ภาวะเศรษฐกิจที่น่าสนใจของสาธารณรัฐประชาชนจีน
1. ยอดเงินออมทรัพย์ทั่วประเทศของจีนใน 5 เดือนแรกของปีนี้ลดลง
ยอดเงินออมทรัพย์ทั่วประเทศของจีนในช่วงระหว่าง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูล-ค่า 350 พันล้านหยวน (ประมาณ 1,400,000 ล้านบาท) ลดลง 140 พันล้านหยวน (ประมาณ 560,000 ล้าน-บาท) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สถาน-การณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากรัฐบาลจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในช่วงปีที่แล้ว ส่งผลให้มีการหันไปลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทน ทั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากช่วง ค.ศ. 1994-1996 ซึ่งจีนมีเงินออมสูง เนื่องจากประชาชนมีรายได้ดี เพราะมีการปฎิรูปเงินเดือน ประกอบกับเศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู รวมทั้งธนาคารให้ดอกเบี้ยเงินออมในอัตราสูง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินถึง 2 ครั้ง ในช่วงปีที่แล้ว เพราะต้องการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งในขณะนั้นสูงมากถึงประมาณร้อยละ 25
2. อัตราการเจริญทางเศรษฐกิจของนครเซี่ยงไฮ้ เติบโตร้อยละ 4.3 และ GDP เติบโตร้อยละ 14 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
เศรษฐกิจของนครเซี่ยงไฮ้ กำลังเจริญเติบโตด้วยดี โดยมีตัวเลขทางเศรษฐกิจบ่งชี้ดังต่อไปนี้
- ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เซี่ยงไฮ้มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 4.3 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยของทั่วประเทศ
- GDP มีมูลค่า 154 พันล้านหยวน (ประมาณ 616,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ14 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ GDP โดยรวมของประเทศเติบโตเพียงร้อยละ 9.7
- ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมีมูลค่า 269 พันล้านหยวน (1,076,000 ล้านบาท) เจริญเติบโตร้อยละ 14.4
- ปริมาณการขายสินค้าปลีกมูลค่า 65 พันล้านหยวน (ประมาณ 260,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ16.2
- รายได้ภาษีในช่วงมกราคม - พฤษภาคม มีมูลค่า 14 พันล้านหยวน (ประมาณ 56,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 23
เซี่ยงไฮ้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยในขณะนี้ การค้าบริการคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44.7 ของ GDP มีการใช้เทคโนโลยียกระดับอุตสาหกรรมมากขึ้นถึงร้อยละ 33.4 ในด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอมีการสร้างพัฒนาสินค้า brand name กว่า 30 ผลิตภัณฑ์ และสามารถควบคุมภาวะขาดทุนไว้ได้ และขณะนี้กำลังปรับปรุงสร้างระบบรัฐวิสาหกิจแบบใหม่ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 40 โครงการ กำลังดำเนินงานด้วยความราบรื่น บางโครงการสำเร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการสร้างสะพาน Xupu และโครงการสร้างจอโทรทัศน์สีขนาดใหญ่ในเขตผู่ตง เป็นต้น
สำหรับเขตผู่ตง ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม GDP เติบโตร้อยละ 20 มีการลงทุน 13 โครงการ ในเขตผลิตเพื่อการส่งออกจินเฉียว และกว่า 3,000 กิจการในเขตการค้าเสรีไว่เกาเฉียว ขณะนี้มีบริษัทการค้าต่างชาติและจีนกว่า 120 บริษัท ที่ได้แสกงเจตจำนงจะไปตั้งตัวแทนในเขตผู่ตง
เซี่ยงไฮ้ยังประสบปัญหาอุตสาหกรรมท้องถิ่น อันสืบเนื่องมาจากราคาวัตถุดิบ แก๊ส น้ำประปา และไฟฟ้า ที่สูงขึ้น นอกจากนี้อุตสาหกรรมสำคัญของเซี่ยงไฮ้ ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ก็มีอัตราการเจริญเติบโตช้าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
3. จีนคาดการณ์ว่าจะผลิตทองคำได้ตามเป้าหมายในปีนี้
กระทรวงผลิตภัณฑ์โลหะของจีนคาดการณ์ว่า ปีนี้จีนน่าจะสามารถผลิตทองคำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะในช่วง 6 เดือนแรก จีนสามารถผลิตทองคำได้กว่าร้อย-ละ 60 ของเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว โดยผลิตได้ 60 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายละเอียดดังนี้
- มณฑลซานตง ผลิตได้มากเป็นอันดับแรก ผลิตได้ 538,000 tales หรือ
16,812 ก.ก
- มณฑลเหอหนาน ผลิตได้ 227,000 taels
- มณฑลเหอเป่ย 144,000 taels
- มณฑลส่านซี 144,000 taels
มณฑลอื่น ๆ ที่ผลิตทองคำได้แก่ ซินเจียง กานซู หูหนาน กวางสี อันฮุย เสฉวน ยูนนาน ฝูเจี้ยน กวางตุ้ง รวมทั้งปักกิ่ง
อนึ่ง อุตสาหกรรมทองคำ ยังคงอยู่ภายใต้การวางแผนควบคุมโดยรัฐบาล โดย People s Bank of China จะเป็นผู้ซื้อผลิตผลทองคำทั้งหมด ปี ค.ศ. 1996 จีนผลิตทองคำได้ 120 ตัน ซึ่งเป็นอันดับ 6 ของโลก ปีนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตได้ 130 ตัน ซึ่งอาจแซงรัสเซียขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5
4. จีนจะขยายการลงทุนด้านกิจการน้ำมันในต่างประเทศ
China National Petroleum Corp ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลให้มีสิทธิในการทำสัญญาดำเนินการถือหุ้นทั้งหมด หรือบางส่วนในกิจการบ่อน้ำมันในต่างประเทศ ได้แก่ แคนาดา เปรู ไทยและที่อื่น ๆ ปัจจุบันจีนได้น้ำมันจากบ่อน้ำมันในต่างประเทศ 700,000 ตันต่อปี
ปัจจุบัน China National offshore Oil Corp (CNOOC) ได้เข้าไปซื้อหุ้นในกิจการบ่อน้ำมันมะละกาของอินโดนีเซีย ร้อยละ 32.58 ซึ่งได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด และบ่อน้ำมันนี้ได้ส่งน้ำมันให้จีน 400,000 ตันต่อปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 นอกจากนี้ CNOOC ยังได้ไปลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ และยังเป็นบริษัทที่ปรึกษาให้กับการขุดน้ำมันในประเทศคาซัคสถานอีกด้วย
5. รัฐบาลจีนปรับราคาค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศให้อยู่ในอัตราเดียวกัน สำหรับคนต่างชาติและคนจีนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2540
กรมการบินพลเรือนภายในของจีนได้ปรับราคาค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ สำหรับคนต่างชาติและคนจีนให้เป็นราคาเดียว โดยคนต่างชาติจะซื้อบัตรโดยสารในราคาที่ถูกลง ในขณะที่คนจีนจะซื้อบัตรโดยสารในราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับให้เข้ากับระบบนานาประเทศ ส่งเสริมการแข่งขัน และความร่วมมือกับสายการบินต่างประเทศ ตลอดจนเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของจีน
ในขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์กลางของจีนได้ประกาศยกเลิกการเก็บค่าโฆษณา 2 ระบบ เช่นดียวกัน โดยลูกค้าชาวต่างชาติและชาวจีนจะจ่ายค่าบริการในอัตราเดียวกัน และในปัจจุบันค่าบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวของจีนในบางสถานที่ก็ปรับเป็นระบบเดียวแล้วเช่นกัน เช่น ที่พระราชวังต้องห้าม ค่าเข้าชมเท่ากัน 20 หยวน (ประมาณ 80 บาท)
6. ข้อสังเกตุ
6.1 อย่างไรก็ตาม นครเซี่ยงไฮ้กำลังประสบปัญหาความล้มเหลวของรัฐ-วิสาหกิจส่วนใหญ่และปัญหาการขายอสังหาริมทรัพย์ในเขตผู่ตง ซึ่งปรากฎในขณะนี้มี supply มากกว่า demand
6.2 เรื่องน้ำมัน จีนมีแหล่งน้ำมันใหญ่หลายแห่งภายในประเทศ แต่ด้วยกระแสการโหมพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้น้ำมันไม่พอใช้ภายในประเทศ ต้องนำเข้าและเพื่อเป็นการประกันความมั่นคงในการมีน้ำมันใช้ รัฐบาลจึงไปลงทุนในกิจการแหล่งน้ำมันในต่างประเทศ เพื่อป้อนน้ำมันกลับเข้าประเทศได้อย่างมั่นคงสม่ำเสมอ
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
1.1 จัดงานส่งเสริมการลงทุนในมณฑลกวางตุ้งที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2540 ว่าจะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเครื่องจักรที่นำเข้าและวัสดุในการผลิตโดยไม่จำเป็นต้องไปตั้งโรงงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจหรือเขตยกเว้นภาษีแต่อย่างใด และโรงงานก็สามารถจะส่งผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายในตลาดภายในประเทศได้ด้วย
1.2 อนึ่งในโอกาสที่ฮ่องกงได้กลับคืนเป็นของจีน คณะกรรมการเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศได้จัดให้มีพิธีลงนามในข้อตกลงร่วมลงทุนระหว่างจีนกับฮ่องกงขึ้นที่นครกวางโจว โดยมีนักธุรกิจฮ่องกงเข้าร่วมกว่า 100 คน และมีการลงนามรวม 21 โครงการ ซึ่งประกอบด้วยโครงการอุตสาหกรรม 12 ราย โครงการอสังหาริมทรัพย์ 5 ราย โครงการภาคบริการ 3 ราย โครงการเกษตรกรรม 1 ราย รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นเงินลงทุนจากฮ่องกง 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ นักธุรกิจชาวฮ่องกงจะได้รับสิทธิต่าง ๆ เช่นเดียวกับชาวกวางตุ้งด้วย
1.3 ปัจจุบันมณฑลกวางตุ้งมีเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงอยู่รวม 6 แห่ง คือ.-
1. SHENZHEN SCIENCE AND TECHNOLOGY INDUSTRIAL PARK
2. ZHUHAI HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
3. GUANGZHOU TIANHE HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
4. ZHONGSHAN TORCH HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
5. HUIZHOU ZHOUNKAI HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
6. FOSHAN HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
ทั้งนี้ ทั้ง 6 เขตข้างต้นสามารถผลิตสินค้าในปี 2539 ได้เป็นมูลค่า 95,000 ล้าน-หยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2538 ร้อยละ 41 และมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 53 ของทั้งประเทศจีน
2. สภาวะเศรษฐกิจมณฑลกวางตุ้ง
2.1 แนวนโยบายของรัฐบาลมณฑลคือ
1. เร่งรัดการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ
2. ขยายตลาดภายในและภายนอกประเทศ
3. เร่งรัดความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและพัฒนาอุตสาหกรรมประเภทเทคโนโลยี
4. ยึดมั่นในการวางแผนครอบครัว
5. ขจัดปัญหาความยากจนและล้าหลังในเขตชนบท
6. ปราบปรามการลักลอบนำเข้า
7.เพิ่มการให้บริการด้านสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน และการรักษาพยาบาล
2.2 เศรษฐกิจของกวางตุ้งในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคง โดยมีผลผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 ผลผลิตด้านอุตสาหกรรมมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 309,820 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19 ส่วนผลผลิตด้านเกษตรกรรมเก็บเกี่ยวได้ถึง 995,800 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 21.8 อนึ่งจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 มณฑลกวางตุ้งได้มีประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านคน โดยมีอัตราการเกิดสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของจีน
2.3 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2540 GDP ของนครกวางโจวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ของช่วงเดียวกันในปี 2539 และมีมูลค่าเป็น 73.7 พันล้านหยวน โดยผลผลิตด้านอุตสาหกรรมมีมูลค่า 84.2 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 ส่วนการค้ากับต่างประเทศนั้นมีการนำเข้าเป็นมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และการส่งออกเป็นมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.7 โดยการส่งออกของบริษัทธุรกิจต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 และมีการใช้เงินลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 ของช่วงเดียวกับของปีก่อน
2.4 สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน GDP มีมูลค่า 73.7 พันล้านหยวน อุตสาห-กรรมผลผลิตมีมูลค่า 84.2 พันล้านหยวน การส่งออก-นำเข้ามีมูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เทศบาลนครกวางโจวมีรายได้ 4.6 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และรายได้ประชากรโดยเฉลี่ย 5,912 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2
3. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
3.1 คณะกรรมการวางแผนของรัฐบาลจีนได้ให้การอนุมัติแก่แผนการจัดสร้างสนามบินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งใหม่ขึ้นที่เขต RENHU ตำบล BAIYUN ซึ่งอยู่ห่างจากนครกวางโจว 28 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ 1,600 เฮกเตอร์ และมีลู่วิ่ง 3 ลู่ ซึ่งมีความยาว 4,000 เมตร และสามารถรอรับผู้โดยสารได้ถึงปีละ 80 ล้านเยน
3.2 ปัจจุบันนครกวางโจวมีประชากร 6.56 ล้านคน โดยมีความหนาแน่นโดยเฉลี่ย 882.5 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมากอัตราการเจริญเติบโตของประชากรโดยเฉลี่ยร้อยละ 1.66 ต่อปีหรือ 113,000 คนต่อปี ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของประเทศจีน
3.3 การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในนครกวางโจวในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2540 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17 โดยมีการขายพื้นที่บ้านพักอาศัย เป็นจำนวน 758,000 ตารางเมตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 74 และมีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในปี 2539 รวมทั้งสิ้นเป็นมูลค่า 23,000 ล้านหยวน
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. สภาวะการค้าระหว่างประเทศ
1.1 ในช่วง 6 เดือนของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศของกวางตุ้งได้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และจะมีผลดีต่อการค้าในช่วง 6 เดือนหลังด้วย โดยมีตัวเลขการค้าเป็นมูลค่า 57.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.6 ซึ่งแยกออกได้เป็นการนำเข้า 24.4 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 และส่งออกเป็นมูลค่า 33.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และมีการค้าเกินดุลเท่ากับ 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ เหตุผลประการหนึ่งมาจากการที่ทางการได้เร่งรัดให้มีการคืนภาษีแก่ผู้ส่งออกโดยรวดเร็วมากขึ้น
1.2 สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ เสื้อผ้าและสิ่งทอมูลค่า 4.85 พันล้านหรียญ-สหรัฐฯ รองเท้า 2.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเด็กเล่นมูลค่า 1.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์พลาสติก 1 พันล้านหรียญสหรัฐฯ และของใช้ในการเดินทาง 990 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนสินค้านำเข้าได้แก่ วัสดุในการผลิตพลาสติก 2.31 พันล้าน-เหรียญสหรัฐฯ เหล็กกล้า 1.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ วงจรไฟฟ้าและชิ้นส่วน 1.04 พัน-ล้านเหรียญสหรัฐฯ กระดาษ 840 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอุปกรณ์เครื่องบันทึกข้อมูล 620 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
1.3 เมื่อแยกเป็นรายประเทศคู่ค้าแล้ว จะเป็นการส่งออกไปฮ่องกง 13.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สหรัฐฯ 7.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ประชาคมยุโรป 3.85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และญี่ปุ่น 3.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าจากญี่ปุ่นเท่ากับ 5.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไต้หวัน 4.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เกาหลีใต้ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ฮ่องกง 2.01 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สหรัฐฯ 1.95 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ประชาคมยุโรป 1.61 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และสิงคโปร์ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. การสร้างสนามบินแห่งใหม่
2.1 นาย HUANG YONG JI เลขาธิการเทศบาลเมือง HUA DU ซึ่งจะเป็นสถานที่ตั้งของสนามบินแห่งใหม่ของนครกวางโจวได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมือง HUA DU จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และเชื่อว่าจะมีผลส่งเสริให้เศรษฐกิจของเมือง HUA DU เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งตามแผนการก่อสร้างในระยะแรกจะมีลานวิ่ง 2 ลาน และในปีแรกจะรับผู้โดยสารได้ 27 ล้านคน เที่ยวบินขึ้นลง 1.6 แสนเที่ยว และขนถ่ายสินค้าได้ 7.4 แสนตัน โดยใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 1,600 เฮกเตอร์ และเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามโครงการจะมี 3 ลานวิ่ง รับผู้โดยสารปีละ 80 ล้านคน สินค้า 2.5 ล้านตัน เที่ยวบิน 3.2 แสนเที่ยว และสถานีท่าอากาศยานพื้นที่ 280,000 ตารางเมตร โรงแรมที่พัก ทางด่วน และรถไฟลอยฟ้าเชื่อมตัวกับตัวเมือง
2.2 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ปรากฎว่า ในขณะนี้ได้มีบริษัทก่อสร้างของประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 บริษัทมาติดต่อขอทราบรายละเอียดจากเทศบาลนครกวางโจวหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และแคนาดา เป็นต้น ซึ่งต่างก็แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมในโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่นี้ ทางนครกวาง-โจวจะจัดตั้งบริษัทมหาชนขึ้นรับผิดชอบในการก่อสร้าง และจะให้บริษัทต่างชาติเข้าถือหุ้นได้ไม่เกิดร้อยละ 49 โดยใช้เงินทุนกว่า 20,000 ล้านหยวน ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนระหว่างนครกวางโจวและองค์การการบินพลเรือนของจีน (CAAC) ร่วมกับต่างประเทศ โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการก่อสร้างซึ่งมีนาย LU RUIHUA ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งเป็นประธาน
3. การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
3.1 จากการเปิดเผยของคณะกรรมการด้านเกษตรกรรม มณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบันการเกษตรในเขตสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียงได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากการลงทุนของต่างประเทศ และสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม ซึ่งจากตัวเลขของเมือง HUI ZHOU ในขณะนี้มีโครงการเกษตรกรรมจากการลงทุนของต่างประเทศรวม 327 โครงการ โดยใช้เงินทุนกว่า 484 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการปรับปรุงพื้นที่เพาะปลูก 55,000 เอเคอร์ มีการปลูกผลไม้ 210,000 เอเคอร์ ป่าไม้ 150,000 เอเคอร์ และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 9,000 เอเคอร์
3.2 ส่วนเมือง ZHONGSAN มีการร่วมทุนกับต่างประเทศ 16 โครงการ ใช้เงินลงทุน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากไต้หวันซึ่งมีการก่อสร้างโรงงานอาหารสัตว์น้ำ สวนผลไม้ เป็นต้น และที่เมือง DONG GUAN ก็มีนักธุรกิจจากไต้หวัน มาเก๊า ญี่ปุ่น สหรัฐฯ บราซิล ไทย สิงคโปร์ และเยอรมันเข้าไปลงทุนรวม 96 โครงการ เป็นมูลค่า 124 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บนพื้นที่ประมาณ 70,000 เอเคอร์ โดยเป็นการเพาะเลี้ยงสุกร เป็ด ไก่ สัตว์น้ำ และการปลูกผัก เป็นต้น
4. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
4.1 ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ การขุดเจาะน้ำมันดิบจากบ่อน้ำมันในทะเลจีนใต้มีปริมาณถึง 6.78 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 31 และเป็นที่คาดว่าจะขุดได้เป็นปริมาณถึง 12 ล้านตันภายในสิ้นปี 2540 ทั้งนี้ การขุดเจาะน้ำมันดำเนินการโดยบริษัท EASTERN SOUTH CHINA SEA CO. ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท CHINA NATIONAL OFFSHORE OIL CORPORATION (CNOOC) โดยมีบ่อน้ำมันรวมทั้งสิ้น 9 บ่อ และมีการร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศ 38 แห่ง ซึ่งมาจาก 11 ประเทศ รวมทั้ง สหรัฐฯ อังกฤษ และอิตาลี
4.2 นครกวางโจวได้ประกาศให้รถยนต์ทุกชนิดต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ไร้สารตะกั่ว โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป และนับเป็นเมืองที่สองที่ได้มีการบังคับใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่วหลังกรุงปักกิ่ง นอกจากนี้ ทางการยังมีแผนการจะประกาศห้ามใช้โฟมในการผลิตกล่องบรรจุอาหารอย่างเข้มงวดอีกด้วย โดยจะหันมาใช้วัสดุประเภท PLANT FIBRE ในการผลิตแทน
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลฟูเจี้ยน
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลฟูเจี้ยน ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
1. ความสัมพันธ์ฟูเจี้ยน-ไต้หวัน
1.1 เขตพัฒนาเศรษฐกิจนครฟูโจวได้กำหนดเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนจากไต้หวัน โดยจะเน้นในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เครื่องคำนวณคอมพิวเตอร์ การค้า การขนส่ง การเกษตร การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี นอกจากนี้ จะมีการใช้นโยบาย การค้าชายแดน” จัดให้มีงานแสดงสินค้า การเจรจาทางการค้า และการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น มีการพัฒนาด้านการขนส่งทางเรือโกดังสินค้า รวมทั้งการพัฒนาเขต MA WEI ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อน ทั้งนี้ ปัจจุบันได้มีการลงทุนจากไต้หวันในเขตพัฒนาเศรษฐกิจนครฟูโจวรวม 145 โครงการเป็นมูลค่า 10,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการส่งออกในปี 2539 เป็นมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
1.2 นาย SHANG GUAN QIWEN ผู้อำนวยการกองโทรคมนาคม มณฑลฟูเจี้ยนได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฟูเจี้ยนและไต้หวันจะมีการสื่อสารไปรษณีย์โดยตรง โดยมีเรือไปรษณีย์แล่นระหว่าง 2 ฝั่ง มีการวางสายเคเบิลใยแก้วใต้ทะเลระหว่างเมืองเซี้ยะเหมินกับเมือง JINMEN ในไต้หวัน และมีการสื่อสารโดยผ่านดาวเทียม ทั้งนี้ ในปัจจุบันเมืองฟูโจวมีระบบโทรศัพท์ที่ทันสมัยและได้มีสายเคเบิลใยแก้วความยาวกว่า 10,000 กิโลเมตร รวมทั้งสถานีรับส่งสัญญาณดาวเทียมในนครฟูโจวและเมืองเซี้ยะเหมิน
1.3 ตามสถิติของด่านศุลกากรเมืองเซี้ยะเหมิน การค้าระหว่างเซี้ยะเหมินกับไต้หวันในปี 2539 มีมูลค่าถึง 1,440 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของการค้าต่างประเทศทั้งหมด ทั้งนี้ การส่งออกของเซี้ยะเหมินมีสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเป็นหลัก ส่วนการนำเข้าจากไต้หวันได้แก่ วัตถุดิบในการผลิตสินค้าเป็นหลัก และปัจจุบันไต้หวันได้เข้าลงทุนในเมืองเซี้ยะเหมินกว่า 1,380 โครงการเป็นมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. สภาวะเศรษฐกิจของมณฑลฟูเจี้ยน
2.1 กรมสถิติมณฑลฟูเจี้ยนเปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกนี้มี GDP เป็นมูลค่า 122,600 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 14 อุตสาหกรรมของมณฑลมีการพัฒนาอย่างมั่นคงโดยมีผลผลิตทั้งหมดเป็นมูลค่า 96,935 ล้านหยวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 17.8 สูงขึ้นกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วประเทศ ร้อยละ 4 และเป็นอันดับที่ 3 ของจีน ส่วนในด้านการค้าต่างประเทศมีมูลค่า 5,374 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เป็นการส่งออกจากธุรกิจการร่วมทุน 3,119 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 และเป็นการส่งออกจากธุรกิจของรัฐ 2,255 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 สำหรับการออมทรัพย์เงินฝากนั้นมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 21,500 ล้านหยวน
2.2 ทางการนครฟูโจวได้แถลงว่า มีเป้าหมายจะพัฒนาอุตสาหกรรมหลัก 5 ประเภทให้มีผลผลิตเป็นมูลค่า 37,500 ล้านหยวนภายในสิ้นศตวรรษนี้ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ การประมง และวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมงนั้นจะพัฒนาให้สามารถแข่งขันได้กับต่างประเทศ ทั้งนี้ ในปัจจุบันฟูเจี้ยนมีการร่วมทุนกับกว่า 30 ประเทศ จัดตั้งธุรกิจด้านการประมงกว่า 431 แห่ง โดยใช้เงินทุนต่างประเทศ 317 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการส่งออกเป็นมูลค่า 650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
3. เมืองเซี้ยะเหมินมีแผนการจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวให้มากขึ้น ในปี 2540 โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 400,000 คน ซึ่งเพิ่มจากปีก่อน 60,000 คน และมีการใช้จ่ายเป็นเงิน 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนนักท่องเที่ยวภายในประเทศมีจำนวน 5 ล้านคน และทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้ 4.8 พันล้านหยวน อนึ่งในปี 2539 เซี่ยะเหมินมี GDP เป็นมูลค่า 30.82 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19.25 และสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของจีนร้อยละ 10
4. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
4.1 เมือง ZHANGZHOU มณฑลฟูเจี้ยน ได้รับการลงทุนจากไต้หวันเป็นจำนวน 850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดของการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งนี้ในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ ทางการได้อนุมัติโครงการลงทุนจากไต้หวันงวดใหม่รวม 69 โครงการเป็นมูลค่า 168 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4.2 เมือง QUANZHOU มณฑลฟูเจี้ยนได้พัฒนาท่าเรือซึ่งมีอยู่ 19 แห่งให้มีกำลังรับขนถ่ายสินค้าได้ปีละ 12 ล้านตัน โดยในปี 2539 มีการขนส่งสินค้าเป็นจำนวน 8 ล้านตัน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 18 ของจีน ทั้งนี้ ทางการมีแผนการที่จะจัดสร้างท่าขนส่งคอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศ และเปิดให้มีการขนส่งสินค้ากับไต้หวันอีก 3 แห่งในปี ค.ศ. 2010
4.3 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ในมณฑลฟูเจี้ยนมียอดเงินรวมทั้งสิ้น 221.6 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.4 พัน-ล้านหยวน ส่วนยอดเงินกู้มีจำนวน 159.6 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12.9 พันล้านหยวน สำหรับธุรกิจการประกันภัยและชีวิตมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 49
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางสี
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางสี ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. สภาวะเศรษฐกิจของกวางสี
1.1 จากการที่หนานหนิงมีที่ตั้งอันเหมาะสม ทำให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมสำคัญของมณฑลกวางสีและมีเศรษฐกิจที่มั่นคง โดยในปี 2539 มี GDP เป็นมูลค่า 20.2 พันล้านหยวน และในช่วงปีที่ผ่านมามีการลงทุนจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 771 ล้านหยวนรวม 734 โครงการ โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญคือ อุตสาหกรรมด้านอาหาร วัสดุก่อสร้าง น้ำตาล เยื่อกระดาษ และเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมหนัก นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์คือ น้ำ ป่าไม้ แร่ธาตุ อาทิ ถ่านหิน แมงกานีส ทังสเตน เหล็ก นิกเกิ้ล ตะกั่ว และสังกะสี เป็นต้น รวมทั้งการปลูกข้าวและธัญพืชอื่น ๆ
1.2 ในด้านอุตสาหกรรม กวางสีสามารถผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เป็นมูลค่า 12.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2539 ร้อยละ 4.7 ทั้งนี้ ทางการได้เน้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สร้างผลกำไรได้ดี อาทิ อุตาหกรรมผลิตน้ำตาลโลหะประเภท NON-FERROUS เครื่องจักรกล รถยนต์ และวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะด้านน้ำตาล ซึ่งอยู่ในอันดับหนึ่งของจีน และรถยนต์ขนาดเล็กซึ่งมีเป้าหมายจะผลิตให้ได้ปีละ 150,000 คันภายในปี ค.ศ. 2000 และการผลิตปูนซีเมนต์ ปัจจุบันกวางสีมีโรงงานที่มีผลผลิตเป็นมูลค่าปีละกว่า 100 ล้านหยวน มากกว่า 70 แห่งซึ่งเท่ากับร้อยละ 40 ของผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งหมดของกวางสี
2. การส่งเสริมการท่องเที่ยวของกวางสี
2.1 ทางการจะพัฒนากิจการท่องเที่ยวของมณฑลให้รุดหน้า โดยมีเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวมากวางสีในปี ค.ศ. 2000 ถึง 40 ล้านคน โดยเป็นชาวต่างประเทศ 1.1 ล้านคน แบ่งออกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 135 ล้านหยวน ส่วนเมื่อปี 2539 กวางสีมีชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยว 5.2 แสนคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 9 ของจีน และมีรายได้ 154 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 12 ของจีน และในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยว 105,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 28.7 ทั้งนี้ กวางสี มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งโดยเฉพาะเมืองกุ้ยหลินซึ่งมีภูเขาและแม่น้ำ เมืองเป่ยไห่ซึ่งมีชายทะเลนอกจากนี้ยังมีเขตชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ที่น่าสนใจรวม 12 กลุ่ม
2.2 เมืองกุ้ยหลินจะเพิ่มความร่วมมือกับฮ่องกงซึ่งกลับคืนเป็นของจีนแล้วให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้ชาวฮ่องกงไปเที่ยวเมืองกุ้ยหลินให้มากขึ้น เนื่องจากจะเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะจัดให้มีเส้นทางท่องเที่ยว ฮ่องกง - กุ้ยหลิน และมีการจัดตั้งกลุ่มโรงแรม และการฝึกอบรมบุคคลากรร่วมกัน ตลอดจนการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
3. การพัฒนาเส้นทางคมนาคมในกวางสี
3.1 จากการที่เส้นทางรถไฟสายหนานหนิง-คุนหมิง ได้เปิดใช้เมื่อเดือนมีนาคม 2540 ได้นำการพัฒนามายังเขตชายฝั่งทะเลของกวางสี โดยมีผลให้ท่าเรือของเมือง FANGCHENG มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นถึงปีละ 2 ล้านตัน ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงขยายท่าเรือให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งในขณะนี้การก่อสร้างท่าเทียบเรือที่ 8 ได้เสร็จสิ้นแล้วส่วนท่าเทียบเรือที่ 9 และที่ 10 ก็จะเริ่มการก่อสร้างได้ภายในปีนี้ และจะมีการขุดลอกร่องน้ำให้สามารถรับเรือขนาด 30,000 ตันได้ตลอดปี และโกดังสินค้าจะรับสินค้าเพิ่มขึ้นจาก 7 แสนตันเป็น 1.5 ล้านตัน
นอกจากนี้ บริษัทมารูเบนิ แห่งญี่ปุ่นก็ได้สร้างท่าเรือพิเศษสำหรับขนถ่ายสารซัลเฟอร์เหลว เพื่อนำขึ้นบรรทุกโดยรถไฟสายหนานหนิง-คุนหมิง ไปแปรรูปที่เมืองคุนหมิงและส่งสินค้าที่แปรรูปแล้วมาลงเรือที่ท่าเรือเมือง FANGCHENG อีกครั้งหนึ่ง ในขณะเดียวกัน บริษัทจากฮ่องกงและจีนก็ได้ลงทุน 100 ล้านหยวน เพื่อสร้างท่าเทียบเรือของตนขึ้นเช่นกัน
4. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
4.1 มณฑลกวางสีมีเป้าหมายจะขยายทางหลวงให้มีความยาวถึง 47,000 กิโลเมตรภายในสิ้นทศวรรษนี้ เมื่อปี2539 ทางการได้ใช้งบประมาณ 3.2 พันล้านหยวนในการก่อสร้างทางหลวง 1,500 กิโลเมตร สะพาน 9 แห่ง ซึ่งบางส่วนเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างกวางสี ยูนนาน และเวียดนาม
4.2 คณะกรรมาธิการการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศมณฑลกวางสี เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีการค้าต่างประเทศเป็นมูลค่า 460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.7 โดยเป็นการส่งออก 370 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงขึ้นร้อยละ 2 และนำเข้า 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงขึ้นร้อยละ 18
4.3 จนถึงสิ้นปี 2539 กวางสีมีธุรกิจและอุตสาหกรรมของเอกชนเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 883,700 ราย ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงาน 1.2 ล้านคน สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.7 อนึ่ง ได้มีการจัดตั้งกลุ่มบรรษัทผลิตน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดขึ้นในจีนโดยใช้ชื่อว่า NANNING UNIFIED SUGAR-REFINING CO.LTD. ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของบริษัทโรงงานน้ำตาล 6 บริษัทในกวางสี
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว
--ข่าวเศรษฐกิจ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 15 / 15 กันยายน 2540--
1. ยอดเงินออมทรัพย์ทั่วประเทศของจีนใน 5 เดือนแรกของปีนี้ลดลง
ยอดเงินออมทรัพย์ทั่วประเทศของจีนในช่วงระหว่าง 5 เดือนแรกของปีนี้ มีมูล-ค่า 350 พันล้านหยวน (ประมาณ 1,400,000 ล้านบาท) ลดลง 140 พันล้านหยวน (ประมาณ 560,000 ล้าน-บาท) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ สถาน-การณ์ดังกล่าวเป็นผลมาจากรัฐบาลจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งในช่วงปีที่แล้ว ส่งผลให้มีการหันไปลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แทน ทั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงไปจากช่วง ค.ศ. 1994-1996 ซึ่งจีนมีเงินออมสูง เนื่องจากประชาชนมีรายได้ดี เพราะมีการปฎิรูปเงินเดือน ประกอบกับเศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู รวมทั้งธนาคารให้ดอกเบี้ยเงินออมในอัตราสูง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินถึง 2 ครั้ง ในช่วงปีที่แล้ว เพราะต้องการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งในขณะนั้นสูงมากถึงประมาณร้อยละ 25
2. อัตราการเจริญทางเศรษฐกิจของนครเซี่ยงไฮ้ เติบโตร้อยละ 4.3 และ GDP เติบโตร้อยละ 14 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
เศรษฐกิจของนครเซี่ยงไฮ้ กำลังเจริญเติบโตด้วยดี โดยมีตัวเลขทางเศรษฐกิจบ่งชี้ดังต่อไปนี้
- ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เซี่ยงไฮ้มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 4.3 ซึ่งสูงกว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยของทั่วประเทศ
- GDP มีมูลค่า 154 พันล้านหยวน (ประมาณ 616,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ14 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่ GDP โดยรวมของประเทศเติบโตเพียงร้อยละ 9.7
- ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมีมูลค่า 269 พันล้านหยวน (1,076,000 ล้านบาท) เจริญเติบโตร้อยละ 14.4
- ปริมาณการขายสินค้าปลีกมูลค่า 65 พันล้านหยวน (ประมาณ 260,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ16.2
- รายได้ภาษีในช่วงมกราคม - พฤษภาคม มีมูลค่า 14 พันล้านหยวน (ประมาณ 56,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 23
เซี่ยงไฮ้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยในขณะนี้ การค้าบริการคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 44.7 ของ GDP มีการใช้เทคโนโลยียกระดับอุตสาหกรรมมากขึ้นถึงร้อยละ 33.4 ในด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอมีการสร้างพัฒนาสินค้า brand name กว่า 30 ผลิตภัณฑ์ และสามารถควบคุมภาวะขาดทุนไว้ได้ และขณะนี้กำลังปรับปรุงสร้างระบบรัฐวิสาหกิจแบบใหม่ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้
โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 40 โครงการ กำลังดำเนินงานด้วยความราบรื่น บางโครงการสำเร็จเรียบร้อยแล้ว เช่น โครงการสร้างสะพาน Xupu และโครงการสร้างจอโทรทัศน์สีขนาดใหญ่ในเขตผู่ตง เป็นต้น
สำหรับเขตผู่ตง ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม GDP เติบโตร้อยละ 20 มีการลงทุน 13 โครงการ ในเขตผลิตเพื่อการส่งออกจินเฉียว และกว่า 3,000 กิจการในเขตการค้าเสรีไว่เกาเฉียว ขณะนี้มีบริษัทการค้าต่างชาติและจีนกว่า 120 บริษัท ที่ได้แสกงเจตจำนงจะไปตั้งตัวแทนในเขตผู่ตง
เซี่ยงไฮ้ยังประสบปัญหาอุตสาหกรรมท้องถิ่น อันสืบเนื่องมาจากราคาวัตถุดิบ แก๊ส น้ำประปา และไฟฟ้า ที่สูงขึ้น นอกจากนี้อุตสาหกรรมสำคัญของเซี่ยงไฮ้ ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ก็มีอัตราการเจริญเติบโตช้าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้
3. จีนคาดการณ์ว่าจะผลิตทองคำได้ตามเป้าหมายในปีนี้
กระทรวงผลิตภัณฑ์โลหะของจีนคาดการณ์ว่า ปีนี้จีนน่าจะสามารถผลิตทองคำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะในช่วง 6 เดือนแรก จีนสามารถผลิตทองคำได้กว่าร้อย-ละ 60 ของเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว โดยผลิตได้ 60 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายละเอียดดังนี้
- มณฑลซานตง ผลิตได้มากเป็นอันดับแรก ผลิตได้ 538,000 tales หรือ
16,812 ก.ก
- มณฑลเหอหนาน ผลิตได้ 227,000 taels
- มณฑลเหอเป่ย 144,000 taels
- มณฑลส่านซี 144,000 taels
มณฑลอื่น ๆ ที่ผลิตทองคำได้แก่ ซินเจียง กานซู หูหนาน กวางสี อันฮุย เสฉวน ยูนนาน ฝูเจี้ยน กวางตุ้ง รวมทั้งปักกิ่ง
อนึ่ง อุตสาหกรรมทองคำ ยังคงอยู่ภายใต้การวางแผนควบคุมโดยรัฐบาล โดย People s Bank of China จะเป็นผู้ซื้อผลิตผลทองคำทั้งหมด ปี ค.ศ. 1996 จีนผลิตทองคำได้ 120 ตัน ซึ่งเป็นอันดับ 6 ของโลก ปีนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถผลิตได้ 130 ตัน ซึ่งอาจแซงรัสเซียขึ้นมาอยู่ในอันดับ 5
4. จีนจะขยายการลงทุนด้านกิจการน้ำมันในต่างประเทศ
China National Petroleum Corp ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลให้มีสิทธิในการทำสัญญาดำเนินการถือหุ้นทั้งหมด หรือบางส่วนในกิจการบ่อน้ำมันในต่างประเทศ ได้แก่ แคนาดา เปรู ไทยและที่อื่น ๆ ปัจจุบันจีนได้น้ำมันจากบ่อน้ำมันในต่างประเทศ 700,000 ตันต่อปี
ปัจจุบัน China National offshore Oil Corp (CNOOC) ได้เข้าไปซื้อหุ้นในกิจการบ่อน้ำมันมะละกาของอินโดนีเซีย ร้อยละ 32.58 ซึ่งได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด และบ่อน้ำมันนี้ได้ส่งน้ำมันให้จีน 400,000 ตันต่อปี มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 นอกจากนี้ CNOOC ยังได้ไปลงทุนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ และยังเป็นบริษัทที่ปรึกษาให้กับการขุดน้ำมันในประเทศคาซัคสถานอีกด้วย
5. รัฐบาลจีนปรับราคาค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศให้อยู่ในอัตราเดียวกัน สำหรับคนต่างชาติและคนจีนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2540
กรมการบินพลเรือนภายในของจีนได้ปรับราคาค่าบัตรโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ สำหรับคนต่างชาติและคนจีนให้เป็นราคาเดียว โดยคนต่างชาติจะซื้อบัตรโดยสารในราคาที่ถูกลง ในขณะที่คนจีนจะซื้อบัตรโดยสารในราคาที่สูงขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับให้เข้ากับระบบนานาประเทศ ส่งเสริมการแข่งขัน และความร่วมมือกับสายการบินต่างประเทศ ตลอดจนเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะส่งเสริมพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของจีน
ในขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์กลางของจีนได้ประกาศยกเลิกการเก็บค่าโฆษณา 2 ระบบ เช่นดียวกัน โดยลูกค้าชาวต่างชาติและชาวจีนจะจ่ายค่าบริการในอัตราเดียวกัน และในปัจจุบันค่าบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวของจีนในบางสถานที่ก็ปรับเป็นระบบเดียวแล้วเช่นกัน เช่น ที่พระราชวังต้องห้าม ค่าเข้าชมเท่ากัน 20 หยวน (ประมาณ 80 บาท)
6. ข้อสังเกตุ
6.1 อย่างไรก็ตาม นครเซี่ยงไฮ้กำลังประสบปัญหาความล้มเหลวของรัฐ-วิสาหกิจส่วนใหญ่และปัญหาการขายอสังหาริมทรัพย์ในเขตผู่ตง ซึ่งปรากฎในขณะนี้มี supply มากกว่า demand
6.2 เรื่องน้ำมัน จีนมีแหล่งน้ำมันใหญ่หลายแห่งภายในประเทศ แต่ด้วยกระแสการโหมพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้น้ำมันไม่พอใช้ภายในประเทศ ต้องนำเข้าและเพื่อเป็นการประกันความมั่นคงในการมีน้ำมันใช้ รัฐบาลจึงไปลงทุนในกิจการแหล่งน้ำมันในต่างประเทศ เพื่อป้อนน้ำมันกลับเข้าประเทศได้อย่างมั่นคงสม่ำเสมอ
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
1.1 จัดงานส่งเสริมการลงทุนในมณฑลกวางตุ้งที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2540 ว่าจะได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับเครื่องจักรที่นำเข้าและวัสดุในการผลิตโดยไม่จำเป็นต้องไปตั้งโรงงานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจหรือเขตยกเว้นภาษีแต่อย่างใด และโรงงานก็สามารถจะส่งผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายในตลาดภายในประเทศได้ด้วย
1.2 อนึ่งในโอกาสที่ฮ่องกงได้กลับคืนเป็นของจีน คณะกรรมการเศรษฐกิจและการค้าต่างประเทศได้จัดให้มีพิธีลงนามในข้อตกลงร่วมลงทุนระหว่างจีนกับฮ่องกงขึ้นที่นครกวางโจว โดยมีนักธุรกิจฮ่องกงเข้าร่วมกว่า 100 คน และมีการลงนามรวม 21 โครงการ ซึ่งประกอบด้วยโครงการอุตสาหกรรม 12 ราย โครงการอสังหาริมทรัพย์ 5 ราย โครงการภาคบริการ 3 ราย โครงการเกษตรกรรม 1 ราย รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นเงินลงทุนจากฮ่องกง 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ นักธุรกิจชาวฮ่องกงจะได้รับสิทธิต่าง ๆ เช่นเดียวกับชาวกวางตุ้งด้วย
1.3 ปัจจุบันมณฑลกวางตุ้งมีเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงอยู่รวม 6 แห่ง คือ.-
1. SHENZHEN SCIENCE AND TECHNOLOGY INDUSTRIAL PARK
2. ZHUHAI HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
3. GUANGZHOU TIANHE HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
4. ZHONGSHAN TORCH HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
5. HUIZHOU ZHOUNKAI HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
6. FOSHAN HIGH TECHNOLOGY INDUSTRIAL DEVELOPMENT ZONE
ทั้งนี้ ทั้ง 6 เขตข้างต้นสามารถผลิตสินค้าในปี 2539 ได้เป็นมูลค่า 95,000 ล้าน-หยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2538 ร้อยละ 41 และมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 53 ของทั้งประเทศจีน
2. สภาวะเศรษฐกิจมณฑลกวางตุ้ง
2.1 แนวนโยบายของรัฐบาลมณฑลคือ
1. เร่งรัดการปฎิรูปรัฐวิสาหกิจ
2. ขยายตลาดภายในและภายนอกประเทศ
3. เร่งรัดความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและพัฒนาอุตสาหกรรมประเภทเทคโนโลยี
4. ยึดมั่นในการวางแผนครอบครัว
5. ขจัดปัญหาความยากจนและล้าหลังในเขตชนบท
6. ปราบปรามการลักลอบนำเข้า
7.เพิ่มการให้บริการด้านสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน และการรักษาพยาบาล
2.2 เศรษฐกิจของกวางตุ้งในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมั่นคง โดยมีผลผลิตภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 ผลผลิตด้านอุตสาหกรรมมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 309,820 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19 ส่วนผลผลิตด้านเกษตรกรรมเก็บเกี่ยวได้ถึง 995,800 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 21.8 อนึ่งจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2540 มณฑลกวางตุ้งได้มีประชากรเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านคน โดยมีอัตราการเกิดสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของจีน
2.3 ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2540 GDP ของนครกวางโจวได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ของช่วงเดียวกันในปี 2539 และมีมูลค่าเป็น 73.7 พันล้านหยวน โดยผลผลิตด้านอุตสาหกรรมมีมูลค่า 84.2 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.7 ส่วนการค้ากับต่างประเทศนั้นมีการนำเข้าเป็นมูลค่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และการส่งออกเป็นมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.7 โดยการส่งออกของบริษัทธุรกิจต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 และมีการใช้เงินลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9 ของช่วงเดียวกับของปีก่อน
2.4 สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน GDP มีมูลค่า 73.7 พันล้านหยวน อุตสาห-กรรมผลผลิตมีมูลค่า 84.2 พันล้านหยวน การส่งออก-นำเข้ามีมูลค่า 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เทศบาลนครกวางโจวมีรายได้ 4.6 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และรายได้ประชากรโดยเฉลี่ย 5,912 หยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.2
3. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
3.1 คณะกรรมการวางแผนของรัฐบาลจีนได้ให้การอนุมัติแก่แผนการจัดสร้างสนามบินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งใหม่ขึ้นที่เขต RENHU ตำบล BAIYUN ซึ่งอยู่ห่างจากนครกวางโจว 28 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ 1,600 เฮกเตอร์ และมีลู่วิ่ง 3 ลู่ ซึ่งมีความยาว 4,000 เมตร และสามารถรอรับผู้โดยสารได้ถึงปีละ 80 ล้านเยน
3.2 ปัจจุบันนครกวางโจวมีประชากร 6.56 ล้านคน โดยมีความหนาแน่นโดยเฉลี่ย 882.5 คนต่อ 1 ตารางกิโลเมตร ทั้งนี้ในช่วงระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมากอัตราการเจริญเติบโตของประชากรโดยเฉลี่ยร้อยละ 1.66 ต่อปีหรือ 113,000 คนต่อปี ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของประเทศจีน
3.3 การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในนครกวางโจวในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2540 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17 โดยมีการขายพื้นที่บ้านพักอาศัย เป็นจำนวน 758,000 ตารางเมตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 74 และมีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในปี 2539 รวมทั้งสิ้นเป็นมูลค่า 23,000 ล้านหยวน
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. สภาวะการค้าระหว่างประเทศ
1.1 ในช่วง 6 เดือนของปีนี้ การค้าระหว่างประเทศของกวางตุ้งได้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง และจะมีผลดีต่อการค้าในช่วง 6 เดือนหลังด้วย โดยมีตัวเลขการค้าเป็นมูลค่า 57.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 21.6 ซึ่งแยกออกได้เป็นการนำเข้า 24.4 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.1 และส่งออกเป็นมูลค่า 33.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และมีการค้าเกินดุลเท่ากับ 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ เหตุผลประการหนึ่งมาจากการที่ทางการได้เร่งรัดให้มีการคืนภาษีแก่ผู้ส่งออกโดยรวดเร็วมากขึ้น
1.2 สินค้าส่งออกที่สำคัญได้แก่ เสื้อผ้าและสิ่งทอมูลค่า 4.85 พันล้านหรียญ-สหรัฐฯ รองเท้า 2.15 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของเด็กเล่นมูลค่า 1.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลิตภัณฑ์พลาสติก 1 พันล้านหรียญสหรัฐฯ และของใช้ในการเดินทาง 990 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนสินค้านำเข้าได้แก่ วัสดุในการผลิตพลาสติก 2.31 พันล้าน-เหรียญสหรัฐฯ เหล็กกล้า 1.42 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ วงจรไฟฟ้าและชิ้นส่วน 1.04 พัน-ล้านเหรียญสหรัฐฯ กระดาษ 840 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอุปกรณ์เครื่องบันทึกข้อมูล 620 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
1.3 เมื่อแยกเป็นรายประเทศคู่ค้าแล้ว จะเป็นการส่งออกไปฮ่องกง 13.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สหรัฐฯ 7.28 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ประชาคมยุโรป 3.85 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และญี่ปุ่น 3.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการนำเข้าจากญี่ปุ่นเท่ากับ 5.54 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไต้หวัน 4.72 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เกาหลีใต้ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ฮ่องกง 2.01 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สหรัฐฯ 1.95 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ประชาคมยุโรป 1.61 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และสิงคโปร์ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. การสร้างสนามบินแห่งใหม่
2.1 นาย HUANG YONG JI เลขาธิการเทศบาลเมือง HUA DU ซึ่งจะเป็นสถานที่ตั้งของสนามบินแห่งใหม่ของนครกวางโจวได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมือง HUA DU จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และเชื่อว่าจะมีผลส่งเสริให้เศรษฐกิจของเมือง HUA DU เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งตามแผนการก่อสร้างในระยะแรกจะมีลานวิ่ง 2 ลาน และในปีแรกจะรับผู้โดยสารได้ 27 ล้านคน เที่ยวบินขึ้นลง 1.6 แสนเที่ยว และขนถ่ายสินค้าได้ 7.4 แสนตัน โดยใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 1,600 เฮกเตอร์ และเมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ตามโครงการจะมี 3 ลานวิ่ง รับผู้โดยสารปีละ 80 ล้านคน สินค้า 2.5 ล้านตัน เที่ยวบิน 3.2 แสนเที่ยว และสถานีท่าอากาศยานพื้นที่ 280,000 ตารางเมตร โรงแรมที่พัก ทางด่วน และรถไฟลอยฟ้าเชื่อมตัวกับตัวเมือง
2.2 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ปรากฎว่า ในขณะนี้ได้มีบริษัทก่อสร้างของประเทศต่าง ๆ มากกว่า 50 บริษัทมาติดต่อขอทราบรายละเอียดจากเทศบาลนครกวางโจวหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ เยอรมัน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และแคนาดา เป็นต้น ซึ่งต่างก็แสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมในโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่นี้ ทางนครกวาง-โจวจะจัดตั้งบริษัทมหาชนขึ้นรับผิดชอบในการก่อสร้าง และจะให้บริษัทต่างชาติเข้าถือหุ้นได้ไม่เกิดร้อยละ 49 โดยใช้เงินทุนกว่า 20,000 ล้านหยวน ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนระหว่างนครกวางโจวและองค์การการบินพลเรือนของจีน (CAAC) ร่วมกับต่างประเทศ โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมการก่อสร้างซึ่งมีนาย LU RUIHUA ผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งเป็นประธาน
3. การพัฒนาด้านเกษตรกรรม
3.1 จากการเปิดเผยของคณะกรรมการด้านเกษตรกรรม มณฑลกวางตุ้ง ปัจจุบันการเกษตรในเขตสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำจูเจียงได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วอันเป็นผลมาจากการลงทุนของต่างประเทศ และสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม ซึ่งจากตัวเลขของเมือง HUI ZHOU ในขณะนี้มีโครงการเกษตรกรรมจากการลงทุนของต่างประเทศรวม 327 โครงการ โดยใช้เงินทุนกว่า 484 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการปรับปรุงพื้นที่เพาะปลูก 55,000 เอเคอร์ มีการปลูกผลไม้ 210,000 เอเคอร์ ป่าไม้ 150,000 เอเคอร์ และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 9,000 เอเคอร์
3.2 ส่วนเมือง ZHONGSAN มีการร่วมทุนกับต่างประเทศ 16 โครงการ ใช้เงินลงทุน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากไต้หวันซึ่งมีการก่อสร้างโรงงานอาหารสัตว์น้ำ สวนผลไม้ เป็นต้น และที่เมือง DONG GUAN ก็มีนักธุรกิจจากไต้หวัน มาเก๊า ญี่ปุ่น สหรัฐฯ บราซิล ไทย สิงคโปร์ และเยอรมันเข้าไปลงทุนรวม 96 โครงการ เป็นมูลค่า 124 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บนพื้นที่ประมาณ 70,000 เอเคอร์ โดยเป็นการเพาะเลี้ยงสุกร เป็ด ไก่ สัตว์น้ำ และการปลูกผัก เป็นต้น
4. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
4.1 ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ การขุดเจาะน้ำมันดิบจากบ่อน้ำมันในทะเลจีนใต้มีปริมาณถึง 6.78 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 31 และเป็นที่คาดว่าจะขุดได้เป็นปริมาณถึง 12 ล้านตันภายในสิ้นปี 2540 ทั้งนี้ การขุดเจาะน้ำมันดำเนินการโดยบริษัท EASTERN SOUTH CHINA SEA CO. ซึ่งอยู่ในเครือของบริษัท CHINA NATIONAL OFFSHORE OIL CORPORATION (CNOOC) โดยมีบ่อน้ำมันรวมทั้งสิ้น 9 บ่อ และมีการร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศ 38 แห่ง ซึ่งมาจาก 11 ประเทศ รวมทั้ง สหรัฐฯ อังกฤษ และอิตาลี
4.2 นครกวางโจวได้ประกาศให้รถยนต์ทุกชนิดต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ไร้สารตะกั่ว โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป และนับเป็นเมืองที่สองที่ได้มีการบังคับใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่วหลังกรุงปักกิ่ง นอกจากนี้ ทางการยังมีแผนการจะประกาศห้ามใช้โฟมในการผลิตกล่องบรรจุอาหารอย่างเข้มงวดอีกด้วย โดยจะหันมาใช้วัสดุประเภท PLANT FIBRE ในการผลิตแทน
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลฟูเจี้ยน
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลฟูเจี้ยน ซึ่งสรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้
1. ความสัมพันธ์ฟูเจี้ยน-ไต้หวัน
1.1 เขตพัฒนาเศรษฐกิจนครฟูโจวได้กำหนดเป้าหมายในการดึงดูดการลงทุนจากไต้หวัน โดยจะเน้นในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม เครื่องคำนวณคอมพิวเตอร์ การค้า การขนส่ง การเกษตร การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี นอกจากนี้ จะมีการใช้นโยบาย การค้าชายแดน” จัดให้มีงานแสดงสินค้า การเจรจาทางการค้า และการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น มีการพัฒนาด้านการขนส่งทางเรือโกดังสินค้า รวมทั้งการพัฒนาเขต MA WEI ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อน ทั้งนี้ ปัจจุบันได้มีการลงทุนจากไต้หวันในเขตพัฒนาเศรษฐกิจนครฟูโจวรวม 145 โครงการเป็นมูลค่า 10,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการส่งออกในปี 2539 เป็นมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
1.2 นาย SHANG GUAN QIWEN ผู้อำนวยการกองโทรคมนาคม มณฑลฟูเจี้ยนได้ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฟูเจี้ยนและไต้หวันจะมีการสื่อสารไปรษณีย์โดยตรง โดยมีเรือไปรษณีย์แล่นระหว่าง 2 ฝั่ง มีการวางสายเคเบิลใยแก้วใต้ทะเลระหว่างเมืองเซี้ยะเหมินกับเมือง JINMEN ในไต้หวัน และมีการสื่อสารโดยผ่านดาวเทียม ทั้งนี้ ในปัจจุบันเมืองฟูโจวมีระบบโทรศัพท์ที่ทันสมัยและได้มีสายเคเบิลใยแก้วความยาวกว่า 10,000 กิโลเมตร รวมทั้งสถานีรับส่งสัญญาณดาวเทียมในนครฟูโจวและเมืองเซี้ยะเหมิน
1.3 ตามสถิติของด่านศุลกากรเมืองเซี้ยะเหมิน การค้าระหว่างเซี้ยะเหมินกับไต้หวันในปี 2539 มีมูลค่าถึง 1,440 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของการค้าต่างประเทศทั้งหมด ทั้งนี้ การส่งออกของเซี้ยะเหมินมีสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมเป็นหลัก ส่วนการนำเข้าจากไต้หวันได้แก่ วัตถุดิบในการผลิตสินค้าเป็นหลัก และปัจจุบันไต้หวันได้เข้าลงทุนในเมืองเซี้ยะเหมินกว่า 1,380 โครงการเป็นมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
2. สภาวะเศรษฐกิจของมณฑลฟูเจี้ยน
2.1 กรมสถิติมณฑลฟูเจี้ยนเปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรกนี้มี GDP เป็นมูลค่า 122,600 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 14 อุตสาหกรรมของมณฑลมีการพัฒนาอย่างมั่นคงโดยมีผลผลิตทั้งหมดเป็นมูลค่า 96,935 ล้านหยวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 17.8 สูงขึ้นกว่าเกณฑ์เฉลี่ยทั่วประเทศ ร้อยละ 4 และเป็นอันดับที่ 3 ของจีน ส่วนในด้านการค้าต่างประเทศมีมูลค่า 5,374 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เป็นการส่งออกจากธุรกิจการร่วมทุน 3,119 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 และเป็นการส่งออกจากธุรกิจของรัฐ 2,255 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 สำหรับการออมทรัพย์เงินฝากนั้นมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 21,500 ล้านหยวน
2.2 ทางการนครฟูโจวได้แถลงว่า มีเป้าหมายจะพัฒนาอุตสาหกรรมหลัก 5 ประเภทให้มีผลผลิตเป็นมูลค่า 37,500 ล้านหยวนภายในสิ้นศตวรรษนี้ คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ การประมง และวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการประมงนั้นจะพัฒนาให้สามารถแข่งขันได้กับต่างประเทศ ทั้งนี้ ในปัจจุบันฟูเจี้ยนมีการร่วมทุนกับกว่า 30 ประเทศ จัดตั้งธุรกิจด้านการประมงกว่า 431 แห่ง โดยใช้เงินทุนต่างประเทศ 317 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการส่งออกเป็นมูลค่า 650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
3. เมืองเซี้ยะเหมินมีแผนการจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวให้มากขึ้น ในปี 2540 โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 400,000 คน ซึ่งเพิ่มจากปีก่อน 60,000 คน และมีการใช้จ่ายเป็นเงิน 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนนักท่องเที่ยวภายในประเทศมีจำนวน 5 ล้านคน และทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้ 4.8 พันล้านหยวน อนึ่งในปี 2539 เซี่ยะเหมินมี GDP เป็นมูลค่า 30.82 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19.25 และสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของจีนร้อยละ 10
4. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
4.1 เมือง ZHANGZHOU มณฑลฟูเจี้ยน ได้รับการลงทุนจากไต้หวันเป็นจำนวน 850 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดของการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งนี้ในรอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ ทางการได้อนุมัติโครงการลงทุนจากไต้หวันงวดใหม่รวม 69 โครงการเป็นมูลค่า 168 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4.2 เมือง QUANZHOU มณฑลฟูเจี้ยนได้พัฒนาท่าเรือซึ่งมีอยู่ 19 แห่งให้มีกำลังรับขนถ่ายสินค้าได้ปีละ 12 ล้านตัน โดยในปี 2539 มีการขนส่งสินค้าเป็นจำนวน 8 ล้านตัน ซึ่งมากเป็นอันดับที่ 18 ของจีน ทั้งนี้ ทางการมีแผนการที่จะจัดสร้างท่าขนส่งคอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศ และเปิดให้มีการขนส่งสินค้ากับไต้หวันอีก 3 แห่งในปี ค.ศ. 2010
4.3 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ในมณฑลฟูเจี้ยนมียอดเงินรวมทั้งสิ้น 221.6 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.4 พัน-ล้านหยวน ส่วนยอดเงินกู้มีจำนวน 159.6 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12.9 พันล้านหยวน สำหรับธุรกิจการประกันภัยและชีวิตมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านหยวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 49
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางสี
ความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจของมณฑลกวางสี ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. สภาวะเศรษฐกิจของกวางสี
1.1 จากการที่หนานหนิงมีที่ตั้งอันเหมาะสม ทำให้เป็นศูนย์กลางคมนาคมสำคัญของมณฑลกวางสีและมีเศรษฐกิจที่มั่นคง โดยในปี 2539 มี GDP เป็นมูลค่า 20.2 พันล้านหยวน และในช่วงปีที่ผ่านมามีการลงทุนจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 771 ล้านหยวนรวม 734 โครงการ โดยมีอุตสาหกรรมสำคัญคือ อุตสาหกรรมด้านอาหาร วัสดุก่อสร้าง น้ำตาล เยื่อกระดาษ และเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมหนัก นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์คือ น้ำ ป่าไม้ แร่ธาตุ อาทิ ถ่านหิน แมงกานีส ทังสเตน เหล็ก นิกเกิ้ล ตะกั่ว และสังกะสี เป็นต้น รวมทั้งการปลูกข้าวและธัญพืชอื่น ๆ
1.2 ในด้านอุตสาหกรรม กวางสีสามารถผลิตสินค้าอุตสาหกรรมในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เป็นมูลค่า 12.7 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2539 ร้อยละ 4.7 ทั้งนี้ ทางการได้เน้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สร้างผลกำไรได้ดี อาทิ อุตาหกรรมผลิตน้ำตาลโลหะประเภท NON-FERROUS เครื่องจักรกล รถยนต์ และวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะด้านน้ำตาล ซึ่งอยู่ในอันดับหนึ่งของจีน และรถยนต์ขนาดเล็กซึ่งมีเป้าหมายจะผลิตให้ได้ปีละ 150,000 คันภายในปี ค.ศ. 2000 และการผลิตปูนซีเมนต์ ปัจจุบันกวางสีมีโรงงานที่มีผลผลิตเป็นมูลค่าปีละกว่า 100 ล้านหยวน มากกว่า 70 แห่งซึ่งเท่ากับร้อยละ 40 ของผลผลิตอุตสาหกรรมทั้งหมดของกวางสี
2. การส่งเสริมการท่องเที่ยวของกวางสี
2.1 ทางการจะพัฒนากิจการท่องเที่ยวของมณฑลให้รุดหน้า โดยมีเป้าหมายให้มีนักท่องเที่ยวมากวางสีในปี ค.ศ. 2000 ถึง 40 ล้านคน โดยเป็นชาวต่างประเทศ 1.1 ล้านคน แบ่งออกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 400-500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 135 ล้านหยวน ส่วนเมื่อปี 2539 กวางสีมีชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยว 5.2 แสนคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 9 ของจีน และมีรายได้ 154 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 12 ของจีน และในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยว 105,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 28.7 ทั้งนี้ กวางสี มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งโดยเฉพาะเมืองกุ้ยหลินซึ่งมีภูเขาและแม่น้ำ เมืองเป่ยไห่ซึ่งมีชายทะเลนอกจากนี้ยังมีเขตชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ ที่น่าสนใจรวม 12 กลุ่ม
2.2 เมืองกุ้ยหลินจะเพิ่มความร่วมมือกับฮ่องกงซึ่งกลับคืนเป็นของจีนแล้วให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้ชาวฮ่องกงไปเที่ยวเมืองกุ้ยหลินให้มากขึ้น เนื่องจากจะเดินทางได้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะจัดให้มีเส้นทางท่องเที่ยว ฮ่องกง - กุ้ยหลิน และมีการจัดตั้งกลุ่มโรงแรม และการฝึกอบรมบุคคลากรร่วมกัน ตลอดจนการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพิ่มขึ้น
3. การพัฒนาเส้นทางคมนาคมในกวางสี
3.1 จากการที่เส้นทางรถไฟสายหนานหนิง-คุนหมิง ได้เปิดใช้เมื่อเดือนมีนาคม 2540 ได้นำการพัฒนามายังเขตชายฝั่งทะเลของกวางสี โดยมีผลให้ท่าเรือของเมือง FANGCHENG มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นถึงปีละ 2 ล้านตัน ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงขยายท่าเรือให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งในขณะนี้การก่อสร้างท่าเทียบเรือที่ 8 ได้เสร็จสิ้นแล้วส่วนท่าเทียบเรือที่ 9 และที่ 10 ก็จะเริ่มการก่อสร้างได้ภายในปีนี้ และจะมีการขุดลอกร่องน้ำให้สามารถรับเรือขนาด 30,000 ตันได้ตลอดปี และโกดังสินค้าจะรับสินค้าเพิ่มขึ้นจาก 7 แสนตันเป็น 1.5 ล้านตัน
นอกจากนี้ บริษัทมารูเบนิ แห่งญี่ปุ่นก็ได้สร้างท่าเรือพิเศษสำหรับขนถ่ายสารซัลเฟอร์เหลว เพื่อนำขึ้นบรรทุกโดยรถไฟสายหนานหนิง-คุนหมิง ไปแปรรูปที่เมืองคุนหมิงและส่งสินค้าที่แปรรูปแล้วมาลงเรือที่ท่าเรือเมือง FANGCHENG อีกครั้งหนึ่ง ในขณะเดียวกัน บริษัทจากฮ่องกงและจีนก็ได้ลงทุน 100 ล้านหยวน เพื่อสร้างท่าเทียบเรือของตนขึ้นเช่นกัน
4. ข่าวเศรษฐกิจทั่วไป
4.1 มณฑลกวางสีมีเป้าหมายจะขยายทางหลวงให้มีความยาวถึง 47,000 กิโลเมตรภายในสิ้นทศวรรษนี้ เมื่อปี2539 ทางการได้ใช้งบประมาณ 3.2 พันล้านหยวนในการก่อสร้างทางหลวง 1,500 กิโลเมตร สะพาน 9 แห่ง ซึ่งบางส่วนเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างกวางสี ยูนนาน และเวียดนาม
4.2 คณะกรรมาธิการการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศมณฑลกวางสี เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้มีการค้าต่างประเทศเป็นมูลค่า 460 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.7 โดยเป็นการส่งออก 370 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงขึ้นร้อยละ 2 และนำเข้า 90 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงขึ้นร้อยละ 18
4.3 จนถึงสิ้นปี 2539 กวางสีมีธุรกิจและอุตสาหกรรมของเอกชนเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 883,700 ราย ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงาน 1.2 ล้านคน สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.7 อนึ่ง ได้มีการจัดตั้งกลุ่มบรรษัทผลิตน้ำตาลที่ใหญ่ที่สุดขึ้นในจีนโดยใช้ชื่อว่า NANNING UNIFIED SUGAR-REFINING CO.LTD. ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของบริษัทโรงงานน้ำตาล 6 บริษัทในกวางสี
ที่มา : สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว
--ข่าวเศรษฐกิจ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 15 / 15 กันยายน 2540--