เมื่อเวลา 14.30 น. ณ. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลกเปิดเผยข้อมูลการประเมินธรรมาภิบาลของประเทศไทย และมีสื่อนำมาเผยแพร่ จนเป็นเหตุให้นายกฯออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ ว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่า เมื่อพิจารณาในภาพรวมแล้ว นายกฯไม่ควรปฎิเสธ เพราะว่าในระยะเวลาที่ผ่านมา เฉพาะช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมของประเทศทั้ง 6 ด้าน ต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังมีปัญหาทั้ง 6 ด้าน เช่น การบังคับใช้กฎหมาย ประสิทธิภาพของรัฐบาล ความมั่นคงทางการเมือง รวมทั้งการใช้กฎระเบียบต่างๆ และที่สำคัญคือการควบคุมการทุจริตคอรัปชั่น
นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ว่านายกฯจะพยายามอธิบายในเรื่องของเปอร์เซ็นอย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าเรื่องสำคัญคือนายกฯต้องยอมรับความจริงว่ารายงานของธนาคารโลก เป็นรายงานชี้ให้เห็นความจริงทั้ง 6 ด้านของธรรมาภิบาลของประเทศไทย พรรคประชาธิปัตย์อยากให้นายกฯยอมรับความจริงในเรื่องนี้ และหาทางแก้ไขมากกว่าการแก้ตัว การไปกล่าวยกอ้างการพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ ถือว่าเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นแทนที่นายกฯ จะชี้ให้เห็นว่าในฐานะผู้นำประเทศจะดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรมากกว่า
‘การที่นายกฯวิจารณ์ว่าการนำเสนอของสื่อว่าเป็นการไม่ให้เกียติประเทศไทย แต่คนที่ไม่ให้เกียติประเทศน่าจะเป็นนายกฯมากกว่า คือการแสดงอาการเกรี้ยวกราดและออกอาการแก้ตัว แทนที่จะแสดงความรับผิดชอบและหาแนวทางแก้ไข เพราะภายหลังที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนอกจากการเกรี้ยวกราดแล้วผมยังไม่เห็น ท่าทีการแสดงความรับผิดชอบในการที่จะแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวของท่านผู้นำประเทศเลย’นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 15 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-
นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ว่านายกฯจะพยายามอธิบายในเรื่องของเปอร์เซ็นอย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าเรื่องสำคัญคือนายกฯต้องยอมรับความจริงว่ารายงานของธนาคารโลก เป็นรายงานชี้ให้เห็นความจริงทั้ง 6 ด้านของธรรมาภิบาลของประเทศไทย พรรคประชาธิปัตย์อยากให้นายกฯยอมรับความจริงในเรื่องนี้ และหาทางแก้ไขมากกว่าการแก้ตัว การไปกล่าวยกอ้างการพาดหัวข่าวของหนังสือพิมพ์ ถือว่าเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นแทนที่นายกฯ จะชี้ให้เห็นว่าในฐานะผู้นำประเทศจะดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรมากกว่า
‘การที่นายกฯวิจารณ์ว่าการนำเสนอของสื่อว่าเป็นการไม่ให้เกียติประเทศไทย แต่คนที่ไม่ให้เกียติประเทศน่าจะเป็นนายกฯมากกว่า คือการแสดงอาการเกรี้ยวกราดและออกอาการแก้ตัว แทนที่จะแสดงความรับผิดชอบและหาแนวทางแก้ไข เพราะภายหลังที่มีการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนอกจากการเกรี้ยวกราดแล้วผมยังไม่เห็น ท่าทีการแสดงความรับผิดชอบในการที่จะแก้ปัญหาในเรื่องดังกล่าวของท่านผู้นำประเทศเลย’นายองอาจกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 15 พ.ค. 2548--จบ--
-ดท-