กรุงเทพ--7 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันที่ (2 ธันวาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการเยือนสหราชอาณาจักรของ ฯพณฯ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ตามที่ ฯพณฯ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เยือนสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2542 โดยในระหว่างการเยือนได้หารือข้อราชการกับนาย John Battle รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร ซึ่งมีสาระสำคัญของการหารือสรุปได้ดังนี้
1. ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Battle มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับลู่ทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองให้มากขึ้น ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ขอให้สหราชอาณาจักรพิจารณาเข้ามามีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
2. ในด้านความร่วมมือทางการศึกษา ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขอให้สหราชอาณาจักรพิจารณาให้การสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเห็นว่าแนวความคิดนี้เป็นเรื่องดี และสอดคล้องกับแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรภายใต้กรอบ Thai-UK Action Agenda
3. ในด้านการแลกเปลี่ยนการเยือนทวิภาคี ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่ารัฐบาลไทยรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างสูงที่ The Duke of York (Prince Andrew) จะเสด็จฯเยือนไทย และเข้าร่วมพิธีสวนสนามถวายความจงรักภักดีของทหารรักษาพระองค์ของไทย ในวันที่ 2 ธันวาคม 2542 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ
4. ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ยืนยันคำเชิญของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เชิญนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร และของฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เดินทางเยือนไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับรัฐมนตรีควรมีขึ้นเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ นาย Battle ได้ตอบรับคำเชิญของ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการเยือนไทย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2543
5. นาย Battle ได้ขอให้ไทยชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องทางการไทยได้ส่งตัวนาย Wu Man ชาวฮ่องกง ซึ่งถือเอกสารการเดินทาง British National Overseas - BNO ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเรื่องนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้ปฏิบัติเรื่องนี้ไปตามระเบียบและกฎหมายการเข้าเมือง และนาย Wu Man ก็ได้แสดงความจำนงค์อย่างแน่ชัดที่จะ เดินทางไปจีน อย่างไรก็ดี เมื่อฝ่ายไทยได้รับทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว จะแจ้งให้ฝ่ายสหราช-อาณาจักรทราบต่อไปเพื่อป้องกันความสับสนในอนาคต
6. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในเรื่องสำคัญดังนี้
6.1 ติมอร์ตะวันออก ซึ่งฝ่ายสหราชอาณาจักรได้ชื่นชมบทบาทของไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ทางทหารของไทยเข้าร่วมใน INTERFET
6.2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาด้านการเมืองในพม่า ปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบพม่าในไทย พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมต่อบทบาทของฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในกรณีนักศึกษาพม่าบุกยึดสถานเอกอัครราชทูตพม่าในไทย--จบ--
วันที่ (2 ธันวาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับผลการเยือนสหราชอาณาจักรของ ฯพณฯ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
ตามที่ ฯพณฯ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เยือนสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2542 โดยในระหว่างการเยือนได้หารือข้อราชการกับนาย John Battle รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร ซึ่งมีสาระสำคัญของการหารือสรุปได้ดังนี้
1. ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนาย Battle มีความเห็นพ้องต้องกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรเป็นไปอย่างราบรื่น พร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับลู่ทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งสองให้มากขึ้น ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ขอให้สหราชอาณาจักรพิจารณาเข้ามามีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
2. ในด้านความร่วมมือทางการศึกษา ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ขอให้สหราชอาณาจักรพิจารณาให้การสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาโดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรเห็นว่าแนวความคิดนี้เป็นเรื่องดี และสอดคล้องกับแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรภายใต้กรอบ Thai-UK Action Agenda
3. ในด้านการแลกเปลี่ยนการเยือนทวิภาคี ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่ารัฐบาลไทยรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างสูงที่ The Duke of York (Prince Andrew) จะเสด็จฯเยือนไทย และเข้าร่วมพิธีสวนสนามถวายความจงรักภักดีของทหารรักษาพระองค์ของไทย ในวันที่ 2 ธันวาคม 2542 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครบ 6 รอบ
4. ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ยืนยันคำเชิญของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เชิญนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร และของฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักร เดินทางเยือนไทย นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่าการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับรัฐมนตรีควรมีขึ้นเป็นประจำทุกปี ทั้งนี้ นาย Battle ได้ตอบรับคำเชิญของ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการเยือนไทย ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปี 2543
5. นาย Battle ได้ขอให้ไทยชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องทางการไทยได้ส่งตัวนาย Wu Man ชาวฮ่องกง ซึ่งถือเอกสารการเดินทาง British National Overseas - BNO ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเรื่องนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แจ้งว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยได้ปฏิบัติเรื่องนี้ไปตามระเบียบและกฎหมายการเข้าเมือง และนาย Wu Man ก็ได้แสดงความจำนงค์อย่างแน่ชัดที่จะ เดินทางไปจีน อย่างไรก็ดี เมื่อฝ่ายไทยได้รับทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้ว จะแจ้งให้ฝ่ายสหราช-อาณาจักรทราบต่อไปเพื่อป้องกันความสับสนในอนาคต
6. ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในเรื่องสำคัญดังนี้
6.1 ติมอร์ตะวันออก ซึ่งฝ่ายสหราชอาณาจักรได้ชื่นชมบทบาทของไทยในการส่งเจ้าหน้าที่ทางทหารของไทยเข้าร่วมใน INTERFET
6.2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการพัฒนาด้านการเมืองในพม่า ปัญหาผู้หนีภัยจากการสู้รบพม่าในไทย พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมต่อบทบาทของฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในกรณีนักศึกษาพม่าบุกยึดสถานเอกอัครราชทูตพม่าในไทย--จบ--