กรุงเทพ--18 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ระหว่างวันที่ 19-27 พฤศจิกายน 2541 ฯพณฯ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ พร้อมภาคเอกชน จะเดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน รัฐกาตาร์ และรัฐบาห์เรน และแวะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างไม่เป็นทางการ โดยคณะที่ติดตาม ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ
ในครั้งนี้ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการของไทยหลายแห่ง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ จะนำคณะผู้แทนจากภาคเอกชนไทย จำนวน 20 คน จากภาคธุรกิจหลายสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น เครื่องใช้ในสำนักงาน ซีเมนต์ ฟาร์ม เลี้ยงกุ้ง การตกแต่งภายใน ก๊าซธรรมชาติ สินค้านำเข้า-ส่งออก ผลิตภัณฑ์อาหาร โทรคมนาคม ธุรกิจเกษตรกรรม และการก่อสร้างร่วมเดินทางไปด้วย
ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดย ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดหารือข้อราชการในประเด็นทวิภาคีต่างๆ กับรองประธานาธิบดีคนที่ 1 ประธานรัฐสภา (Majilis) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมัน นอกจากนี้ จะได้มีการหารือเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-อิหร่าน ครั้งที่ 5 และการขยายโครงการการค้า การลงทุน ตลอดจนความร่วมมือในด้านต่างๆ อีกด้วย
ในส่วนการเยือนรัฐกาตาร์ ระหว่างวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2541 ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดเข้าเฝ้าเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ และพบปะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและอุตสาหกรรมกาตาร์ เพื่อหารือข้อราชการในประเด็นต่างๆ ที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ เช่น การค้าการลงทุน และโอกาสของแรงงานไทยในกาตาร์ เป็นต้น
สำหรับการเยือนรัฐบาห์เรน ระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2541 ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ จะเข้าพบบุคคลสำคัญของบาห์เรน โดยจะหารือข้อราชการในประเด็นทวิภาคีต่างๆ โดยเฉพาะการขยายและเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน พร้อมกับเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่ค้าขายระหว่างกันให้มากขึ้น และชักชวนนักลงทุนบาห์เรนให้มาลงทุนในไทยในโครงการจัดตั้งศูนย์แปรรูปอาหารฮาลาล การลงทุนด้านน้ำมัน การเงิน และการก่อสร้าง ฯลฯ
อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับการแวะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้นั้น ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ จะได้หารือกับฝ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อติดตามผลการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเดือนมิถุนายน 2541 โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างการก่อสร้าง Grand Mosque ของกรุงอาบูดาบี ซึ่งเป็นที่สนใจของภาคเอกชนไทย รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์แปรรูปอาหารฮาลาล
การเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางในครั้งนี้ นอกจาก ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และคณะจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศทั้งสามให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่ฝ่ายไทยจะแสดงความขอบคุณประเทศทั้งสามที่ได้ให้ความสนันสนุนการสมัครเป็นผู้สังเกตการณ์ในองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) ของไทย และขอเสียงสนันสนุนจากกาตาร์และบาห์เรนต่อการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ของ WTO ของรองนายกรัฐมนตรีศุภชัย พานิชภักดิ์ ด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
ระหว่างวันที่ 19-27 พฤศจิกายน 2541 ฯพณฯ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ พร้อมภาคเอกชน จะเดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน รัฐกาตาร์ และรัฐบาห์เรน และแวะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างไม่เป็นทางการ โดยคณะที่ติดตาม ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ
ในครั้งนี้ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการของไทยหลายแห่ง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ จะนำคณะผู้แทนจากภาคเอกชนไทย จำนวน 20 คน จากภาคธุรกิจหลายสาขาที่ไทยมีศักยภาพ เช่น เครื่องใช้ในสำนักงาน ซีเมนต์ ฟาร์ม เลี้ยงกุ้ง การตกแต่งภายใน ก๊าซธรรมชาติ สินค้านำเข้า-ส่งออก ผลิตภัณฑ์อาหาร โทรคมนาคม ธุรกิจเกษตรกรรม และการก่อสร้างร่วมเดินทางไปด้วย
ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดย ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดหารือข้อราชการในประเด็นทวิภาคีต่างๆ กับรองประธานาธิบดีคนที่ 1 ประธานรัฐสภา (Majilis) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมัน นอกจากนี้ จะได้มีการหารือเกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-อิหร่าน ครั้งที่ 5 และการขยายโครงการการค้า การลงทุน ตลอดจนความร่วมมือในด้านต่างๆ อีกด้วย
ในส่วนการเยือนรัฐกาตาร์ ระหว่างวันที่ 23-24 พฤศจิกายน 2541 ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดเข้าเฝ้าเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ และพบปะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและอุตสาหกรรมกาตาร์ เพื่อหารือข้อราชการในประเด็นต่างๆ ที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ เช่น การค้าการลงทุน และโอกาสของแรงงานไทยในกาตาร์ เป็นต้น
สำหรับการเยือนรัฐบาห์เรน ระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2541 ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ จะเข้าพบบุคคลสำคัญของบาห์เรน โดยจะหารือข้อราชการในประเด็นทวิภาคีต่างๆ โดยเฉพาะการขยายและเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัน พร้อมกับเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่ค้าขายระหว่างกันให้มากขึ้น และชักชวนนักลงทุนบาห์เรนให้มาลงทุนในไทยในโครงการจัดตั้งศูนย์แปรรูปอาหารฮาลาล การลงทุนด้านน้ำมัน การเงิน และการก่อสร้าง ฯลฯ
อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับการแวะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้นั้น ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ จะได้หารือกับฝ่ายสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อติดตามผลการเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อเดือนมิถุนายน 2541 โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างการก่อสร้าง Grand Mosque ของกรุงอาบูดาบี ซึ่งเป็นที่สนใจของภาคเอกชนไทย รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์แปรรูปอาหารฮาลาล
การเยือนภูมิภาคตะวันออกกลางในครั้งนี้ นอกจาก ฯพณฯ รัฐมนตรีว่าการฯ และคณะจะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศทั้งสามให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่ฝ่ายไทยจะแสดงความขอบคุณประเทศทั้งสามที่ได้ให้ความสนันสนุนการสมัครเป็นผู้สังเกตการณ์ในองค์การการประชุมอิสลาม (OIC) ของไทย และขอเสียงสนันสนุนจากกาตาร์และบาห์เรนต่อการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ของ WTO ของรองนายกรัฐมนตรีศุภชัย พานิชภักดิ์ ด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--