แท็ก
อุตสาหกรรม
รสนิยมการบริโภค
ในช่วงปี 2539 ถึงปัจจุบัน (2542) และการคาดการณ์ต่อไปถึงปี 2542 เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ อัตราคนว่างงานลดลง ประชาชนมีกำลังซื้อสูง กอปรกับความต้องการเสื้อผ้าสำหรับใช้ในฤดูกาลที่ต่างกัน ความสนใจและการส่งเสริมอุตสาหกรรมการออกแบบ และความพยายามในการผลักดันให้สหราชอาณาจักรเป็นศูนย์กลางแฟชั่นชั้นนำของโลกและแนวโน้มของคนที่นิยมการจับจ่ายซื้อของ ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา (มีจำนวนราว 1 ล้านคนและเพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง) ทำให้เสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่คนนิยมซื้อหรือมีความจำเป็นในการซื้อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การขายปลีกของผู้ผลิตสินค้าชั้นนำในด้านเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Brand Name) มีมูลค่าประมาณ 13.5 พันล้านปอนด์ต่อปี (940 พันล้านบาท) การใช้จ่ายของผู้บริโภคสำหรับสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 25 โอกาสและการขยายตัวของตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งตลาดล่าง ตลาดกลางและตลาดบน (สินค้าของผู้ออกแบบชั้นนำประเภท Brand Name) จึงมีอยู่มาก
โครงสร้างประชากร
โครงสร้างประชากรของสหรัฐราชอาณาจักร ระหว่างปี 2535-2544 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ซึ่งจะมีผลต่อความต้องการเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดังนี้
1. กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 5-14 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.2 ของประชากรทั้งหมด
2. กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี จะลดลงประมาณร้อยละ 8
3. กลุ่มอายุระหว่าง 25-34 ปี จะลดลงประมาณร้อยละ 9.2
4. กลุ่มอายุระหว่าง 35-54 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12.8
5. กลุ่มอายุประมาณ 55-64 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.6
6. กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2.2
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับเด็กขยายตัวขึ้น ในขณะที่ความต้องการเสื้อผ้าสำหรับเด็กวัยรุ่นที่เคยเป็นกลุ่มหลักลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่ตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่วัยกลางคน และผู้สูงอายุจะมีโอกาสทางการค้ามากกว่าเดิม
การผลิตภายในประเทศ
การผลิตในประเทศของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปของสหราชอาณาจักรมีการใช้เครื่องจักร และเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยในการควบคุมและลดต้นทุนในการผลิต รวมทั้ง การจัดส่งสินค้าทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง การลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทนี้จึงขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการจ้างงานของสหราชอาณาจักร ในปัจจุบันพบการปลอมแปลงสินค้าประเภทสินค้าของผู้ผลิตชั้นนำ (Brand Name) ขายตามบาทวิถีโดยสินค้าเหล่านี้ผลิตในสหราชอาณาจักรเอง ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่แหล่งผลิตและนำเข้าสินค้าดังกล่าวจะมาจากประเทศกำลังพัฒนานอกยุโรป
ปัจจุบันสหราชอาณาจักรมี 5 บริษัทใหญ่ที่ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และยังมีบริษัทและโรงงานขนาดเล็กอีกมากมาย โดยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 550-590 ล้านปอนด์ต่อปี (38,000-41,000 ล้านบาท)
การส่งออก
แม้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปของสหราชอาณาจักรจะเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการจ้างงาน แต่ก็มิได้เป็นอุตสาหกรรมหลักเพื่อการส่งออกของประเทศ จากสถิติที่ปรากฎ การส่งออกสินค้าดังกล่าวคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 20 ของการผลิตเท่านั้น สำหรับตลาดส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในสหภาพยุโรป คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านปอนด์ต่อปี อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าสำเร็จรูปของสหราชอาณาจักรมีหลายยี่ห้อที่กลายเป็นสินค้าประเภทกึ่ง Brand Name และรัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการออกแบบเสื้อผ้า เพื่อเสริมการแข่งขันและการส่งออกสินค้าดังกล่าวในตลาดบน
การนำเข้า
สหราชอาณาจักร นำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากประเทศในสหภาพยุโรปด้วยการประมาณร้อยละ 40 โดยนำเข้าจากอิตาลีและเยอรมันมากที่สุด สำหรับในเอเชียฮ่องกงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สหราชอาณาจักรนำเข้าสินค้าดังกล่าว โดยมีส่วนแบ่งในการนำเข้าประมาณร้อยละ 20 ของยอดการนำเข้าทั้งหมด
ส่วนใหญ่การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะถูกควบคุมโดยระบบโควต้า อย่างไรก็ดี ประเทศในสหภาพยุโรปมีความตกลงพิเศษเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน และกลุ่มประเทศที่แยกตัวออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต ทำให้สหราชอาณาจักรนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจาก 2 กลุ่มดังกล่าวมากที่สุด
ช่องทางการจัดจำหน่าย
ช่องทางการจัดจำหน่ายเสื้อผ้าในสหราชอาณาจักร มีดังนี้.-
1) ห้างสรรพสินค้า
2) ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Boutique)
3) ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสำหรับเด็ก
4) ซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่
5) การขายตรงทางไปรษณีย์
โอกาสทางการตลาดของไทย
สหราชอาณาจักร เป็นตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปขนาดใหญ่ สำหรับชนชั้นกลางและผู้ใช้แรงงาน แนวโน้มสำหรับตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุมากกว่าเด็กวัยรุ่น ประเทศไทยมีโอกาสดีในตลาดสิ้นค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในสหราชอาณาจักร หากสามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าให้เป็นตามมาตรฐานที่กำหนด อีกทั้งควบคุมต้นทุนการผลิต และการส่งมอบสินค้าที่ถูกต้องและตรงต่อเวลา ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่ค้าสำคัญในระบบโควต้าของสหราชอาณาจักร อาทิ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และสาธารณรัฐประชาชนจีนได้
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 21/15 พฤศจิกายน 2542--
ในช่วงปี 2539 ถึงปัจจุบัน (2542) และการคาดการณ์ต่อไปถึงปี 2542 เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพ อัตราคนว่างงานลดลง ประชาชนมีกำลังซื้อสูง กอปรกับความต้องการเสื้อผ้าสำหรับใช้ในฤดูกาลที่ต่างกัน ความสนใจและการส่งเสริมอุตสาหกรรมการออกแบบ และความพยายามในการผลักดันให้สหราชอาณาจักรเป็นศูนย์กลางแฟชั่นชั้นนำของโลกและแนวโน้มของคนที่นิยมการจับจ่ายซื้อของ ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา (มีจำนวนราว 1 ล้านคนและเพิ่มขึ้นทั้งชายและหญิง) ทำให้เสื้อผ้าสำเร็จรูปเป็นสินค้าที่คนนิยมซื้อหรือมีความจำเป็นในการซื้อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การขายปลีกของผู้ผลิตสินค้าชั้นนำในด้านเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Brand Name) มีมูลค่าประมาณ 13.5 พันล้านปอนด์ต่อปี (940 พันล้านบาท) การใช้จ่ายของผู้บริโภคสำหรับสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 25 โอกาสและการขยายตัวของตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งตลาดล่าง ตลาดกลางและตลาดบน (สินค้าของผู้ออกแบบชั้นนำประเภท Brand Name) จึงมีอยู่มาก
โครงสร้างประชากร
โครงสร้างประชากรของสหรัฐราชอาณาจักร ระหว่างปี 2535-2544 จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ซึ่งจะมีผลต่อความต้องการเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดังนี้
1. กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 5-14 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8.2 ของประชากรทั้งหมด
2. กลุ่มที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี จะลดลงประมาณร้อยละ 8
3. กลุ่มอายุระหว่าง 25-34 ปี จะลดลงประมาณร้อยละ 9.2
4. กลุ่มอายุระหว่าง 35-54 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 12.8
5. กลุ่มอายุประมาณ 55-64 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7.6
6. กลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 2.2
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าวคาดว่า จะทำให้ตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับเด็กขยายตัวขึ้น ในขณะที่ความต้องการเสื้อผ้าสำหรับเด็กวัยรุ่นที่เคยเป็นกลุ่มหลักลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่ตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่วัยกลางคน และผู้สูงอายุจะมีโอกาสทางการค้ามากกว่าเดิม
การผลิตภายในประเทศ
การผลิตในประเทศของอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปของสหราชอาณาจักรมีการใช้เครื่องจักร และเทคโนโลยีอันทันสมัยเข้ามาช่วยในการควบคุมและลดต้นทุนในการผลิต รวมทั้ง การจัดส่งสินค้าทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลง การลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทนี้จึงขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการจ้างงานของสหราชอาณาจักร ในปัจจุบันพบการปลอมแปลงสินค้าประเภทสินค้าของผู้ผลิตชั้นนำ (Brand Name) ขายตามบาทวิถีโดยสินค้าเหล่านี้ผลิตในสหราชอาณาจักรเอง ซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่แหล่งผลิตและนำเข้าสินค้าดังกล่าวจะมาจากประเทศกำลังพัฒนานอกยุโรป
ปัจจุบันสหราชอาณาจักรมี 5 บริษัทใหญ่ที่ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป และยังมีบริษัทและโรงงานขนาดเล็กอีกมากมาย โดยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 550-590 ล้านปอนด์ต่อปี (38,000-41,000 ล้านบาท)
การส่งออก
แม้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปของสหราชอาณาจักรจะเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการจ้างงาน แต่ก็มิได้เป็นอุตสาหกรรมหลักเพื่อการส่งออกของประเทศ จากสถิติที่ปรากฎ การส่งออกสินค้าดังกล่าวคิดเป็นเพียงประมาณร้อยละ 20 ของการผลิตเท่านั้น สำหรับตลาดส่งออกส่วนใหญ่จะเป็นประเทศในสหภาพยุโรป คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านปอนด์ต่อปี อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าสำเร็จรูปของสหราชอาณาจักรมีหลายยี่ห้อที่กลายเป็นสินค้าประเภทกึ่ง Brand Name และรัฐบาลสหราชอาณาจักรกำลังมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมการออกแบบเสื้อผ้า เพื่อเสริมการแข่งขันและการส่งออกสินค้าดังกล่าวในตลาดบน
การนำเข้า
สหราชอาณาจักร นำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากประเทศในสหภาพยุโรปด้วยการประมาณร้อยละ 40 โดยนำเข้าจากอิตาลีและเยอรมันมากที่สุด สำหรับในเอเชียฮ่องกงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สหราชอาณาจักรนำเข้าสินค้าดังกล่าว โดยมีส่วนแบ่งในการนำเข้าประมาณร้อยละ 20 ของยอดการนำเข้าทั้งหมด
ส่วนใหญ่การนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่มาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาจะถูกควบคุมโดยระบบโควต้า อย่างไรก็ดี ประเทศในสหภาพยุโรปมีความตกลงพิเศษเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าสำเร็จรูปกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ไต้หวัน และกลุ่มประเทศที่แยกตัวออกมาจากอดีตสหภาพโซเวียต ทำให้สหราชอาณาจักรนำเข้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปจาก 2 กลุ่มดังกล่าวมากที่สุด
ช่องทางการจัดจำหน่าย
ช่องทางการจัดจำหน่ายเสื้อผ้าในสหราชอาณาจักร มีดังนี้.-
1) ห้างสรรพสินค้า
2) ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป (Boutique)
3) ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสำหรับเด็ก
4) ซุปเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่
5) การขายตรงทางไปรษณีย์
โอกาสทางการตลาดของไทย
สหราชอาณาจักร เป็นตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปขนาดใหญ่ สำหรับชนชั้นกลางและผู้ใช้แรงงาน แนวโน้มสำหรับตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปจะมุ่งเน้นไปที่ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุมากกว่าเด็กวัยรุ่น ประเทศไทยมีโอกาสดีในตลาดสิ้นค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปในสหราชอาณาจักร หากสามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าให้เป็นตามมาตรฐานที่กำหนด อีกทั้งควบคุมต้นทุนการผลิต และการส่งมอบสินค้าที่ถูกต้องและตรงต่อเวลา ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศคู่ค้าสำคัญในระบบโควต้าของสหราชอาณาจักร อาทิ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และสาธารณรัฐประชาชนจีนได้
ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ
--วารสาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 21/15 พฤศจิกายน 2542--