เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2541ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุมส.ส.พรรค ซึ่งได้จัดแถลงการประชุมโดย โฆษกพรรค และ รองโฆษกพรรค ดังนี้
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์
"ในการประชุมของพรรควันนี้ ทางหัวหน้าพรรคก็คือนายกรัฐมนตรีได้รายงานให้คณะผู้บริหารพรรคได้ ทราบ ถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับครม.ในครั้งนี้ซึ่งการปรับครม.ครั้งนี้ก็เพื่อ ประสิทธิภาพในการทำงานของ รัฐบาลให้ดียิ่งขึ้นและการปรับครม.ครั้งนี้ก็จะไม่มีการปรับพรรคร่วมรัฐบา ลเดิมออกทุกพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ ยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยจะเพิ่มพรรคชาติพัฒนาเขามาอีกหนึ่งพรรค และในสัดส่วนของแต่ละพรรคนั้นก็จะ ต้องปรับลดที่นั่งรัฐมนตรีลงมาเพื่อให้ที่นั่งแก่พรรคชาติพัฒนา สัดส่วนนี้ก็จะไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะว่าเป็นเกณฑ์ที่จะให้ความยุติธรรมสำหรับทุกพรรคร่วมรัฐบาล ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็จะต้องปรับรัฐมนตรีออก 2 ที่นั่งซึ่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกท่านนั้นก็ได้ทำหน้าที่ด้วยดีไ ม่มีข้อบก พร่อง ดังนั้นในที่ประชุมคณะผู้บริหารก็เลยได้มีมติมอบหมายให้หัวหน้าพรรค และ รองหัวหน้าพรรคทุกท่าน เป็นคณะทำงานพิจารณาว่า 2 ที่นั่งที่จะปรับออกนั้นจะเป็นท่านใด แล้วสำหนับล่าสุดนี้ก็มีรัฐมนตรีที่จะเสนอ ตัวออกมาแสดงเจตจำนงค์ ที่ยินดีถ้าหากว่าพรรคจะปรับออกก็คือ ท่านพิสิฐ ลี้อาธรรม อันนี้ก็เป็นดุลพินิจของ คณะทำงานที่มติของคณะบริหารจะไปพิจารณต่อ จากนั้นท่าน หัวหน้าพรรคก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมส.ส.พรรค ถึงมติของคณะผู้บริหารพรรคโดยได้แจ้งถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับครม. เพื่อให้เกิดความมั่นคง เพื่อที่จะให้ การแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับรัฐบาลชุดนี้ และเป็นนโยบายสำคัญที่สุดของ รัฐบาลชุดนี้ได้สามารถแก้ไขปัญหาก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่ง ณ วันนี้การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลก็ได้รับการกล่าวขาน และเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเราแก้ปัญหาได้ถูกทางแล้ว สังเกตได้จากนักธุรกิจที่ออกมาต่อต้านก็ได้ เงียบเสียงลงไป และการปรับครม.ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ปรับเพื่อการหลีกหนี้ปัญหาการทุจริตแต่อ ย่างใด และท่าน นายกรัฐมนตรีก็ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ท่านเองก็ได้กำชับ และก็เร่งรัดต่อเลขาธิการ ป.ป.ป. ให้เร่งทำการ สอบสวนกรณีข้อกล่าวหาการทุจริตที่กระทรวงสาธารณสุขโดยเร็ว ดังนั้นก็ขอย้ำให้ทราบว่าการปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อที่จะให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศโดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลมี ความมั่นคง มีเสียงมากพอก็จะ สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะสามารถเร่งรัดออกกฎหมาย ที่จำเป็นในการที่จะ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ อันนี้ก็เป็นผลการประชุมที่ประชุมพรรคในวันนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเด็นที่เกี่ยว ข้องกับการปรับครม. และก็กฎหมายต่าง ๆที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร"
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
"มีประเด็นที่จะเสริมในการแถลงข่าว ในเรื่องที่ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้เวลาในการประชุม ในวาระอื่น ๆ ของที่ประชุมในวันนี้แจ้งผลการประชุมซึ่งเป็นมติของคณะผู้บริหารของพรรค ที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องของการตัดสินใจปรับครม.ครั้งนี้ ต้องเรียนว่าโดยข้อบังคับของพรรคนั้นการปรับครม.ไม่จำเป็นที่จะต้องมี การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคแต่เป็นเพียงการหารือกันในส่วนของคณะผู้บริ หารพรรค ซึ่งมีจำนวน 15 คนก็ถือว่าถูกต้องโดยในการประชุมนั้นหัวหน้าพรรคก็ได้ถือโอกาสนี้ได้ช ี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นต่อที่ ประชุมของพรรคอันเป็นการแสดงให้เห็นถึงกระบวนการตัดสินใจของพรรค และในวันนี้ท่านหัวหน้า พรรคได้ถือโอกาสในที่ประชุมพรรคหลังจากที่แจ้งมติของคณะผู้บริหารของพรรค โดยได้เปิดโอกาสให้สมาชิก ทุกคนในที่ประชุม ถ้าผู้ใดมีข้อสงสัยหรือมีความคิดเห็นประการใดที่จะเสนอแนะต่อคณะผู้บริหาร ของพรรคซึ่ง มอบหมายให้หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคและที่ปรึกษาพรรคไปตัดสินใจในการที่จะปรับครม. จำนวนตาม ที่ตกลงกันไว้ ซึ่งในที่ประชุมก็มีสมาชิกได้ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นกัน แต่โดยส่วนใหญ่ของการแสดงความคิด เห็นนั้นก็เห็นคล้อยตาม ในการตัดสินใจของคณะผู้บริหาร เพียงแต่มีการตั้งข้อสังเกตเอาไว้ 2 ประการสำคัญก็ คือ ข้อที่ 1.สมาชิกเกรงว่าถ้ามีการปรับครม.ในลักษณะทางการเมืองเช่นนี้ก็เกรงว่าพรรค ที่เข้ามาร่วมใหม่นั้น อาจจะมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าพรรคที่มีอยู่เดิม ในเรื่องนี้ท่านหัวหน้าพรรคได้ให้ความมั่นใจว่าลักษณะการ ทำงานของรัฐบาลผสมชุดนี้นั้น จะต้องมีการ พูดจาตกลงทำความเข้าใจกันแต่เบื้องต้นให้เกิดความชัดเจนว่า นโยบายของรัฐบาลจะดำเนินไป เช่นไร วิธีการตัดสินใจในแต่ละเรื่อง โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบของ รัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงจะดำเนินไปเช่นไร การตัดสินใจโดยลักษณะใช้อำนาจต่อรองเหนือทางการเมือง มาบีบกันในการตัดสินใจคาดว่าคงไม่มีการเกิดขึ้น เพราะว่ามีการตกลงกันล่วงหน้า ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคได้ชี้ แจงเพิ่มเติมว่า หลังจากมีการชี้แจงตกลงทำความเข้าใจในการร่วมรัฐบาลกันในคืนนี้แล้ว หลังจากมีการส่งราย ชื่อก็จะมีการทำความตกลงกันเรื่องวิธีการทำงานของรัฐบาล ตั้งแต่ต้นเพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหากันภายหลัง นั้น ก็เป็นข้อสังเกตสำคัญข้อที่หนึ่ง ข้อสังเกตสำคัญข้อที่ 2 . ได้มีเพื่อนสมาชิกตั้งข้อสังเกตเอาไว้ซึ่งจะเป็นในลักษณะ เดียวที่ท่านโฆษกพรรคแถลงก็คือขอให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการปรับครม. ครั้งนี้จะไม่มีการปิดบังเรื่อง ของการถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในกระทรวงบางกระทรวงซึ่งเป็นข่าวอ ยู่ในปัจจุบันนี้ ท่านนายกฯได้ให้ ความสำคัญในเรื่องนี้มากและได้ชี้แจงกับสมาชิกเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าก ารปรับครม.ครั้งนี้จะไม่มีการปิดบัง หรือหลีกเลี่ยงปัญหาการกล่าวหาเรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข หรือใน กระทรวงเกษตรโดยได้ย้ำกับที่ประชุมว่าท่านได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องคือสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการหรือ ป.ป.ป. ให้เร่งสอบอย่างจริงจัง โดย เฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง ในแต่ละกระทรวงที่ถูกกล่าวหานั้น ให้เร่งเรียกผู้ที่ถูกพาดพิงถึงมาสอบสวนโดยเร็ว พร้อมทั้งรายงานผลให้ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า พรรคร่วมรัฐบาลได้ทราบนั้น ก็เป็นข้อสังเกตสองข้อ ซึ่งสมาชิกได้ซักถามต่อท่านหัวหน้าพรรค ผมเข้าใจว่า หลังจากการชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคแล้ว ทาง หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และที่ปรึกษาพรรคจะได้เริ่มลง มือประชุมกันในคืนนี้ซึ่งเข้าใจว่าจะได้ข้อยุติว่าในส่วนของประชาธิปัตย์น ั้นจะมีรัฐมนตรีท่านใดที่จะต้องอยู่ ในส่วนปรับเปลี่ยน และต้องเรียนว่าคนที่ถูกปรับเปลี่ยนนั้นมิใช่เป็นเพราะไม่มีผลงานหรือทำงา นไม่เข้าตา แต่จำเป็นต้อง เสียสละ เพื่อให้การปรับครม. เป็นไปอย่างเรียบร้อย และรัฐบาลมีเสถียรภาพในการทำงานเพื่อ ประชาชน รวมทั้งคืนนี้ท่านเลขาธิการพรรคและบุคคลที่เกี่ยวข้องจะได้เจรจากับผู้ที่ มีส่วนเกี่ยวข้องในการปรับ ครม.ทั้งหมดเพื่อให้มีข้อยุติในคืนนี้ และก็เข้าใจว่าในวันพรุ่งนี่จะมีความกระจ่างชัดเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน นะครับ โดยในการประชุมหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรค ท่านที่ปรึกษาพรรคนั้นท่านหัวหน้าพรรคได้ เปิดโอกาสให้สมาชิกของพรรค ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมได้ เพื่อที่ให้ การตัดสินใจมีความรอบครอบมากขึ้น อันนี้ก็เป็นความคืบหน้าของการประชุมพรรค และการปรับครม.ในวันนี้ ครับ."--จบ--
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์
"ในการประชุมของพรรควันนี้ ทางหัวหน้าพรรคก็คือนายกรัฐมนตรีได้รายงานให้คณะผู้บริหารพรรคได้ ทราบ ถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับครม.ในครั้งนี้ซึ่งการปรับครม.ครั้งนี้ก็เพื่อ ประสิทธิภาพในการทำงานของ รัฐบาลให้ดียิ่งขึ้นและการปรับครม.ครั้งนี้ก็จะไม่มีการปรับพรรคร่วมรัฐบา ลเดิมออกทุกพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็ ยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยจะเพิ่มพรรคชาติพัฒนาเขามาอีกหนึ่งพรรค และในสัดส่วนของแต่ละพรรคนั้นก็จะ ต้องปรับลดที่นั่งรัฐมนตรีลงมาเพื่อให้ที่นั่งแก่พรรคชาติพัฒนา สัดส่วนนี้ก็จะไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะว่าเป็นเกณฑ์ที่จะให้ความยุติธรรมสำหรับทุกพรรคร่วมรัฐบาล ในสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็จะต้องปรับรัฐมนตรีออก 2 ที่นั่งซึ่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ทุกท่านนั้นก็ได้ทำหน้าที่ด้วยดีไ ม่มีข้อบก พร่อง ดังนั้นในที่ประชุมคณะผู้บริหารก็เลยได้มีมติมอบหมายให้หัวหน้าพรรค และ รองหัวหน้าพรรคทุกท่าน เป็นคณะทำงานพิจารณาว่า 2 ที่นั่งที่จะปรับออกนั้นจะเป็นท่านใด แล้วสำหนับล่าสุดนี้ก็มีรัฐมนตรีที่จะเสนอ ตัวออกมาแสดงเจตจำนงค์ ที่ยินดีถ้าหากว่าพรรคจะปรับออกก็คือ ท่านพิสิฐ ลี้อาธรรม อันนี้ก็เป็นดุลพินิจของ คณะทำงานที่มติของคณะบริหารจะไปพิจารณต่อ จากนั้นท่าน หัวหน้าพรรคก็ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมส.ส.พรรค ถึงมติของคณะผู้บริหารพรรคโดยได้แจ้งถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับครม. เพื่อให้เกิดความมั่นคง เพื่อที่จะให้ การแก้ไขปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับรัฐบาลชุดนี้ และเป็นนโยบายสำคัญที่สุดของ รัฐบาลชุดนี้ได้สามารถแก้ไขปัญหาก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่ง ณ วันนี้การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลก็ได้รับการกล่าวขาน และเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเราแก้ปัญหาได้ถูกทางแล้ว สังเกตได้จากนักธุรกิจที่ออกมาต่อต้านก็ได้ เงียบเสียงลงไป และการปรับครม.ในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ปรับเพื่อการหลีกหนี้ปัญหาการทุจริตแต่อ ย่างใด และท่าน นายกรัฐมนตรีก็ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ท่านเองก็ได้กำชับ และก็เร่งรัดต่อเลขาธิการ ป.ป.ป. ให้เร่งทำการ สอบสวนกรณีข้อกล่าวหาการทุจริตที่กระทรวงสาธารณสุขโดยเร็ว ดังนั้นก็ขอย้ำให้ทราบว่าการปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อที่จะให้รัฐบาลมีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศโดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลมี ความมั่นคง มีเสียงมากพอก็จะ สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะสามารถเร่งรัดออกกฎหมาย ที่จำเป็นในการที่จะ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ อันนี้ก็เป็นผลการประชุมที่ประชุมพรรคในวันนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเด็นที่เกี่ยว ข้องกับการปรับครม. และก็กฎหมายต่าง ๆที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร"
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย
"มีประเด็นที่จะเสริมในการแถลงข่าว ในเรื่องที่ท่านหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้เวลาในการประชุม ในวาระอื่น ๆ ของที่ประชุมในวันนี้แจ้งผลการประชุมซึ่งเป็นมติของคณะผู้บริหารของพรรค ที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องของการตัดสินใจปรับครม.ครั้งนี้ ต้องเรียนว่าโดยข้อบังคับของพรรคนั้นการปรับครม.ไม่จำเป็นที่จะต้องมี การประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคแต่เป็นเพียงการหารือกันในส่วนของคณะผู้บริ หารพรรค ซึ่งมีจำนวน 15 คนก็ถือว่าถูกต้องโดยในการประชุมนั้นหัวหน้าพรรคก็ได้ถือโอกาสนี้ได้ช ี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นต่อที่ ประชุมของพรรคอันเป็นการแสดงให้เห็นถึงกระบวนการตัดสินใจของพรรค และในวันนี้ท่านหัวหน้า พรรคได้ถือโอกาสในที่ประชุมพรรคหลังจากที่แจ้งมติของคณะผู้บริหารของพรรค โดยได้เปิดโอกาสให้สมาชิก ทุกคนในที่ประชุม ถ้าผู้ใดมีข้อสงสัยหรือมีความคิดเห็นประการใดที่จะเสนอแนะต่อคณะผู้บริหาร ของพรรคซึ่ง มอบหมายให้หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคและที่ปรึกษาพรรคไปตัดสินใจในการที่จะปรับครม. จำนวนตาม ที่ตกลงกันไว้ ซึ่งในที่ประชุมก็มีสมาชิกได้ลุกขึ้นแสดงความคิดเห็นกัน แต่โดยส่วนใหญ่ของการแสดงความคิด เห็นนั้นก็เห็นคล้อยตาม ในการตัดสินใจของคณะผู้บริหาร เพียงแต่มีการตั้งข้อสังเกตเอาไว้ 2 ประการสำคัญก็ คือ ข้อที่ 1.สมาชิกเกรงว่าถ้ามีการปรับครม.ในลักษณะทางการเมืองเช่นนี้ก็เกรงว่าพรรค ที่เข้ามาร่วมใหม่นั้น อาจจะมีอำนาจต่อรองเหนือกว่าพรรคที่มีอยู่เดิม ในเรื่องนี้ท่านหัวหน้าพรรคได้ให้ความมั่นใจว่าลักษณะการ ทำงานของรัฐบาลผสมชุดนี้นั้น จะต้องมีการ พูดจาตกลงทำความเข้าใจกันแต่เบื้องต้นให้เกิดความชัดเจนว่า นโยบายของรัฐบาลจะดำเนินไป เช่นไร วิธีการตัดสินใจในแต่ละเรื่อง โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบของ รัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงจะดำเนินไปเช่นไร การตัดสินใจโดยลักษณะใช้อำนาจต่อรองเหนือทางการเมือง มาบีบกันในการตัดสินใจคาดว่าคงไม่มีการเกิดขึ้น เพราะว่ามีการตกลงกันล่วงหน้า ซึ่งท่านหัวหน้าพรรคได้ชี้ แจงเพิ่มเติมว่า หลังจากมีการชี้แจงตกลงทำความเข้าใจในการร่วมรัฐบาลกันในคืนนี้แล้ว หลังจากมีการส่งราย ชื่อก็จะมีการทำความตกลงกันเรื่องวิธีการทำงานของรัฐบาล ตั้งแต่ต้นเพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหากันภายหลัง นั้น ก็เป็นข้อสังเกตสำคัญข้อที่หนึ่ง ข้อสังเกตสำคัญข้อที่ 2 . ได้มีเพื่อนสมาชิกตั้งข้อสังเกตเอาไว้ซึ่งจะเป็นในลักษณะ เดียวที่ท่านโฆษกพรรคแถลงก็คือขอให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าการปรับครม. ครั้งนี้จะไม่มีการปิดบังเรื่อง ของการถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นในกระทรวงบางกระทรวงซึ่งเป็นข่าวอ ยู่ในปัจจุบันนี้ ท่านนายกฯได้ให้ ความสำคัญในเรื่องนี้มากและได้ชี้แจงกับสมาชิกเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าก ารปรับครม.ครั้งนี้จะไม่มีการปิดบัง หรือหลีกเลี่ยงปัญหาการกล่าวหาเรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุข หรือใน กระทรวงเกษตรโดยได้ย้ำกับที่ประชุมว่าท่านได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องคือสำนักงานคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการหรือ ป.ป.ป. ให้เร่งสอบอย่างจริงจัง โดย เฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีการพาดพิงถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับทางการเมือง ในแต่ละกระทรวงที่ถูกกล่าวหานั้น ให้เร่งเรียกผู้ที่ถูกพาดพิงถึงมาสอบสวนโดยเร็ว พร้อมทั้งรายงานผลให้ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า พรรคร่วมรัฐบาลได้ทราบนั้น ก็เป็นข้อสังเกตสองข้อ ซึ่งสมาชิกได้ซักถามต่อท่านหัวหน้าพรรค ผมเข้าใจว่า หลังจากการชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคแล้ว ทาง หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค และที่ปรึกษาพรรคจะได้เริ่มลง มือประชุมกันในคืนนี้ซึ่งเข้าใจว่าจะได้ข้อยุติว่าในส่วนของประชาธิปัตย์น ั้นจะมีรัฐมนตรีท่านใดที่จะต้องอยู่ ในส่วนปรับเปลี่ยน และต้องเรียนว่าคนที่ถูกปรับเปลี่ยนนั้นมิใช่เป็นเพราะไม่มีผลงานหรือทำงา นไม่เข้าตา แต่จำเป็นต้อง เสียสละ เพื่อให้การปรับครม. เป็นไปอย่างเรียบร้อย และรัฐบาลมีเสถียรภาพในการทำงานเพื่อ ประชาชน รวมทั้งคืนนี้ท่านเลขาธิการพรรคและบุคคลที่เกี่ยวข้องจะได้เจรจากับผู้ที่ มีส่วนเกี่ยวข้องในการปรับ ครม.ทั้งหมดเพื่อให้มีข้อยุติในคืนนี้ และก็เข้าใจว่าในวันพรุ่งนี่จะมีความกระจ่างชัดเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน นะครับ โดยในการประชุมหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรค ท่านที่ปรึกษาพรรคนั้นท่านหัวหน้าพรรคได้ เปิดโอกาสให้สมาชิกของพรรค ที่สนใจสามารถแสดงความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมได้ เพื่อที่ให้ การตัดสินใจมีความรอบครอบมากขึ้น อันนี้ก็เป็นความคืบหน้าของการประชุมพรรค และการปรับครม.ในวันนี้ ครับ."--จบ--