กรุงเทพ--23 ธ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (23 ธ.ค. 41) เวลาประมาณ 15.00 น. นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายปกศักดิ์ นิลอุบล อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ พ.ต.อ. จุลชิต โปษยานนท์ รอง ผบก. กองการต่างประเทศ พ.ต.ท. วิสนุ ปราสาททองโอสถ กองการต่างประเทศ พ.ต.อ.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ ผกก. 2.กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.ท.สมศักดิ์ ชุมแจ่ม สารวัตรแผนก 5 กองกำกับ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ฯลฯ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบเครื่องประดับที่ถูกโจรกรรมไปจากประเทศไทยคืนเจ้าทุกข์ โดยนายสนั่นชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีเป็นผู้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อส่งมอบต่อนาย Mohamed Ali Wani เจ้าทุกข์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวอินเดียในไทย
ร.ต.อ. รุจ เนตรเชาวลิต สารวัตรตำรวจสากล กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดเผยรายละเอียดของคดีนี้ว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2541 เวลาประมาณ 23.00 น. นาย Mohamed Ali Wani พ่อค้าอัญมณีสัญชาติอินเดีย ซึ่งมีกิจการในประเทศไทย ถือหนังสือเดินทางเลขที่ A 1261458 ถูกคนร้าย 4 คน ปล้นทรัพย์บนรถ Mercedes Benz ที่บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้ประสานกับสารวัตรตำรวจสากลในการสืบหาคนร้าย และได้มีหนังสือถึง Interpol ในประเทศต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาตัวผู้ต้องหา เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ต่อมาทางการตำรวจ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( U.A.E.) สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 รายพร้อมของกลางในขณะที่กำลังเร่ขายของกลางที่ตลาดทองใน U.A.E. ซึ่งทราบชื่อคนร้ายในภายหลังว่าคือ นาย Vikas Aurora และนาง Wissad Assad Ali สัญชาติอินเดีย ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการประสานกับทางการตำรวจ U.A.E. เพื่อขอรับตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายมาดำเนินคดีในประเทศไทย คาดว่าจะทราบผลใน 2 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อตามจับกุมคนร้ายที่เหลือ 2 คนซึ่งยังคงหลบหนีอยู่
นาย Mohamed Ali Wani เจ้าทุกข์ ซึ่งได้เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบของกลางด้วยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าของกลางที่ได้รับครั้งนี้ เป็นของตน 9 รายการ มีมูลค่าประมาณสองแสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจะได้สืบสวน และส่งมอบของกลางที่เหลือแก่เจ้าทุกข์รายอื่นๆ ต่อไป
นายสนั่นชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีกล่าวว่า ได้รับทราบข่าวการหลบหนีของคนร้ายไปยัง U.A.E. จากทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จึงได้ประสานงานกับทางการ U.A.E. เพื่อขอรับทราบรายละเอียด ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2541 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ U.A.E. แจ้งว่าจะมอบตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนให้ทางการไทยดำเนินคดี และในวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ออท. สนั่นชาติฯ ได้เดินทางไปหารือข้อราชการกับอธิบดีกรมกงสุล และได้รับมอบอัญมณีของกลาง จึงได้นำมาส่งมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยในวันนี้
นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “นับเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสากล ทางการตำรวจ U.A.E. สอท. ณ กรุงอาบูดาบี และกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้สามารถส่งคืนของมีค่าให้แก่เจ้าทุกข์ได้ ทั้งๆ ที่ไทยและ U.A.E. ไม่ได้มีความตกลงใดๆ ในเรื่องเหล่านี้”
นายกอบศักดิ์ ชุติกุล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า การส่งมอบตัวผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ถือเป็นเรื่องถ้อยทีถ้อยประติบัติ เพราะไทยกับ U.A.E. ยังไม่มีสนธิสัญญาเกี่ยวกับความร่วมมือด้านนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
วันนี้ (23 ธ.ค. 41) เวลาประมาณ 15.00 น. นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นายปกศักดิ์ นิลอุบล อธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาทิ พ.ต.อ. จุลชิต โปษยานนท์ รอง ผบก. กองการต่างประเทศ พ.ต.ท. วิสนุ ปราสาททองโอสถ กองการต่างประเทศ พ.ต.อ.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ ผกก. 2.กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พ.ต.ท.สมศักดิ์ ชุมแจ่ม สารวัตรแผนก 5 กองกำกับ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว ฯลฯ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบเครื่องประดับที่ถูกโจรกรรมไปจากประเทศไทยคืนเจ้าทุกข์ โดยนายสนั่นชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีเป็นผู้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อส่งมอบต่อนาย Mohamed Ali Wani เจ้าทุกข์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวอินเดียในไทย
ร.ต.อ. รุจ เนตรเชาวลิต สารวัตรตำรวจสากล กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดเผยรายละเอียดของคดีนี้ว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2541 เวลาประมาณ 23.00 น. นาย Mohamed Ali Wani พ่อค้าอัญมณีสัญชาติอินเดีย ซึ่งมีกิจการในประเทศไทย ถือหนังสือเดินทางเลขที่ A 1261458 ถูกคนร้าย 4 คน ปล้นทรัพย์บนรถ Mercedes Benz ที่บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวจึงได้ประสานกับสารวัตรตำรวจสากลในการสืบหาคนร้าย และได้มีหนังสือถึง Interpol ในประเทศต่างๆ เพื่อขอความร่วมมือในการสืบหาตัวผู้ต้องหา เพื่อนำกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ต่อมาทางการตำรวจ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( U.A.E.) สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 รายพร้อมของกลางในขณะที่กำลังเร่ขายของกลางที่ตลาดทองใน U.A.E. ซึ่งทราบชื่อคนร้ายในภายหลังว่าคือ นาย Vikas Aurora และนาง Wissad Assad Ali สัญชาติอินเดีย ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการประสานกับทางการตำรวจ U.A.E. เพื่อขอรับตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายมาดำเนินคดีในประเทศไทย คาดว่าจะทราบผลใน 2 สัปดาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อตามจับกุมคนร้ายที่เหลือ 2 คนซึ่งยังคงหลบหนีอยู่
นาย Mohamed Ali Wani เจ้าทุกข์ ซึ่งได้เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบของกลางด้วยแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าของกลางที่ได้รับครั้งนี้ เป็นของตน 9 รายการ มีมูลค่าประมาณสองแสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าจะได้สืบสวน และส่งมอบของกลางที่เหลือแก่เจ้าทุกข์รายอื่นๆ ต่อไป
นายสนั่นชาติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีกล่าวว่า ได้รับทราบข่าวการหลบหนีของคนร้ายไปยัง U.A.E. จากทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น จึงได้ประสานงานกับทางการ U.A.E. เพื่อขอรับทราบรายละเอียด ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2541 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีได้รับหนังสือจากกระทรวงการต่างประเทศ U.A.E. แจ้งว่าจะมอบตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนให้ทางการไทยดำเนินคดี และในวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ออท. สนั่นชาติฯ ได้เดินทางไปหารือข้อราชการกับอธิบดีกรมกงสุล และได้รับมอบอัญมณีของกลาง จึงได้นำมาส่งมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยในวันนี้
นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “นับเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจสากล ทางการตำรวจ U.A.E. สอท. ณ กรุงอาบูดาบี และกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้สามารถส่งคืนของมีค่าให้แก่เจ้าทุกข์ได้ ทั้งๆ ที่ไทยและ U.A.E. ไม่ได้มีความตกลงใดๆ ในเรื่องเหล่านี้”
นายกอบศักดิ์ ชุติกุล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า การส่งมอบตัวผู้ต้องสงสัยครั้งนี้ถือเป็นเรื่องถ้อยทีถ้อยประติบัติ เพราะไทยกับ U.A.E. ยังไม่มีสนธิสัญญาเกี่ยวกับความร่วมมือด้านนี้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--