กรุงเทพ--25 มี.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับสำนักงาน United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการอนุวัติการทางกฎหมายของไทยต่ออนุสัญญาและพิธีสารต่อต้านการก่อการร้ายสากลและอนุสัญญาต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (Legislative Implementation of Universal Anti-Terrorism Instruments and Transnational Organized Crime Convention) ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมการประชุมฯ ได้แก่ กรมสนธิสัญญาฯ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือ กรมการขนส่งทางน้ำและพานิชยนาวี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงกลาโหม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์ประสานงานต่อต้านการก่อการร้ายสากลและอาชญากรรมข้ามชาติ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้าน การก่อการร้ายสากล และธนาคารแห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมฯ ก็เพื่อให้มีการหารือทางวิชาการระหว่าง ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยกับสำนักงาน UNODC รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และรับฟัง ประสบการณ์การดำเนินการของประเทศต่างๆ ซึ่งสำนักงาน UNODC ได้รวบรวมว่ามีอุปสรรคปัญหาใด บ้าง ซึ่งช่วยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีว่า ประเทศไทยน่าจะสามารถเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการ ก่อการร้ายที่เหลืออยู่ได้เร็วขึ้น อาทิ อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมที่กระทำต่อบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ รวมทั้งตัวแทนทางทูต ค.ศ. 1973 อนุสัญญาว่าด้วยการ ป้องกันทางกายภาพต่อวัตถุนิวเคลียร์ ค.ศ. 1979 และอนุสัญญาว่าด้วยการผสมสารในวัตถุระเบิดพลาสติกเพื่อการตรวจสอบ ค.ศ. 1991 นอกจากนี้ สำนักงาน UNODC จะได้นำผลการจัดประชุมฯ ไปรายงานต่อการประชุม UN Congress on Crime Prevention and Criminal Justice ครั้งที่ 11 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน ศกนี้
กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมสนธิสัญญาฯ จะได้นำผลการประชุมฯ ดังกล่าวไปพิจารณาเร่งรัดการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการก่อการร้ายที่เหลืออยู่โดยเร็วต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม 2548 กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมกับสำนักงาน United Nations Office on Drugs and Crime (UNODC) ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการอนุวัติการทางกฎหมายของไทยต่ออนุสัญญาและพิธีสารต่อต้านการก่อการร้ายสากลและอนุสัญญาต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติ ที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร (Legislative Implementation of Universal Anti-Terrorism Instruments and Transnational Organized Crime Convention) ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมการประชุมฯ ได้แก่ กรมสนธิสัญญาฯ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือ กรมการขนส่งทางน้ำและพานิชยนาวี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงกลาโหม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานศาลยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์ประสานงานต่อต้านการก่อการร้ายสากลและอาชญากรรมข้ามชาติ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้าน การก่อการร้ายสากล และธนาคารแห่งประเทศไทย
วัตถุประสงค์สำคัญของการประชุมฯ ก็เพื่อให้มีการหารือทางวิชาการระหว่าง ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยกับสำนักงาน UNODC รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และรับฟัง ประสบการณ์การดำเนินการของประเทศต่างๆ ซึ่งสำนักงาน UNODC ได้รวบรวมว่ามีอุปสรรคปัญหาใด บ้าง ซึ่งช่วยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยมีความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ ได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ เป็นที่น่ายินดีว่า ประเทศไทยน่าจะสามารถเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการ ก่อการร้ายที่เหลืออยู่ได้เร็วขึ้น อาทิ อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมที่กระทำต่อบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ รวมทั้งตัวแทนทางทูต ค.ศ. 1973 อนุสัญญาว่าด้วยการ ป้องกันทางกายภาพต่อวัตถุนิวเคลียร์ ค.ศ. 1979 และอนุสัญญาว่าด้วยการผสมสารในวัตถุระเบิดพลาสติกเพื่อการตรวจสอบ ค.ศ. 1991 นอกจากนี้ สำนักงาน UNODC จะได้นำผลการจัดประชุมฯ ไปรายงานต่อการประชุม UN Congress on Crime Prevention and Criminal Justice ครั้งที่ 11 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน ศกนี้
กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมสนธิสัญญาฯ จะได้นำผลการประชุมฯ ดังกล่าวไปพิจารณาเร่งรัดการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการก่อการร้ายที่เหลืออยู่โดยเร็วต่อไป
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-