นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนพฤศจิกายน 2548 และในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 (ตุลาคม — พฤศจิกายน 2548) พร้อมทั้งสถานะหนี้สาธารณะล่าสุด ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2548 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 :-
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนตุลาคม 2548 จำนวน 50,000 ล้านบาท ด้วยการดำเนินการออกพันธบัตร 40,000 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 10,000 ล้านบาท โดยในชั้นแรกได้กู้เงินระยะสั้น 46,000 ล้านบาท สมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรงวดแรก 4,000 ล้านบาท เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด แล้วทยอยออกพันธบัตร/ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 17,000 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้กู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิม 1,000 ล้านบาท
1.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 :-
(1) ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนเงินกู้ ECP (Euro Commercial Paper) ที่ใช้เป็น Bridge Financing ในการ Refinance เงินกู้ JBIC (Japan Bank for International Cooperation) ก่อนครบกำหนดวงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่า 4,116 ล้านบาท ทำให้ลดยอดหนี้คงค้างได้ 4,116 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ 457 ล้านบาท
(2) ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) รวม 50,000 ล้านบาท และ Roll Over หนี้ของรัฐวิสาหกิจรวม 5,000 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 : -
กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF3) โดยออกพันธบัตรออมทรัพย์ 2,000 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศรวม 3,524 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เพื่อลงทุน 24 ล้านบาท และกู้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน 3,500 ล้านบาท
2.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 :-
ภาครัฐได้กู้เงินรวม 12,274 ล้านบาท เป็นการกู้ของรัฐวิสาหกิจตามแผนก่อหนี้จากต่างประเทศ 250 ล้านบาท และการกู้เงินในประเทศ 12,024 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 7,500 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 4,524 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
3.1 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 :-
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,934 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 945 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 5,989 ล้านบาท
3.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 :-
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยจากงบประมาณรวม 17,903 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2548
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2548 มีจำนวน 3,265,637 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.98 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,814,619 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,022,689 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 428,329 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 11,861 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 12,375 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 9,924 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 9,410 ล้านบาท
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 593,032 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.16 และหนี้ในประเทศ 2,672,605 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.84 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,611,859 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.98 และหนี้ระยะสั้น 653,778 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.02 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 121/2548 28 ธันวาคม 48--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
1.1 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 :-
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนตุลาคม 2548 จำนวน 50,000 ล้านบาท ด้วยการดำเนินการออกพันธบัตร 40,000 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ 10,000 ล้านบาท โดยในชั้นแรกได้กู้เงินระยะสั้น 46,000 ล้านบาท สมทบกับเงินที่ได้จากการประมูลพันธบัตรงวดแรก 4,000 ล้านบาท เพื่อไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด แล้วทยอยออกพันธบัตร/ตั๋วสัญญาใช้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยได้รับเงินจากการประมูลพันธบัตรในเดือนนี้ 17,000 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้กู้เงินในประเทศเพื่อ Roll Over หนี้เดิม 1,000 ล้านบาท
1.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 :-
(1) ด้านต่างประเทศ
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนเงินกู้ ECP (Euro Commercial Paper) ที่ใช้เป็น Bridge Financing ในการ Refinance เงินกู้ JBIC (Japan Bank for International Cooperation) ก่อนครบกำหนดวงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเทียบเท่า 4,116 ล้านบาท ทำให้ลดยอดหนี้คงค้างได้ 4,116 ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ 457 ล้านบาท
(2) ด้านในประเทศ
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) รวม 50,000 ล้านบาท และ Roll Over หนี้ของรัฐวิสาหกิจรวม 5,000 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
2.1 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 : -
กระทรวงการคลังได้ออกพันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF3) โดยออกพันธบัตรออมทรัพย์ 2,000 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศรวม 3,524 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เพื่อลงทุน 24 ล้านบาท และกู้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน 3,500 ล้านบาท
2.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 :-
ภาครัฐได้กู้เงินรวม 12,274 ล้านบาท เป็นการกู้ของรัฐวิสาหกิจตามแผนก่อหนี้จากต่างประเทศ 250 ล้านบาท และการกู้เงินในประเทศ 12,024 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 7,500 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 4,524 ล้านบาท
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
3.1 ในเดือนพฤศจิกายน 2548 :-
กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 6,934 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 945 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 5,989 ล้านบาท
3.2 ในช่วงสองเดือนแรกของปีงบประมาณ 2549 :-
กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยจากงบประมาณรวม 17,903 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2548
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2548 มีจำนวน 3,265,637 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.98 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,814,619 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,022,689 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 428,329 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 11,861 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 12,375 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 9,924 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 9,410 ล้านบาท
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 593,032 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.16 และหนี้ในประเทศ 2,672,605 ล้านบาท หรือร้อยละ 81.84 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,611,859 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.98 และหนี้ระยะสั้น 653,778 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.02 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 121/2548 28 ธันวาคม 48--