วันนี้ (24 ม.ค.48) เวลา 08.00น. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ที่ตลาดสดอำเภอเมืองพังงา กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังหาเสียงโดยใช้เรื่องความมั่นคงของชาติจากการใช้ซีดีเหตุการณ์ตากใบ รวมถึงการออกมาประท้วงการเคลื่อนย้ายศพมาชี้นำว่า ขอเตือนว่ามากไป แต่เข้าใจว่าพรรคไทยรักไทยถูกสังคมตั้งคำถามอยู่ เพราะฉะนั้นด้วยความเชี่ยวชาญทางด้านการตลาดของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ จึงใช้วิธีทางการตลาด ส่งปัญหากลับคืนมายังพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคนธรรมดาอาจจะสับสน แต่คนที่รู้ทันคงจะไม่สับสน เพราะประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ยืนยงอยู่ได้ดวยการพูดความจริง และวันนี้เราก็กำลังพูดความจริงอยู่ เพราะฉะนั้นไม่ว่าท่านจะใช้เล่ห์เพทุบายที่จะโยงปัญหากลับมาอย่างไรก็ไม่หวั่นไหวทั้งนั้น และพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองเสมอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่นายชวน กล่าวปราศรัยที่จังหวัดภูเก็ตถึงหักการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังการเลือกตั้ง ที่จะประสานกับต่างประเทศเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ นายบัญญัติกล่าวว่า เข้าใจว่าที่นายชวนแนะนำคงเพราะในเวลาที่ต่างประเทศจะเข้ามาช่วยเหลือ เสนอเงินในการช่วยฟื้นฟูบูรณะ ได้รับการปฏิเสธจากนายกฯ ในขณะที่ความช่วยเหลือในพื้นที่หลายเรื่องยังไม่เรียบร้อย คนจึงตั้งคำถามว่าจะเสียหายอะไรหากรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยก็เคยให้ความช่วยเหลือประเทศอื่น หลายคนรู้สึกว่าเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เราไม่น่าจะปฏิเสธและไม่น่าเสียหายอะไร หากถือว่าได้รับความช่วยเหลือแล้วในเวลาไปเจรจาต่อรองเรื่องอื่น จะทำให้เราตกเป็นรองเป็นคนละเรื่องกัน ในเวลาที่แล้วมาการเจรจาที่เสียเปรียบ คงไม่ใช่เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเขา แต่เพราะคนที่มีอำนาจรัฐ ยังตัดผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ เอาผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง แต่ผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นรอง นั่นต่างหากที่ทำให้เสียเปรียบ
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจึงจะสามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะการช่วยเหลือระหว่างรัฐกับองค์การพัฒนาเอกชนต่างๆสามารถทำได้ ดังนั้นการเมืองต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรต่างๆ จึงไม่มีปัญหาอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าหากหลังการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นผู้นำในการเดินเรื่อง นายบัญญัติกล่าวว่า ความจริงเราดำเนินการเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เห็นว่าในภาวะที่คนยังโศกเศร้าจึงอยากให้รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ แต่รัฐบาลกลับเอาเปรียบคนอื่น เอาเปรียบฝ่ายค้าน ก็ไม่เป็นไร แต่การที่รัฐบาลปฏิเสธความช่วยเหลือทำให้ประชาชนประโยชน์ จึงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีการสานต่อเพื่อประโยชน์ของสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯมักจะพูดว่าถ้ารับการช่วยเหลือ ประเทศจะเสียศักดิ์ศรีนั้น นายบัญญัติกล่าวว่า ถ้าวันหนึ่งไปรับความช่วยเหลือจากเขาก็คงกระไรอยู่ แต่ในเวลาที่ประเทศได้รับภัยพิบัติ เป็นเรื่องถือปฏิบัติกันทั่วโลกว่า ประเทศไหนที่สามารถจะช่วยเหลือได้ก็จะช่วยเหลือกัน และวันหนึ่งในเวลาที่ประเทศอื่นมีปัญหาและเราไปช่วยเหลือ แสดงว่าเราไปทำให้ประเทศเขาเสียศักดิ์ศรี มันไม่ใช่ นายกฯกำลังสับสนคือ ท่านอาจจะต้องการเสริมสร้างภาวะความเป็นผู้นำของท่านว่าท่านนำประเทศมายืนอยู่ในจุดที่แข็งแรงมากแล้ว ซึ่งตนคิดว่ามันแข็งแรงเฉพาะบางคนบางกลุ่มเท่านั้น ประเทศโดยรวมยังมีปัญหาอยู่มาก แต่ที่สำคัญคือ หน้าที่มนุษยธรรมที่เขาให้ความช่วยเหลือ เป็นเรื่องที่ไม่ควรปฏิเสธและทำให้เสียน้ำใจกันเปล่าๆ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่นายชวน กล่าวปราศรัยที่จังหวัดภูเก็ตถึงหักการในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลังการเลือกตั้ง ที่จะประสานกับต่างประเทศเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ นายบัญญัติกล่าวว่า เข้าใจว่าที่นายชวนแนะนำคงเพราะในเวลาที่ต่างประเทศจะเข้ามาช่วยเหลือ เสนอเงินในการช่วยฟื้นฟูบูรณะ ได้รับการปฏิเสธจากนายกฯ ในขณะที่ความช่วยเหลือในพื้นที่หลายเรื่องยังไม่เรียบร้อย คนจึงตั้งคำถามว่าจะเสียหายอะไรหากรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยก็เคยให้ความช่วยเหลือประเทศอื่น หลายคนรู้สึกว่าเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เราไม่น่าจะปฏิเสธและไม่น่าเสียหายอะไร หากถือว่าได้รับความช่วยเหลือแล้วในเวลาไปเจรจาต่อรองเรื่องอื่น จะทำให้เราตกเป็นรองเป็นคนละเรื่องกัน ในเวลาที่แล้วมาการเจรจาที่เสียเปรียบ คงไม่ใช่เพราะได้รับความช่วยเหลือจากเขา แต่เพราะคนที่มีอำนาจรัฐ ยังตัดผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ เอาผลประโยชน์ของตนเป็นที่ตั้ง แต่ผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นรอง นั่นต่างหากที่ทำให้เสียเปรียบ
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลจึงจะสามารถดำเนินการเรื่องดังกล่าวได้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะการช่วยเหลือระหว่างรัฐกับองค์การพัฒนาเอกชนต่างๆสามารถทำได้ ดังนั้นการเมืองต้องมีความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรต่างๆ จึงไม่มีปัญหาอะไร ผู้สื่อข่าวถามว่าหากหลังการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นผู้นำในการเดินเรื่อง นายบัญญัติกล่าวว่า ความจริงเราดำเนินการเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เห็นว่าในภาวะที่คนยังโศกเศร้าจึงอยากให้รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ แต่รัฐบาลกลับเอาเปรียบคนอื่น เอาเปรียบฝ่ายค้าน ก็ไม่เป็นไร แต่การที่รัฐบาลปฏิเสธความช่วยเหลือทำให้ประชาชนประโยชน์ จึงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีการสานต่อเพื่อประโยชน์ของสังคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯมักจะพูดว่าถ้ารับการช่วยเหลือ ประเทศจะเสียศักดิ์ศรีนั้น นายบัญญัติกล่าวว่า ถ้าวันหนึ่งไปรับความช่วยเหลือจากเขาก็คงกระไรอยู่ แต่ในเวลาที่ประเทศได้รับภัยพิบัติ เป็นเรื่องถือปฏิบัติกันทั่วโลกว่า ประเทศไหนที่สามารถจะช่วยเหลือได้ก็จะช่วยเหลือกัน และวันหนึ่งในเวลาที่ประเทศอื่นมีปัญหาและเราไปช่วยเหลือ แสดงว่าเราไปทำให้ประเทศเขาเสียศักดิ์ศรี มันไม่ใช่ นายกฯกำลังสับสนคือ ท่านอาจจะต้องการเสริมสร้างภาวะความเป็นผู้นำของท่านว่าท่านนำประเทศมายืนอยู่ในจุดที่แข็งแรงมากแล้ว ซึ่งตนคิดว่ามันแข็งแรงเฉพาะบางคนบางกลุ่มเท่านั้น ประเทศโดยรวมยังมีปัญหาอยู่มาก แต่ที่สำคัญคือ หน้าที่มนุษยธรรมที่เขาให้ความช่วยเหลือ เป็นเรื่องที่ไม่ควรปฏิเสธและทำให้เสียน้ำใจกันเปล่าๆ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-