‘อาคม เอ่งฉ้วน’ ส.ส. จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุคลื่นยักษ์ถล่ม ควบคู่กับการเร่งจัดระเบียบพื้นที่ พร้อมเห็นด้วยกับการเสนอตั้งองค์กรพิเศษ
นายอาคม เอ่งฉ้วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547ว่า ในพื้นที่ จ.กระบี่ได้รับผลกระทบและเสียหาย 3 อำเภอคือ อ.เมือง บริเวณเกาะพี พี อ่าวพระนาง เกาะศรีบอยา และ เกาะจำ อ.เกาะลันตา บริเวณศาลาด่าน และ อ.อ่าวลึก บริเวณ ต.แหลมสัก ต.อ่าวลึกน้อย บ้านบากัน เป็นต้น สร้างความเสียหายกับ รีสอร์ท ร้านค้า บังกะโล ที่พังยับเยิน ทับคนตายจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิต ทั้งที่อยู่ในทะเลที่กำลังเล่นน้ำ ผู้ที่เดินทางไปตามเกาะต่างๆ ตลอดจนชาวประมง เฉพาะที่มูลนิธิประชาสันติสุข ศพเก็บมาได้มากกว่า 500 ศพ โดย 80% เป็นชาวต่างชาติ นอกจากนั้นยังสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 3,000 ราย
นายอาคม ได้ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ต้องให้หน่วยงานภาครัฐ สร้างบ้านเรือนและจัดหาอุปกรณ์ยังชีพ เช่น เรือรับนักท่องเที่ยว เรือประมง เรือหาปลา หรืออุปกรณ์เลี้ยงปลา ตามลำคลอง เช่น กระชัง ซึ่งแตกหัก เสียหายไปหมด อาจชดเชยเป็นเงินหรือสร้างให้ใหม่ตามที่ทางราชการกำหนด ในส่วนร้านค้า ที่พักนักท่องเที่ยว ต้องดำเนินการด้านสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ ให้เวลาการกู้มากกว่า 5 ปี พร้อมกันนี้ทางราชการต้องเข้าไปจัดระเบียบพื้นที่ กำหนดผังเมืองใหม่ วางผัง กำหนดแบบแปลนโดยเร็ว ก่อนที่ผู้ประกอบการจะสร้างขึ้นใหม่ อย่างไม่เป็นระเบียบและรกรุงรัง เช่นที่ผ่านมา นอกจากนั้นภาครัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์ การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวในภาพพจน์ที่ดีออกไปทั่วโลกโดยเร็ว การเสนอข่าวความเสียหายในระยะแรกมีความจำเป็น เพราะไม่ควรปิดบังความจริง แต่ต่อจากนี้ต้องคำนึงถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นหลัก ว่าจะทำมาหากินอะไร เดือดร้อนแค่ไหน เพราะบางครอบครัวบุตรหลานยังต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาเล่าเรียนอีกมาก
นายอาคม กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรพิเศษ เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ที่จะทำให้การดูแลผู้ประสบภัยทั้งประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการได้รับการช่วยเหลือ แก้ปัญหาอย่างตรงจุด และมีส่วนร่วมจากประชาชนในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องทุกองค์กร ซึ่งรูปแบบอาจจะเป็นองค์กรมหาชน หรือคณะกรรมการเฉพาะกิจ ใช้ระยะเวลา 3 — 5 ปี
“ขอให้เอาวิกฤตเป็นโอกาส อาคารที่สร้างขึ้นใหม่ต่อไปนี้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย วัฒนธรรม การอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และสวยงาม จังหวัดทุกจังหวัดต้องมีการขึ้นทะเบียนผู้ประสบภัยไว้ทั้งหมด โดยแยกเป็น เสียหายมาก เสียหายเล็กน้อย หรือกระทบด้านจิตใจ เพราะต่อไปนี้จะมีองค์กรภาคเอกชน หรือผู้ใจบุญทั้งหลายรวบรวมเงินทองสิ่งของส่งมาช่วยเหลือ จะได้แจกจ่ายให้ตรงกับผู้เดือดร้อนจริงๆ เพราะขณะนี้ เริ่มเวียนเทียนรับของแจกกันบ้างแล้ว ซึ่งผู้เดือดร้อนที่ไกลการคมนาคม มักจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ” นายอาคมกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ม.ค. 2548--จบ--
-ดท-
นายอาคม เอ่งฉ้วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มอันดามัน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547ว่า ในพื้นที่ จ.กระบี่ได้รับผลกระทบและเสียหาย 3 อำเภอคือ อ.เมือง บริเวณเกาะพี พี อ่าวพระนาง เกาะศรีบอยา และ เกาะจำ อ.เกาะลันตา บริเวณศาลาด่าน และ อ.อ่าวลึก บริเวณ ต.แหลมสัก ต.อ่าวลึกน้อย บ้านบากัน เป็นต้น สร้างความเสียหายกับ รีสอร์ท ร้านค้า บังกะโล ที่พังยับเยิน ทับคนตายจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิต ทั้งที่อยู่ในทะเลที่กำลังเล่นน้ำ ผู้ที่เดินทางไปตามเกาะต่างๆ ตลอดจนชาวประมง เฉพาะที่มูลนิธิประชาสันติสุข ศพเก็บมาได้มากกว่า 500 ศพ โดย 80% เป็นชาวต่างชาติ นอกจากนั้นยังสูญหายอีกเป็นจำนวนมาก และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 3,000 ราย
นายอาคม ได้ขอให้ภาครัฐเร่งดำเนินการช่วยเหลือ ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง คือ ต้องให้หน่วยงานภาครัฐ สร้างบ้านเรือนและจัดหาอุปกรณ์ยังชีพ เช่น เรือรับนักท่องเที่ยว เรือประมง เรือหาปลา หรืออุปกรณ์เลี้ยงปลา ตามลำคลอง เช่น กระชัง ซึ่งแตกหัก เสียหายไปหมด อาจชดเชยเป็นเงินหรือสร้างให้ใหม่ตามที่ทางราชการกำหนด ในส่วนร้านค้า ที่พักนักท่องเที่ยว ต้องดำเนินการด้านสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำ ให้เวลาการกู้มากกว่า 5 ปี พร้อมกันนี้ทางราชการต้องเข้าไปจัดระเบียบพื้นที่ กำหนดผังเมืองใหม่ วางผัง กำหนดแบบแปลนโดยเร็ว ก่อนที่ผู้ประกอบการจะสร้างขึ้นใหม่ อย่างไม่เป็นระเบียบและรกรุงรัง เช่นที่ผ่านมา นอกจากนั้นภาครัฐต้องเร่งประชาสัมพันธ์ การฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวในภาพพจน์ที่ดีออกไปทั่วโลกโดยเร็ว การเสนอข่าวความเสียหายในระยะแรกมีความจำเป็น เพราะไม่ควรปิดบังความจริง แต่ต่อจากนี้ต้องคำนึงถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่เป็นหลัก ว่าจะทำมาหากินอะไร เดือดร้อนแค่ไหน เพราะบางครอบครัวบุตรหลานยังต้องการความช่วยเหลือด้านการศึกษาเล่าเรียนอีกมาก
นายอาคม กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรพิเศษ เพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ที่จะทำให้การดูแลผู้ประสบภัยทั้งประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการได้รับการช่วยเหลือ แก้ปัญหาอย่างตรงจุด และมีส่วนร่วมจากประชาชนในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องทุกองค์กร ซึ่งรูปแบบอาจจะเป็นองค์กรมหาชน หรือคณะกรรมการเฉพาะกิจ ใช้ระยะเวลา 3 — 5 ปี
“ขอให้เอาวิกฤตเป็นโอกาส อาคารที่สร้างขึ้นใหม่ต่อไปนี้ ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย วัฒนธรรม การอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว และสวยงาม จังหวัดทุกจังหวัดต้องมีการขึ้นทะเบียนผู้ประสบภัยไว้ทั้งหมด โดยแยกเป็น เสียหายมาก เสียหายเล็กน้อย หรือกระทบด้านจิตใจ เพราะต่อไปนี้จะมีองค์กรภาคเอกชน หรือผู้ใจบุญทั้งหลายรวบรวมเงินทองสิ่งของส่งมาช่วยเหลือ จะได้แจกจ่ายให้ตรงกับผู้เดือดร้อนจริงๆ เพราะขณะนี้ เริ่มเวียนเทียนรับของแจกกันบ้างแล้ว ซึ่งผู้เดือดร้อนที่ไกลการคมนาคม มักจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ” นายอาคมกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 2 ม.ค. 2548--จบ--
-ดท-