แท็ก
รัฐวิสาหกิจ
ในส่วนนี้จะได้อธิบายถึงหลักการของโครงการปฏิรูปโดยรวม รวมถึงการปฏิบัติของภาครัฐในสาขาต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการแปรรูป
1. วัตถุประสงค์ของแผนแม่บท
วัตถุประสงค์ของแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ (ต่อไปนี้เรียกว่า “แผนแม่บท”) คือ การกำหนดขอบเขตและทิศทางการแปรรูปและปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจเพื่อช่วยให้การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการพัฒนารัฐวิสาหกิจสาขาต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล
แผนแม่บท เป็นเอกสารกำหนดกรอบการปฏิรูปและแปรรูปรัฐวิสาหกิจในระดับสูง เป็นเอกสารอ้างอิงสำหรับรัฐบาล กระทรวงต่าง ๆ รัฐวิสาหกิจ นักลงทุน พนักงานรัฐวิสาหกิจ และสาธารณชนทั่วไป และกำหนดให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเป็นประจำทุกปี เพื่อปรับปรุงและทบทวนการดำเนินงานสำหรับปีที่ผ่านมา และกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานสำหรับปีต่อไป
แผนแม่บท เป็นเอกสารเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นหลักการ และวิธีปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ สำหรับในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานนั้น แผนแม่บทได้กล่าวถึงประเด็นหลักเกี่ยวกับโครงสร้างทางการตลาดและวัตถุประสงค์ นอกจากนั้นแผนแม่บทได้กำหนดระยะเวลาสำหรับกิจกรรมหลัก ๆ และแนวทางในการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจแต่ละสาขาเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว
รายละเอียดวิธีปฏิบัติในการปรับโครงสร้างและแปรรูปรัฐวิสาหกิจแต่ละสาขา รวมทั้งระยะเวลาสำหรับแต่ละรัฐวิสาหกิจจะอยู่ในส่วนของแผนปฏิบัติการรายสาขา ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2541
ในเดือนตุลาคมของทุกปี รัฐบาลจะจัดพิมพ์รายงานโครงการปฏิรูป และแผนปฏิบัติการประจำปี ซึ่งจะรายงานถึงการดำเนินงานของโครงการเทียบกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีก่อนรวมถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของปีถัดไป
2. ความเป็นมาและเนื้อหาของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในประเทศไทยเริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2504 และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 นับแต่นั้นมา ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมารัฐบาลได้แปรรูปรัฐวิสาหกิจไปแล้วมากกว่า 40 แห่ง จากจำนวนรัฐวิสาหกิจทั้งหมดกว่า 100 แห่งเหลือ 591 แห่งในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งปัจจุบัน การแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังไม่ได้รับการดำเนินการในลักษณะที่เป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเป็นที่เข้าใจกัน
จากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในปัจจุบันมีผลมาจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 การลอยตัวของค่าเงินบาทในปี พ.ศ. 2540 และผลของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินได้ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี จบลง
จากการคาดการณ์ว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปี พ.ศ. 2541 จะติดลบ แผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถแก้ไขข้อจำกัดในเรื่องของ
ความสามารถในการให้เงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจต่อไป
ความสามารถในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
ความสามารถในการสามารถดึงดูด เงินลงทุน ความรู้ด้านการจัดการ และเทคโนโลยีจากภาคเอกชนหรือนักลงทุนต่างประเทศ
ความสามารถในการสามารถลด ภาระหนี้สิน ของรัฐบาล
สร้างความเชื่อมั่นสำหรับประเทศไทย ตลาดทุนไทย และบริษัทเอกชนไทย
____________________________________
1แผนแม่บทฉบับนี้กล่าวถึงรัฐวิสาหกิจ จำนวน 59 แห่ง โดยไม่ได้รวมรัฐวิสาหกิจอีก 8 แห่ง จากจำนวนรวมทั้งสิ้น 67 แห่ง ซึ่งตามข้อมูลของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีรัฐวิสาหกิจจำนวน 3 แห่ง หยุดดำเนินการ (บริษัท สุรินทร์ จำกัด บริษัท ลำพูนจังหวัดพาณิชย์ จำกัด บริษัท ปราจีนบุรีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด) 4 แห่ง ได้รับการยุบเลิกแล้ว (องค์การอาหารสำเร็จรูป องค์การทอผ้า โรงงานน้ำตาลองค์การเหมืองแร่ในทะเล) และอีก 1 แห่งที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อจำหน่ายจ่ายโอน (องค์การอุตสาหกรรมห้องเย็น )
ภายหลังจากการปรับระบบอัตราการแลกเปลี่ยนใหม่ รัฐบาลไทยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 17.3 พันล้าน ดอลล่าร์สหรัฐในลักษณะของเงินกู้ยืม โดยในหนังสือแสดงเจตจำนงฉบับที่ 1 กับ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยมีเป้าหมายในระยะปานกลาง ที่จะเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในกิจการรัฐวิสาหกิจที่มีความสำคัญ นอกจากนี้รัฐบาลยังจะพิจารณาทบทวนปรับปรุงกรอบของกฎหมายที่จะอนุญาตให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนรวมทั้งการเตรียมการตราพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ข้อตกลงที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังคงเป็นเจตน์จำนงของรัฐบาลในการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ทำไว้ในหนังสือแสดงเจตน์จำนงฉบับต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบันด้วย
วัตถุประสงค์ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจตามข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ สรุปได้ดังนี้
เพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนารัฐวิสาหกิจ
ลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ
ลดภาระหนี้สาธารณะ
ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน
สนับสนุนให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ให้ความมั่นใจเกี่ยวกับสวัสดิการที่ดีแก่พนักงาน
เพื่อที่จะให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) เพื่อทำหน้าที่กำหนดทิศทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนและเริ่มทำการจำหน่ายจ่ายโอนรัฐวิสาหกิจที่ต้องแปรรูปเป็นลำดับแรก แต่งตั้งที่ปรึกษาในการแปรรูป จัดทำแผนแม่บทนี้เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่า การปฏิรูปนั้นมีรากฐานที่เข้มแข็งและกรอบการทำงานภายในอนาคตอันใกล้
3. ภาพรวมของรัฐวิสาหกิจในปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้มีรัฐวิสาหกิจรวม 59 แห่ง ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 5 สาขา ได้แก่ สาขาโทรคมนาคมและสื่อสาร สาขาประปา สาขาพลังงาน สาขาขนส่ง และสาขาอื่น ๆ (ประกอบด้วยอุตสาหกรรม สังคม เทคโนโลยี พาณิชย์กรรม การบริการ การเกษตร และการเงิน)
โดยทั่วไปแล้ว รัฐวิสาหกิจที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการ 4 สาขาหลักที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการจ้างงานและมีผลกำไรในระดับสูง นอกจากนี้รัฐวิสาหกิจในสาขาเหล่านี้จะมีผลการดำเนินงานที่ดี อยู่ในระดับเดียวกันกับรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐวิสาหกิจหลายแห่งยังอยู่ในระบบผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด และต้องการเงินลงทุนหรือเงินสนับสนุนจำนวนมากจากรัฐบาลในการดำเนินงาน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการแข่งขันเสรี
การจ้างงานของรัฐวิสาหกิจ 10 อันดับแรก
รัฐวิสาหกิจ จำนวนพนักงาน * ร้อยละของการจ้างงาน
ต่อการจ้างงานทั้งหมดในประเทศ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 32,459 0.11
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 30,619 0.1
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 26,383 0.09
การสื่อสารแห่งประเทศไทย 26,346 0.09
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 24,070 0.08
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ 22,753 0.07
การรถไฟแห่งประเทศไทย 21,160 0.07
ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 16,252 0.05
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 13,299 0.04
การไฟฟ้านครหลวง 12,813 0.04
จำนวนพนักงานทั้งหมดใน 10 รัฐวิสาหกิจ 226,154 0.73
จำนวนพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 319,731 1.04
ปริมาณการจ้างงานทั้งประเทศ 30,820,000 100.00
4. คำจำกัดความ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และผลประโยชน์ของแผนแม่บท
แผนแม่บทการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ จะประกอบด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรของรัฐวิสาหกิจ การปรับองค์กรกำกับดูแล และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรวมถึงกฎหมายประกอบ นอกเหนือไปจากกระบวนการแปรรูป รัฐได้กำหนดวัตถุประสงค์และผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรายละเอียดของวิธีการแปรรูป และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แสดงอยู่ในแผนภาพ 3
คำจำกัดความ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และผลประโยชน์ของแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
เป้าหมาย
เป้าหมายของแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล คือ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้บริษัทของไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หมายถึง มาตรการต่างๆ ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนที่รัฐวิสาหกิจดำเนินการอยู่ในปัจจุบันการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหมายรวมถึงการลดสัดส่วนภาครัฐในกิจการรัฐวิสาหกิจ หรือสินทรัพย์ที่รัฐเป็นเจ้าของ (การโอนความเป็นเจ้าของ) การให้สัมปทาน การร่วมทุน การทำสัญญาว่าจ้างบริหาร การให้เช่า การว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการแทน การทำสัญญากับภาคเอกชนในการให้บริการ การผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อเพิ่มการแข่งขัน จัดตั้งองค์กรกำกับดูแลและการส่งเสริมให้มีการแข่งขันจากคู่แข่งขันรายใหม่
--ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ สำนักรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ กรมบัญชีกลาง--
-ยก-
1. วัตถุประสงค์ของแผนแม่บท
วัตถุประสงค์ของแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ (ต่อไปนี้เรียกว่า “แผนแม่บท”) คือ การกำหนดขอบเขตและทิศทางการแปรรูปและปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจเพื่อช่วยให้การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการพัฒนารัฐวิสาหกิจสาขาต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิผล
แผนแม่บท เป็นเอกสารกำหนดกรอบการปฏิรูปและแปรรูปรัฐวิสาหกิจในระดับสูง เป็นเอกสารอ้างอิงสำหรับรัฐบาล กระทรวงต่าง ๆ รัฐวิสาหกิจ นักลงทุน พนักงานรัฐวิสาหกิจ และสาธารณชนทั่วไป และกำหนดให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการเป็นประจำทุกปี เพื่อปรับปรุงและทบทวนการดำเนินงานสำหรับปีที่ผ่านมา และกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานสำหรับปีต่อไป
แผนแม่บท เป็นเอกสารเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นหลักการ และวิธีปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ สำหรับในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานนั้น แผนแม่บทได้กล่าวถึงประเด็นหลักเกี่ยวกับโครงสร้างทางการตลาดและวัตถุประสงค์ นอกจากนั้นแผนแม่บทได้กำหนดระยะเวลาสำหรับกิจกรรมหลัก ๆ และแนวทางในการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในรัฐวิสาหกิจแต่ละสาขาเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว
รายละเอียดวิธีปฏิบัติในการปรับโครงสร้างและแปรรูปรัฐวิสาหกิจแต่ละสาขา รวมทั้งระยะเวลาสำหรับแต่ละรัฐวิสาหกิจจะอยู่ในส่วนของแผนปฏิบัติการรายสาขา ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2541
ในเดือนตุลาคมของทุกปี รัฐบาลจะจัดพิมพ์รายงานโครงการปฏิรูป และแผนปฏิบัติการประจำปี ซึ่งจะรายงานถึงการดำเนินงานของโครงการเทียบกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีก่อนรวมถึงวัตถุประสงค์และเป้าหมายของปีถัดไป
2. ความเป็นมาและเนื้อหาของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในประเทศไทยเริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 2504 และได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 นับแต่นั้นมา ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมารัฐบาลได้แปรรูปรัฐวิสาหกิจไปแล้วมากกว่า 40 แห่ง จากจำนวนรัฐวิสาหกิจทั้งหมดกว่า 100 แห่งเหลือ 591 แห่งในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งปัจจุบัน การแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังไม่ได้รับการดำเนินการในลักษณะที่เป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจโดยรวมอย่างเป็นที่เข้าใจกัน
จากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในปัจจุบันมีผลมาจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 การลอยตัวของค่าเงินบาทในปี พ.ศ. 2540 และผลของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินได้ทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี จบลง
จากการคาดการณ์ว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปี พ.ศ. 2541 จะติดลบ แผนการแปรรูปรัฐวิสาหกิจจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถแก้ไขข้อจำกัดในเรื่องของ
ความสามารถในการให้เงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจต่อไป
ความสามารถในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ
ความสามารถในการสามารถดึงดูด เงินลงทุน ความรู้ด้านการจัดการ และเทคโนโลยีจากภาคเอกชนหรือนักลงทุนต่างประเทศ
ความสามารถในการสามารถลด ภาระหนี้สิน ของรัฐบาล
สร้างความเชื่อมั่นสำหรับประเทศไทย ตลาดทุนไทย และบริษัทเอกชนไทย
____________________________________
1แผนแม่บทฉบับนี้กล่าวถึงรัฐวิสาหกิจ จำนวน 59 แห่ง โดยไม่ได้รวมรัฐวิสาหกิจอีก 8 แห่ง จากจำนวนรวมทั้งสิ้น 67 แห่ง ซึ่งตามข้อมูลของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีรัฐวิสาหกิจจำนวน 3 แห่ง หยุดดำเนินการ (บริษัท สุรินทร์ จำกัด บริษัท ลำพูนจังหวัดพาณิชย์ จำกัด บริษัท ปราจีนบุรีจังหวัดพาณิชย์ จำกัด) 4 แห่ง ได้รับการยุบเลิกแล้ว (องค์การอาหารสำเร็จรูป องค์การทอผ้า โรงงานน้ำตาลองค์การเหมืองแร่ในทะเล) และอีก 1 แห่งที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อจำหน่ายจ่ายโอน (องค์การอุตสาหกรรมห้องเย็น )
ภายหลังจากการปรับระบบอัตราการแลกเปลี่ยนใหม่ รัฐบาลไทยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 17.3 พันล้าน ดอลล่าร์สหรัฐในลักษณะของเงินกู้ยืม โดยในหนังสือแสดงเจตจำนงฉบับที่ 1 กับ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยมีเป้าหมายในระยะปานกลาง ที่จะเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในกิจการรัฐวิสาหกิจที่มีความสำคัญ นอกจากนี้รัฐบาลยังจะพิจารณาทบทวนปรับปรุงกรอบของกฎหมายที่จะอนุญาตให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนรวมทั้งการเตรียมการตราพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ข้อตกลงที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจยังคงเป็นเจตน์จำนงของรัฐบาลในการดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ทำไว้ในหนังสือแสดงเจตน์จำนงฉบับต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบันด้วย
วัตถุประสงค์ในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจตามข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ สรุปได้ดังนี้
เพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนารัฐวิสาหกิจ
ลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ
ลดภาระหนี้สาธารณะ
ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน
สนับสนุนให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ให้ความมั่นใจเกี่ยวกับสวัสดิการที่ดีแก่พนักงาน
เพื่อที่จะให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ (กนร.) เพื่อทำหน้าที่กำหนดทิศทางการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนและเริ่มทำการจำหน่ายจ่ายโอนรัฐวิสาหกิจที่ต้องแปรรูปเป็นลำดับแรก แต่งตั้งที่ปรึกษาในการแปรรูป จัดทำแผนแม่บทนี้เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่า การปฏิรูปนั้นมีรากฐานที่เข้มแข็งและกรอบการทำงานภายในอนาคตอันใกล้
3. ภาพรวมของรัฐวิสาหกิจในปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้มีรัฐวิสาหกิจรวม 59 แห่ง ซึ่งอาจแบ่งได้เป็น 5 สาขา ได้แก่ สาขาโทรคมนาคมและสื่อสาร สาขาประปา สาขาพลังงาน สาขาขนส่ง และสาขาอื่น ๆ (ประกอบด้วยอุตสาหกรรม สังคม เทคโนโลยี พาณิชย์กรรม การบริการ การเกษตร และการเงิน)
โดยทั่วไปแล้ว รัฐวิสาหกิจที่มีบทบาทสำคัญในการให้บริการ 4 สาขาหลักที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีการจ้างงานและมีผลกำไรในระดับสูง นอกจากนี้รัฐวิสาหกิจในสาขาเหล่านี้จะมีผลการดำเนินงานที่ดี อยู่ในระดับเดียวกันกับรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐวิสาหกิจหลายแห่งยังอยู่ในระบบผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด และต้องการเงินลงทุนหรือเงินสนับสนุนจำนวนมากจากรัฐบาลในการดำเนินงาน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดการแข่งขันเสรี
การจ้างงานของรัฐวิสาหกิจ 10 อันดับแรก
รัฐวิสาหกิจ จำนวนพนักงาน * ร้อยละของการจ้างงาน
ต่อการจ้างงานทั้งหมดในประเทศ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 32,459 0.11
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 30,619 0.1
องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 26,383 0.09
การสื่อสารแห่งประเทศไทย 26,346 0.09
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) 24,070 0.08
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ 22,753 0.07
การรถไฟแห่งประเทศไทย 21,160 0.07
ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 16,252 0.05
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 13,299 0.04
การไฟฟ้านครหลวง 12,813 0.04
จำนวนพนักงานทั้งหมดใน 10 รัฐวิสาหกิจ 226,154 0.73
จำนวนพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 319,731 1.04
ปริมาณการจ้างงานทั้งประเทศ 30,820,000 100.00
4. คำจำกัดความ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และผลประโยชน์ของแผนแม่บท
แผนแม่บทการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ จะประกอบด้วยการปรับโครงสร้างองค์กรของรัฐวิสาหกิจ การปรับองค์กรกำกับดูแล และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรวมถึงกฎหมายประกอบ นอกเหนือไปจากกระบวนการแปรรูป รัฐได้กำหนดวัตถุประสงค์และผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งรายละเอียดของวิธีการแปรรูป และผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แสดงอยู่ในแผนภาพ 3
คำจำกัดความ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และผลประโยชน์ของแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
เป้าหมาย
เป้าหมายของแผนแม่บทการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล คือ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อให้บริษัทของไทยสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และเพื่อให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ
การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ หมายถึง มาตรการต่างๆ ในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนที่รัฐวิสาหกิจดำเนินการอยู่ในปัจจุบันการแปรรูปรัฐวิสาหกิจหมายรวมถึงการลดสัดส่วนภาครัฐในกิจการรัฐวิสาหกิจ หรือสินทรัพย์ที่รัฐเป็นเจ้าของ (การโอนความเป็นเจ้าของ) การให้สัมปทาน การร่วมทุน การทำสัญญาว่าจ้างบริหาร การให้เช่า การว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการแทน การทำสัญญากับภาคเอกชนในการให้บริการ การผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อเพิ่มการแข่งขัน จัดตั้งองค์กรกำกับดูแลและการส่งเสริมให้มีการแข่งขันจากคู่แข่งขันรายใหม่
--ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการกำกับนโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ สำนักรัฐวิสาหกิจและหลักทรัพย์ของรัฐ กรมบัญชีกลาง--
-ยก-