กรุงเทพ--29 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
รัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศให้ทุนการศึกษาประจำปี 2542 แก่นักเรียนไทยจำนวน 11 คน ภายใต้กรอบโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานข้าราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ (Thailand-Singapore Civil Service Exchange Programme : CSEP) โดยนักเรียน 10 คน จะได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ส่วนนักเรียน 1 คน จะได้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเตรียมการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป (ดังรายชื่อที่แนบนี้) ทั้งนี้ เมื่อนักเรียนทุนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นดังกล่าวเรียนจบแล้วและประสงค์จะกลับมาเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในไทย กระทรวงศึกษาธิการของไทยก็รับที่จะเทียบระดับชั้นให้เรียนในไทยได้ต่อไป และในส่วนของนักเรียนทุนระดับมัธยมปลาย หากผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์เรียนที่ดี ก็สามารถเข้าเรียนต่อเนื่องในระดับมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ได้ด้วย
ความร่วมมือในด้านการศึกษาระหว่างไทย-สิงคโปร์ นับว่าเป็นโครงการความร่วมมือ ที่มีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรมมากที่สุดและเป็นโครงการที่ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจและให้ความสำคัญค่อนข้างมาก เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาแบบเดียวกับอังกฤษและยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการเรียนการสอนที่สิงคโปร์ ซึ่งขณะที่ไทยประสบภาวะวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานไปเรียนต่อต่างประเทศ อาทิ ยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลียจึงควรหันมาให้ความสนใจกับสิงคโปร์มากขึ้น เพราะอยู่ใกล้ไทยเดินทางไปมาสะดวกและมีระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานสูงเทียบเท่าตะวันตก
สำหรับโครงการความร่วมมือทางด้านการศึกษาของไทย-สิงคโปร์ในระดับโรงเรียน ที่จะส่งเสริมต่อไปในอนาคตคือ การร่วมการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน ส่วนโครงการความร่วมมือในระดับอุดมศึกษาที่อาจดำเนินร่วมกันต่อไปคือ โครงการ Quality Management โครงการ Talent Development และโครงการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาในระดับอุดมศึกษาร่วมกัน
นักเรียนทุนทั้ง 11 คนกำลังจะเดินทางไปสิงคโปร์ในวันที่ 3 ตุลาคม 2542 และจะไปเข้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดในวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เป็นเวลา 3 เดือนก่อน จึงเข้าเรียนต่อโรงเรียนในมัธยมศึกษาชั้นนำต่างๆ ที่สิงคโปร์ในเดือนมกราคม 2543 และเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียนแล้วแต่ละโรงเรียนก็มีการจัดหลักสูตรติววิชาภาษาอังกฤษและติววิชาต่างๆ ให้แก่นักเรียนไทย และ นักเรียนต่างชาติอื่นๆ ที่มีปัญหาในการเรียนด้วย เพื่อจะได้ให้สามารถเรียนทันเพื่อนนักเรียนในชั้นได้ เพราะนักเรียนไทยส่วนใหญ่จะมีปัญหาด้านภาษาอังกฤษ--จบ--
รัฐบาลสิงคโปร์ได้ประกาศให้ทุนการศึกษาประจำปี 2542 แก่นักเรียนไทยจำนวน 11 คน ภายใต้กรอบโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานข้าราชการพลเรือนไทย-สิงคโปร์ (Thailand-Singapore Civil Service Exchange Programme : CSEP) โดยนักเรียน 10 คน จะได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ส่วนนักเรียน 1 คน จะได้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเตรียมการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป (ดังรายชื่อที่แนบนี้) ทั้งนี้ เมื่อนักเรียนทุนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นดังกล่าวเรียนจบแล้วและประสงค์จะกลับมาเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในไทย กระทรวงศึกษาธิการของไทยก็รับที่จะเทียบระดับชั้นให้เรียนในไทยได้ต่อไป และในส่วนของนักเรียนทุนระดับมัธยมปลาย หากผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์เรียนที่ดี ก็สามารถเข้าเรียนต่อเนื่องในระดับมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ได้ด้วย
ความร่วมมือในด้านการศึกษาระหว่างไทย-สิงคโปร์ นับว่าเป็นโครงการความร่วมมือ ที่มีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรมมากที่สุดและเป็นโครงการที่ ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีให้ความสนใจและให้ความสำคัญค่อนข้างมาก เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาแบบเดียวกับอังกฤษและยังใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาในการเรียนการสอนที่สิงคโปร์ ซึ่งขณะที่ไทยประสบภาวะวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานไปเรียนต่อต่างประเทศ อาทิ ยุโรป สหรัฐฯ และออสเตรเลียจึงควรหันมาให้ความสนใจกับสิงคโปร์มากขึ้น เพราะอยู่ใกล้ไทยเดินทางไปมาสะดวกและมีระบบการศึกษาที่มีมาตรฐานสูงเทียบเท่าตะวันตก
สำหรับโครงการความร่วมมือทางด้านการศึกษาของไทย-สิงคโปร์ในระดับโรงเรียน ที่จะส่งเสริมต่อไปในอนาคตคือ การร่วมการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียน ส่วนโครงการความร่วมมือในระดับอุดมศึกษาที่อาจดำเนินร่วมกันต่อไปคือ โครงการ Quality Management โครงการ Talent Development และโครงการพัฒนาหลักสูตรการศึกษาในระดับอุดมศึกษาร่วมกัน
นักเรียนทุนทั้ง 11 คนกำลังจะเดินทางไปสิงคโปร์ในวันที่ 3 ตุลาคม 2542 และจะไปเข้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดในวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เป็นเวลา 3 เดือนก่อน จึงเข้าเรียนต่อโรงเรียนในมัธยมศึกษาชั้นนำต่างๆ ที่สิงคโปร์ในเดือนมกราคม 2543 และเมื่อเข้าเรียนในโรงเรียนแล้วแต่ละโรงเรียนก็มีการจัดหลักสูตรติววิชาภาษาอังกฤษและติววิชาต่างๆ ให้แก่นักเรียนไทย และ นักเรียนต่างชาติอื่นๆ ที่มีปัญหาในการเรียนด้วย เพื่อจะได้ให้สามารถเรียนทันเพื่อนนักเรียนในชั้นได้ เพราะนักเรียนไทยส่วนใหญ่จะมีปัญหาด้านภาษาอังกฤษ--จบ--