อุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ไตรมาส 1 ปี 2548 ราคาเอทิลีนและPEในตลาดเอเชียค่อนข้างผันผวนโดยระดับราคาเอทิลีนในช่วง
เดือนมกราคมปรับราคาลดลงตามราคา PE ที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ปี 2547 เนื่องจาก
ปริมาณการซื้อเม็ดพลาสติกจากจีนยังคงชะลอตัว ถึงแม้ว่าอัตราภาษีนำเข้าเม็ดพลาสติกของจีนในอัตราใหม่ลดลงก็ยังไม่
สามารถกระตุ้นการนำเข้ามากนัก แต่ในช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ ราคาของเอทิลีนและ PE กลับปรับตัวสูงขึ้นในช่วง
ก่อนวันหยุดตรุษจีนเนื่องจากในช่วงปลายเดือนมกราคมราคาแนฟธาในตลาดเอเชียได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่
เพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกทำให้การซื้อขายเม็ดพลาสติกในตลาดจีนคึกคักขึ้นมาเนื่องจากเกิดความไม่
แน่ใจว่าในช่วงหยุดตรุษจีนราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงมากน้อยเพียงใดส่งผลให้ราคาเม็ดพลาสติกปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งแต่หลัง
จากนั้นในช่วงเดือนมีนาคม พบว่าระดับราคาของเอทิลีนกลับปรับตัวลดลงจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากความรู้สึก
ตลาดเอทิลีนที่ตึงตัวเริ่มผ่อนคลายลงสาเหตุจากการที่การซื้อเอทิลีนเพื่อการเก็งกำไรเริ่มลดลง อีกทั้งในประเทศจีนได้
เริ่มเดินเครื่องผลิตเอทีลีน 900,000 ตันต่อปี แต่ยังไม่ได้เริ่มผลิตในหน่วยผลิตที่ต่อเนื่องทำให้มีเอทิลีนเข้ามาขายใน
ตลาดอย่างน้อย 1 — 2 เดือน ส่วนราคา PE มีระดับราคาทรงตัว สำหรับราคาโพรพิลีนและ PP ในตลาดเอเชียใน
ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาระดับราคาของโพรพิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับ PP ที่มีระดับราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจาก
แรงซื้อเม็ดพลาสติก PP จากจีนเริ่มกลับเข้ามาในตลาดและแนวโน้มราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกทั้งสต๊อกเม็ด
พลาสติกของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกยังอยู่ในระดับที่ต่ำจากการที่มีการชะลอการซื้อในช่วงไตรมาส 4 ปี 2547 ที่ผ่าน
มา ราคา PP จึงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังประกาศปรับลดอัตราศุลกากรของไทยสำหรับสินค้านำเข้าประเภทโพลิเมอร์และ
ผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยพลาสติกและยางสังเคราะห์จำนวน 86 ประเภทย่อย 117 รายการ แบ่งการปรับลดเป็น 3 กลุ่ม
ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ปรับลดอัตราอากรขาเข้าเหลือ 5% ทันที จำนวน 32 รายการ เช่น โพลิเมอร์และผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จ
รูปประเภทแผ่นฟิมล์ที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสายโทรศัพท์หรือสายไฟฟ้า ปิโตรเลียมเรซิน และอะมิโนเรซินอื่นๆ
เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 ปรับลดอัตราอากรขาเข้าเหลือ 1% ทันที จำนวน 2 รายการ ได้แก่ โพลีไวนิลแอลกอฮอล์
และโพลีเตตราเมทิลีนอีเทอร์ไกลคอล เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศ
กลุ่มที่ 3 ทยอยปรับลดอัตราอากรขาเข้าให้เข้าสู่อัตราตามโครงสร้างที่กระทรวงการคลังกำหนดในวันที่
1 มกราคม 2550 จำนวน 83 รายการ
อัตราเดิม อัตรา ณ อัตรา ณ อัตรา ณ
1 ม.ค. 2005 1 ม.ค. 2006 1 ม.ค. 2007
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลาย 20% 12.50 % 8.75 % 5.00 %
ผลิตภัณฑ์พลาสติก
- ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป 30 % 17.50 % 11.25 % 5.00 %
- ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 30 % 20.00 % 15.00 % 10.00 %
การผลิต
การผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 ผู้ผลิตบางรายลดปริมาณการผลิตลงในบางช่วง เนื่องจากราคา
ลดลง และบางรายมีการปิดซ่อมบำรุง ในขณะที่บางรายวางแผนการขยายกำลังการผลิต
สำหรับการผลิตในภูมิภาคเอเชีย โรงงานหลายแห่งมีการปิดซ่อมบำรุง ในขณะที่จีนเริ่มทดลองเดินเครื่อง
หน่วยผลิต PP ขนาด 250,000 ตัน / ปี โดยจะมีหน่วยผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ได้แก่ การผลิตโพรพิลีน
500,000 ตัน / ปี สารอะโรเมติกส์ 500,000 ตัน / ปี และ PE 600,000 ตัน / ปี
การตลาด
การนำเข้า
ไตรมาส 1 ปี 2548 การนำเข้าปิโตรเคมีขั้นต้นมีมูลค่า 860 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 67.41 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่แล้วและลดลงร้อยละ 56.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมีมูลค่านำ
เข้า 12,900 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 23.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.67 เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีก่อน ส่วนเม็ดพลาสติกมีมูลค่านำเข้า 14,134 ล้านบาทลดลงร้อยละ 38.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่
แล้วแต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.78 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่านำเข้า (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q1/2546 Q4/2547 Q1/2548 เทียบกับไตรมาสที่แล้ว เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 1,963 2,639.21 860 -67.41 -56.18
ขั้นกลาง 8,917 16,848.31 12,900 -23.43 44.67
ขั้นปลาย 12,313 23,159.95 14,134 -38.96 14.78
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
การส่งออก
ไตรมาส 1 ปี 2548 การส่งออกปิโตรขั้นต้นมีมูลค่าส่งออก 9,943 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.80
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 151.27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมี
มูลค่าส่งออก 2,508 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 48.59 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และลดลงร้อยละ 36.95 เมื่อ
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเม็ดพลาสติกมีมูลค่าส่งออก 26,215 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 29.67 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่แล้วและเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่าส่งออก (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q1/2546 Q4/2547 Q4/2547 เทียบกับไตรมาสที่แล้ว เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 3,957 10,669.20 9,943 -6.80 151.27
ขั้นกลาง 3,978 4,879.92 2,508 -48.59 -36.95
ขั้นปลาย 24,701 37,278.13 26,215 -29.67 6.12
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
ราคา
ไตรมาส 1 ปี 2548 ราคาเม็ดพลาสติก PE และ PP ในช่วงไตรมาส 1 ระดับราคาปรับเพิ่มขึ้น
โดยราคาจำหน่ายเม็ดพลาสติกกลุ่มโอเลฟินส์ (ราคาเฉลี่ย SE Asia CIF) ในเดือนมีนาคม 2548 ของ LDPE,
HDPE และ PP (Blown Film) อยู่ที่ระดับ 47.93 , 42.28 และ 42.86 บาทต่อกิโลกรัมตามลำดับ โดย
LDPE มีระดับราคาเฉลี่ยลดลงจากราคาเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2547 ที่ระดับ 50.12 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับ
HDPE และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากระดับราคาเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2547 ที่ระดับราคา 40.82 และ
40.02 บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
ไตรมาส 1 ปี 2548 ราคาเอทิลีนและPEในตลาดเอเชียค่อนข้างผันผวนโดยระดับราคาเอทิลีนในช่วง
เดือนมกราคมปรับราคาลดลงตามราคา PE ที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 4 ปี 2547 เนื่องจาก
ปริมาณการซื้อเม็ดพลาสติกจากจีนยังคงชะลอตัว ถึงแม้ว่าอัตราภาษีนำเข้าเม็ดพลาสติกของจีนในอัตราใหม่ลดลงก็ยังไม่
สามารถกระตุ้นการนำเข้ามากนัก แต่ในช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ ราคาของเอทิลีนและ PE กลับปรับตัวสูงขึ้นในช่วง
ก่อนวันหยุดตรุษจีนเนื่องจากในช่วงปลายเดือนมกราคมราคาแนฟธาในตลาดเอเชียได้ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่
เพิ่มขึ้นและยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นอีกทำให้การซื้อขายเม็ดพลาสติกในตลาดจีนคึกคักขึ้นมาเนื่องจากเกิดความไม่
แน่ใจว่าในช่วงหยุดตรุษจีนราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงมากน้อยเพียงใดส่งผลให้ราคาเม็ดพลาสติกปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งแต่หลัง
จากนั้นในช่วงเดือนมีนาคม พบว่าระดับราคาของเอทิลีนกลับปรับตัวลดลงจากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากความรู้สึก
ตลาดเอทิลีนที่ตึงตัวเริ่มผ่อนคลายลงสาเหตุจากการที่การซื้อเอทิลีนเพื่อการเก็งกำไรเริ่มลดลง อีกทั้งในประเทศจีนได้
เริ่มเดินเครื่องผลิตเอทีลีน 900,000 ตันต่อปี แต่ยังไม่ได้เริ่มผลิตในหน่วยผลิตที่ต่อเนื่องทำให้มีเอทิลีนเข้ามาขายใน
ตลาดอย่างน้อย 1 — 2 เดือน ส่วนราคา PE มีระดับราคาทรงตัว สำหรับราคาโพรพิลีนและ PP ในตลาดเอเชียใน
ช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมาระดับราคาของโพรพิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับ PP ที่มีระดับราคาเพิ่มขึ้น เนื่องจาก
แรงซื้อเม็ดพลาสติก PP จากจีนเริ่มกลับเข้ามาในตลาดและแนวโน้มราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงขาขึ้นอีกทั้งสต๊อกเม็ด
พลาสติกของผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกยังอยู่ในระดับที่ต่ำจากการที่มีการชะลอการซื้อในช่วงไตรมาส 4 ปี 2547 ที่ผ่าน
มา ราคา PP จึงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังประกาศปรับลดอัตราศุลกากรของไทยสำหรับสินค้านำเข้าประเภทโพลิเมอร์และ
ผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยพลาสติกและยางสังเคราะห์จำนวน 86 ประเภทย่อย 117 รายการ แบ่งการปรับลดเป็น 3 กลุ่ม
ดังนี้ กลุ่มที่ 1 ปรับลดอัตราอากรขาเข้าเหลือ 5% ทันที จำนวน 32 รายการ เช่น โพลิเมอร์และผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จ
รูปประเภทแผ่นฟิมล์ที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสายโทรศัพท์หรือสายไฟฟ้า ปิโตรเลียมเรซิน และอะมิโนเรซินอื่นๆ
เป็นต้น
กลุ่มที่ 2 ปรับลดอัตราอากรขาเข้าเหลือ 1% ทันที จำนวน 2 รายการ ได้แก่ โพลีไวนิลแอลกอฮอล์
และโพลีเตตราเมทิลีนอีเทอร์ไกลคอล เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังไม่มีการผลิตในประเทศ
กลุ่มที่ 3 ทยอยปรับลดอัตราอากรขาเข้าให้เข้าสู่อัตราตามโครงสร้างที่กระทรวงการคลังกำหนดในวันที่
1 มกราคม 2550 จำนวน 83 รายการ
อัตราเดิม อัตรา ณ อัตรา ณ อัตรา ณ
1 ม.ค. 2005 1 ม.ค. 2006 1 ม.ค. 2007
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลาย 20% 12.50 % 8.75 % 5.00 %
ผลิตภัณฑ์พลาสติก
- ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป 30 % 17.50 % 11.25 % 5.00 %
- ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป 30 % 20.00 % 15.00 % 10.00 %
การผลิต
การผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปี 2548 ผู้ผลิตบางรายลดปริมาณการผลิตลงในบางช่วง เนื่องจากราคา
ลดลง และบางรายมีการปิดซ่อมบำรุง ในขณะที่บางรายวางแผนการขยายกำลังการผลิต
สำหรับการผลิตในภูมิภาคเอเชีย โรงงานหลายแห่งมีการปิดซ่อมบำรุง ในขณะที่จีนเริ่มทดลองเดินเครื่อง
หน่วยผลิต PP ขนาด 250,000 ตัน / ปี โดยจะมีหน่วยผลิตผลิตภัณฑ์อื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ได้แก่ การผลิตโพรพิลีน
500,000 ตัน / ปี สารอะโรเมติกส์ 500,000 ตัน / ปี และ PE 600,000 ตัน / ปี
การตลาด
การนำเข้า
ไตรมาส 1 ปี 2548 การนำเข้าปิโตรเคมีขั้นต้นมีมูลค่า 860 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 67.41 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่แล้วและลดลงร้อยละ 56.18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมีมูลค่านำ
เข้า 12,900 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 23.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.67 เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีก่อน ส่วนเม็ดพลาสติกมีมูลค่านำเข้า 14,134 ล้านบาทลดลงร้อยละ 38.96 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่
แล้วแต่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.78 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่านำเข้า (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q1/2546 Q4/2547 Q1/2548 เทียบกับไตรมาสที่แล้ว เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 1,963 2,639.21 860 -67.41 -56.18
ขั้นกลาง 8,917 16,848.31 12,900 -23.43 44.67
ขั้นปลาย 12,313 23,159.95 14,134 -38.96 14.78
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
การส่งออก
ไตรมาส 1 ปี 2548 การส่งออกปิโตรขั้นต้นมีมูลค่าส่งออก 9,943 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 6.80
เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 151.27 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปิโตรเคมีขั้นกลางมี
มูลค่าส่งออก 2,508 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 48.59 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว และลดลงร้อยละ 36.95 เมื่อ
เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเม็ดพลาสติกมีมูลค่าส่งออก 26,215 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 29.67 เมื่อ
เทียบกับไตรมาสที่แล้วและเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปิโตรเคมี มูลค่าส่งออก (ล้านบาท) เปลี่ยนแปลง (ร้อยละ)
Q1/2546 Q4/2547 Q4/2547 เทียบกับไตรมาสที่แล้ว เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ขั้นต้น 3,957 10,669.20 9,943 -6.80 151.27
ขั้นกลาง 3,978 4,879.92 2,508 -48.59 -36.95
ขั้นปลาย 24,701 37,278.13 26,215 -29.67 6.12
ที่มา : ข้อมูลจากกรมศุลกากร
ราคา
ไตรมาส 1 ปี 2548 ราคาเม็ดพลาสติก PE และ PP ในช่วงไตรมาส 1 ระดับราคาปรับเพิ่มขึ้น
โดยราคาจำหน่ายเม็ดพลาสติกกลุ่มโอเลฟินส์ (ราคาเฉลี่ย SE Asia CIF) ในเดือนมีนาคม 2548 ของ LDPE,
HDPE และ PP (Blown Film) อยู่ที่ระดับ 47.93 , 42.28 และ 42.86 บาทต่อกิโลกรัมตามลำดับ โดย
LDPE มีระดับราคาเฉลี่ยลดลงจากราคาเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2547 ที่ระดับ 50.12 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับ
HDPE และ PP มีระดับราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากระดับราคาเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2547 ที่ระดับราคา 40.82 และ
40.02 บาทต่อกิโลกรัม ตามลำดับ
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-