กรุงเทพ--8 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2541 เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ เสนอในการอำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองแก่คนต่างด้าวทุกสัญชาติที่มีอายุไม่ ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ โดย สามารถขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-immigrant รหัส “O-A ”) เพื่อเข้ามาพำนักใน ประเทศไทยได้เป็นระยะเวลาคราวละไม่เกิน 1 ปี นั้น
กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอรับการตรวจ ลงตราประเภทดังกล่าว ดังนี้
1. คุณสมบัติของผู้ร้อง
- เป็นบุคคลต่างด้าว (ทุกสัญชาติ) อายุตั้งแต่ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ
- มีหลักทรัพย์ประการใดประการหนึ่ง ดังนี้
ก. มีเงินฝากจำนวน 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน)
ข. มีเงินได้เดือนละ 65,000 บาท ( หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)
ค. มีเงินฝากและ [ (เงินได้ / เดือน) x 12
] รวมกันได้ไม่น้อยกว่า 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน)
2. เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง
- แบบฟอร์มขอรับการตรวจลงตรา ซึ่งกรอกรายละเอียดครบถ้วน
- รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซม. หน้าตรง ไม่สวมหมวก ถ่ายภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป
- สำเนาหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง สมบูรณ์ และยังมีอายุไม่น้อยกว่า 18 เดือน
- หลักฐานการสมรส สูติบัตร หรือหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลในประเทศไทย (กรณีเป็นบิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ ในอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของผู้ร้อง)
- สำเนาหลักฐานทางการเงินตามที่ได้ระบุในข้อ 1
3. การยื่นคำร้องกระทำได้ 2 กรณี คือ
3.1 ยื่นเรื่องต่อสถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยแสดงหลักฐานตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 2
3.2 ยื่นโดยตรงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (กก.1 , ตม.1 ซอยสวนพลู ถนนสาธรใต้ กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 287-4948, 287-3101-10 ต่อ 2236) โดยหน่วยงานหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ดำเนินการแทนผู้ร้อง
3.1.1 โรงพยาบาลหรือสถานพักฟื้น
3.1.2 คนต่างด้าว บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ในความอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของผู้ร้อง
3.1.3 องค์กรหรือหน่วยงานที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเห็นชอบ โดยแสดงหลักฐานตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 2 และหลักฐานทางการเงินตามเกณฑ์ โดยมีธนาคาร หรือ สถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุล (ของประเทศเดียวกับสัญชาติของคนต่างด้าว) รับรอง
4. ขั้นตอนการพิจารณา
4.1 กรณีที่ยื่นเรื่องผ่านสถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุลฯ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลจะส่งเรื่องมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำส่งต่อไปให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณา เมื่อได้รับแจ้งการอนุมัติ กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุล พิจารณาตรวจลงตราประเภทคนชั่วคราว รหัส “O-A ” ระยะเวลา 1 ปี ให้แก่ผู้ร้องต่อไป ซึ่งผู้ร้องจะต้องแสดงหลักฐานการโอนเงินจำนวนตามหลักเกณท์ที่ได้ กำหนดมายังธนาคารในประเทศไทย (ฉบับจริง) หรือหลักฐานการมีเงินได้ประจำเดือน ตามหลักเกณท์ที่กำหนด (ฉบับจริง)
4.2 กรณียื่นเรื่องโดยตรงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบ และพิจารณาตรวจลงตราให้ต่อไป
5. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร
บุคคลต่างด้าวดังกล่าว จะได้รับอนุมัติให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นเวลา 1 ปี หากประสงค์จะขยายเวลาการพำนัก จะต้องยื่นเรื่องต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยแสดงหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2541 เห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ เสนอในการอำนวยความสะดวกในการเข้าเมืองแก่คนต่างด้าวทุกสัญชาติที่มีอายุไม่ ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ โดย สามารถขอรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (Non-immigrant รหัส “O-A ”) เพื่อเข้ามาพำนักใน ประเทศไทยได้เป็นระยะเวลาคราวละไม่เกิน 1 ปี นั้น
กระทรวงการต่างประเทศขอแจ้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอรับการตรวจ ลงตราประเภทดังกล่าว ดังนี้
1. คุณสมบัติของผู้ร้อง
- เป็นบุคคลต่างด้าว (ทุกสัญชาติ) อายุตั้งแต่ 55 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศ
- มีหลักทรัพย์ประการใดประการหนึ่ง ดังนี้
ก. มีเงินฝากจำนวน 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน)
ข. มีเงินได้เดือนละ 65,000 บาท ( หกหมื่นห้าพันบาทถ้วน)
ค. มีเงินฝากและ [ (เงินได้ / เดือน) x 12
] รวมกันได้ไม่น้อยกว่า 800,000 บาท (แปดแสนบาทถ้วน)
2. เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง
- แบบฟอร์มขอรับการตรวจลงตรา ซึ่งกรอกรายละเอียดครบถ้วน
- รูปถ่ายขนาด 4 x 6 ซม. หน้าตรง ไม่สวมหมวก ถ่ายภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป
- สำเนาหนังสือเดินทางหรือเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางที่ถูกต้อง สมบูรณ์ และยังมีอายุไม่น้อยกว่า 18 เดือน
- หลักฐานการสมรส สูติบัตร หรือหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลในประเทศไทย (กรณีเป็นบิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ ในอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของผู้ร้อง)
- สำเนาหลักฐานทางการเงินตามที่ได้ระบุในข้อ 1
3. การยื่นคำร้องกระทำได้ 2 กรณี คือ
3.1 ยื่นเรื่องต่อสถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ โดยแสดงหลักฐานตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 2
3.2 ยื่นโดยตรงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (กก.1 , ตม.1 ซอยสวนพลู ถนนสาธรใต้ กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 287-4948, 287-3101-10 ต่อ 2236) โดยหน่วยงานหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ดำเนินการแทนผู้ร้อง
3.1.1 โรงพยาบาลหรือสถานพักฟื้น
3.1.2 คนต่างด้าว บิดามารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ในความอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของผู้ร้อง
3.1.3 องค์กรหรือหน่วยงานที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเห็นชอบ โดยแสดงหลักฐานตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 2 และหลักฐานทางการเงินตามเกณฑ์ โดยมีธนาคาร หรือ สถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุล (ของประเทศเดียวกับสัญชาติของคนต่างด้าว) รับรอง
4. ขั้นตอนการพิจารณา
4.1 กรณีที่ยื่นเรื่องผ่านสถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุลฯ สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลจะส่งเรื่องมายังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำส่งต่อไปให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพิจารณา เมื่อได้รับแจ้งการอนุมัติ กระทรวงการต่างประเทศจะแจ้งให้สถานเอกอัครราชทูต/ สถานกงสุล พิจารณาตรวจลงตราประเภทคนชั่วคราว รหัส “O-A ” ระยะเวลา 1 ปี ให้แก่ผู้ร้องต่อไป ซึ่งผู้ร้องจะต้องแสดงหลักฐานการโอนเงินจำนวนตามหลักเกณท์ที่ได้ กำหนดมายังธนาคารในประเทศไทย (ฉบับจริง) หรือหลักฐานการมีเงินได้ประจำเดือน ตามหลักเกณท์ที่กำหนด (ฉบับจริง)
4.2 กรณียื่นเรื่องโดยตรงต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจะแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบ และพิจารณาตรวจลงตราให้ต่อไป
5. ระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักร
บุคคลต่างด้าวดังกล่าว จะได้รับอนุมัติให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรได้เป็นเวลา 1 ปี หากประสงค์จะขยายเวลาการพำนัก จะต้องยื่นเรื่องต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยแสดงหลักฐานตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--