ไอศกรีมเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากนมที่นอกจากจะผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศแล้วยังมีการส่งออกอีกด้วยโดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาการส่งออกไอศกรีมของไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จากที่มีมูลค่า 10.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2544 เพิ่มเป็น 17.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2546 เฉลี่ย 9.5 % ต่อปี และในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2547 มูลค่าส่งออกขยายตัวสูงถึง 27.1 % โดยตลาดส่งออกสำคัญ คือ มาเลเซีย(มีสัดส่วน 51%ของมูลค่าส่งออกไอศกรีมทั้งหมดของไทย)สิงค์โปร(22%) และใต้หวัน(8%)
ปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนต่อการส่งออกไอศกรีมของไทย คือ
-ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของผู้ผลิตไอศกรีมรายสำคัญของโลก อาทิ Nestle และ Unilever บริษัทเหล่านี้ใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกไอศกรีมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ปัจจุบันอาเซียนเป็นตลาดส่งออกไอศกรีมสำคัญอันดับ 1 ของไทย ด้วยมูลค่าส่งออกคิดเป็น 82 %ของมูลค่าส่งออกไอศกรีมทั้งหมดของไทย
-ไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตไอศกรีม เนื่องจากมีวัตถุดิบหลากหลายชนิดโดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อน อาทิ มะม่วง มะพร้าว ทุเรียน รวมทั้งสมุนไพร ที่สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไอศกรีมซึ่งเป้นจุดขายอย่างดีสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ขณะเดียวกันนมและผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตมีการพัฒนามาเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งปรับปรุงคุณภาพการเลี้ยงโคนมเพื่อให้มีปริมาณน้ำนมมากขึ้นและสามารถรองรับปริมาณการผลิตไอศกรีมที่เพิ่มขึ้นได้
-ตลาดส่งออกสำคัญมีแนวโน้มบริโภคไอศกรีมเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกามีอัตราการบริโภคไอศกรีมเพิ่มขึ้นจาก 22 ลิตร/คน/ปี ในปี 2543 เป็น 24 ลิตร/คน/ปี ในปี 2547 ออสเตรเลีย มีอัตราการบริโภคไอศกรีมเพิ่มขึ้นจาก 17.8 ลิตร/คน/ปี ในปี 2543 เป็น 18 ลิตร/คน/ปี ในปี 2547
-สิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ทำให้ไอศกรีมของไทยที่จำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียนเสียภาษีในอัตราเพียง 2% เทียบกับประเทศนอกกลุ่มอาเซียนที่เสียภาษีในอัตรา 5% สิทธิประโยชน์ดังกล่าวทำให้ไทยขยายการส่งออกไอศกรีมไปยังอาเซียนซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญได้เพิ่มขึ้น
จากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ข้างต้น ประกอบกับแนวโน้มต้นทุนการผลิตไอศกรีมของไทยที่จะลดลงโดยเฉพาะต้นทุนการนำเข้าผลิตภัณฑ์นม รวมถึงปริมาณนำเข้าผลิตภัณฑ์นมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาการขยายโควตานำเข้าภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับออสเตรเลียซึ่งจะมีผลบังคับใช้ต้นปี 2548 คาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกไอศกรีมของไทยในระยะข้างหน้าอย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตและส่งออกไอศกรีมของไทยควรเร่งพัฒนาตราสินค้า มาตรฐานการผลิต และคิดค้นรสชาติไอศกรีมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยเพื่อให้ไอศกรีมซึ่งมีตราสินค้าของไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกและเป็นการเพิ่มมูลค่าส่งออกให้กับไอศกรีมของไทยอีกทางหนึ่ง
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เมษายน 2548--
-พห-
ปัจจัยสำคัญที่เกื้อหนุนต่อการส่งออกไอศกรีมของไทย คือ
-ไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของผู้ผลิตไอศกรีมรายสำคัญของโลก อาทิ Nestle และ Unilever บริษัทเหล่านี้ใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกไอศกรีมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ปัจจุบันอาเซียนเป็นตลาดส่งออกไอศกรีมสำคัญอันดับ 1 ของไทย ด้วยมูลค่าส่งออกคิดเป็น 82 %ของมูลค่าส่งออกไอศกรีมทั้งหมดของไทย
-ไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตไอศกรีม เนื่องจากมีวัตถุดิบหลากหลายชนิดโดยเฉพาะผลไม้เมืองร้อน อาทิ มะม่วง มะพร้าว ทุเรียน รวมทั้งสมุนไพร ที่สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไอศกรีมซึ่งเป้นจุดขายอย่างดีสำหรับผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพ ขณะเดียวกันนมและผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตมีการพัฒนามาเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่งปรับปรุงคุณภาพการเลี้ยงโคนมเพื่อให้มีปริมาณน้ำนมมากขึ้นและสามารถรองรับปริมาณการผลิตไอศกรีมที่เพิ่มขึ้นได้
-ตลาดส่งออกสำคัญมีแนวโน้มบริโภคไอศกรีมเพิ่มขึ้น อาทิ สหรัฐอเมริกามีอัตราการบริโภคไอศกรีมเพิ่มขึ้นจาก 22 ลิตร/คน/ปี ในปี 2543 เป็น 24 ลิตร/คน/ปี ในปี 2547 ออสเตรเลีย มีอัตราการบริโภคไอศกรีมเพิ่มขึ้นจาก 17.8 ลิตร/คน/ปี ในปี 2543 เป็น 18 ลิตร/คน/ปี ในปี 2547
-สิทธิประโยชน์ด้านภาษีจากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน ทำให้ไอศกรีมของไทยที่จำหน่ายในกลุ่มประเทศอาเซียนเสียภาษีในอัตราเพียง 2% เทียบกับประเทศนอกกลุ่มอาเซียนที่เสียภาษีในอัตรา 5% สิทธิประโยชน์ดังกล่าวทำให้ไทยขยายการส่งออกไอศกรีมไปยังอาเซียนซึ่งเป็นตลาดส่งออกสำคัญได้เพิ่มขึ้น
จากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ข้างต้น ประกอบกับแนวโน้มต้นทุนการผลิตไอศกรีมของไทยที่จะลดลงโดยเฉพาะต้นทุนการนำเข้าผลิตภัณฑ์นม รวมถึงปริมาณนำเข้าผลิตภัณฑ์นมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาการขยายโควตานำเข้าภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับออสเตรเลียซึ่งจะมีผลบังคับใช้ต้นปี 2548 คาดว่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกไอศกรีมของไทยในระยะข้างหน้าอย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตและส่งออกไอศกรีมของไทยควรเร่งพัฒนาตราสินค้า มาตรฐานการผลิต และคิดค้นรสชาติไอศกรีมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทยเพื่อให้ไอศกรีมซึ่งมีตราสินค้าของไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลกและเป็นการเพิ่มมูลค่าส่งออกให้กับไอศกรีมของไทยอีกทางหนึ่ง
--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เมษายน 2548--
-พห-