่ม 6 รายการ ได้แก่ เสื้อที-เชิ้ต เสื้อกันหนาว กางเกง เสื้อสตรี ชุดสตรีและเสื้อยกทรง จึงมีโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะมีการแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าสิ่งทอจากจีนผ่านประเทศไทย ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป
เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าดังกล่าว กรมการค้าต่างประเทศ จึงได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในการขอ C/O Textile โดยให้ผู้ส่งออกต้องรายงานหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับการส่งออกและการประกอบการเพื่อสามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้าสิ่งทอที่ขอ C/O Textile มีแหล่งผลิต / แหล่งกำเนิดในประเทศและมีการส่งออกจากประเทศไทยอย่างถูกต้อง รวมทั้งผู้ส่งออกมีสถานะการประกอบการที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นการคุ้มครองผู้ประกอบการที่สุจริตและ ปกป้องสิทธิของผู้ส่งออกสิ่งทอไทย อีกทั้งเอกสารที่ให้รายงานก็เป็นเอกสารที่โดยปกติ ผู้ประกอบการต้องมีในการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นปัญหาอุปสรรคในการขอ C/O Textile และการส่งออกสิ่งทอไปสหภาพยุโรปแต่อย่างใด
ปี 2547 ไทยส่งสินค้าสิ่งทอไปสหภาพยุโรป มูลค่า 47,944.5 ล้านบาท และในช่วงเดือนมกราคม —พฤษภาคม 2548 ส่งไปแล้วมูลค่า 17,818.1 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของ ปี 2547 ร้อยละ 1.02
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-
เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าดังกล่าว กรมการค้าต่างประเทศ จึงได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในการขอ C/O Textile โดยให้ผู้ส่งออกต้องรายงานหลักฐานเอกสารเกี่ยวกับการส่งออกและการประกอบการเพื่อสามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้าสิ่งทอที่ขอ C/O Textile มีแหล่งผลิต / แหล่งกำเนิดในประเทศและมีการส่งออกจากประเทศไทยอย่างถูกต้อง รวมทั้งผู้ส่งออกมีสถานะการประกอบการที่แท้จริง ซึ่งจะเป็นการคุ้มครองผู้ประกอบการที่สุจริตและ ปกป้องสิทธิของผู้ส่งออกสิ่งทอไทย อีกทั้งเอกสารที่ให้รายงานก็เป็นเอกสารที่โดยปกติ ผู้ประกอบการต้องมีในการดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นปัญหาอุปสรรคในการขอ C/O Textile และการส่งออกสิ่งทอไปสหภาพยุโรปแต่อย่างใด
ปี 2547 ไทยส่งสินค้าสิ่งทอไปสหภาพยุโรป มูลค่า 47,944.5 ล้านบาท และในช่วงเดือนมกราคม —พฤษภาคม 2548 ส่งไปแล้วมูลค่า 17,818.1 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของ ปี 2547 ร้อยละ 1.02
--กรมการค้าระหว่างประเทศ--
-สส-