นางพรรณี สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ของภาครัฐประจำเดือนมีนาคม 2548 และในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 (ตุลาคม 2547 - มีนาคม 2548) พร้อมทั้งสถานะหนี้สาธารณะล่าสุด ณ สิ้นเดือนมกราคม 2548 ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
ในเดือนมีนาคม 2548 :-
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 จำนวน 34,900ล้านบาท ซึ่งได้กู้เงินระยะสั้นมาชำระคืนในวันครบกำหนดไถ่ถอน พร้อมกับทยอยออกพันธบัตรมาชำระคืน เงินกู้ระยะสั้น โดยได้รับเงินจากการออกพันธบัตรงวดสุดท้ายในเดือนมีนาคม 3,400 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตร FIDF1 ที่ครบกำหนดในเดือนนี้ จำนวน 30,000 ล้านบาท โดยกู้เงินระยะสั้นมาชำระคืนในวันครบกำหนดไถ่ถอน พร้อมกับทยอยออกพันธบัตรมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยในเดือนนี้ได้รับเงินจากการออกพันธบัตรในวงเงิน 7,500 ล้านบาท และใช้เงินส่วนเกินจากการประมูลพันธบัตร (Premium) 2,500 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น 10,000 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 :-
ด้านต่างประเทศ
ในด้านต่างประเทศได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณเป็นเงินรวม 34,654 ล้านบาท โดยเป็นของรัฐบาล 22,022 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 12,632 ล้านบาท ทำให้ลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 9,326 ล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยได้ 3,340 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
สำหรับด้านในประเทศได้มีการปรับโครงสร้างหนี้รวม 105,126 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล 96,464 ล้านบาท ประกอบด้วยการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตร FIDF1 96,177 ล้านบาท การไถ่ถอนพันธบัตร Tier 1 ก่อนครบกำหนด 287 ล้านบาท ซึ่งลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 52 ล้านบาท และการ Roll Over หนี้ของรัฐวิสาหกิจรวม 8,662 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
ในเดือนมีนาคม 2548 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศรวม 9,950 ล้านบาท เป็นการกู้เพื่อลงทุน 5,899 ล้านบาท เป็นเงินบาทสมทบ 130 ล้านบาท ทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 30 ล้านบาท และเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 3,891 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศไปแล้ว 91,692 ล้านบาท เป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 10,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 81,692 ล้านบาท และได้กู้เงินตามแผนก่อหนี้ต่างประเทศ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 1,177 ล้านบาท ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า แห่งประเทศไทย
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนมีนาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 16,191 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 1,500 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 14,691 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จาก งบประมาณรวม 70,169 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2548
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มกราคม 2548 มีจำนวน 3,097,275 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.02 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,793,024 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 932,246 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 372,005 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 23,527 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 15,557 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 200 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟูฯ ลดลง 7,770 ล้านบาท
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 631,092 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.38 และหนี้ในประเทศ 2,466,183 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.62 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,496,886 ล้านบาท หรือร้อยละ 80.62 และหนี้ระยะสั้น 600,389 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.38 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 25/2548 12 เมษายน 2548--
1. การปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐ
ในเดือนมีนาคม 2548 :-
กระทรวงการคลังได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรเพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF1) ที่ครบกำหนดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 จำนวน 34,900ล้านบาท ซึ่งได้กู้เงินระยะสั้นมาชำระคืนในวันครบกำหนดไถ่ถอน พร้อมกับทยอยออกพันธบัตรมาชำระคืน เงินกู้ระยะสั้น โดยได้รับเงินจากการออกพันธบัตรงวดสุดท้ายในเดือนมีนาคม 3,400 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตร FIDF1 ที่ครบกำหนดในเดือนนี้ จำนวน 30,000 ล้านบาท โดยกู้เงินระยะสั้นมาชำระคืนในวันครบกำหนดไถ่ถอน พร้อมกับทยอยออกพันธบัตรมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น โดยในเดือนนี้ได้รับเงินจากการออกพันธบัตรในวงเงิน 7,500 ล้านบาท และใช้เงินส่วนเกินจากการประมูลพันธบัตร (Premium) 2,500 ล้านบาท เพื่อชำระคืนเงินกู้ระยะสั้น 10,000 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 :-
ด้านต่างประเทศ
ในด้านต่างประเทศได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณเป็นเงินรวม 34,654 ล้านบาท โดยเป็นของรัฐบาล 22,022 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 12,632 ล้านบาท ทำให้ลดยอดหนี้คงค้างได้รวม 9,326 ล้านบาท ลดภาระดอกเบี้ยได้ 3,340 ล้านบาท
ด้านในประเทศ
สำหรับด้านในประเทศได้มีการปรับโครงสร้างหนี้รวม 105,126 ล้านบาท โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล 96,464 ล้านบาท ประกอบด้วยการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตร FIDF1 96,177 ล้านบาท การไถ่ถอนพันธบัตร Tier 1 ก่อนครบกำหนด 287 ล้านบาท ซึ่งลดภาระดอกเบี้ยในอนาคตได้ 52 ล้านบาท และการ Roll Over หนี้ของรัฐวิสาหกิจรวม 8,662 ล้านบาท
2. การกู้เงินของภาครัฐ
ในเดือนมีนาคม 2548 รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินในประเทศรวม 9,950 ล้านบาท เป็นการกู้เพื่อลงทุน 5,899 ล้านบาท เป็นเงินบาทสมทบ 130 ล้านบาท ทดแทนเงินกู้ต่างประเทศ 30 ล้านบาท และเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน 3,891 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศไปแล้ว 91,692 ล้านบาท เป็นการกู้ของกระทรวงการคลัง 10,000 ล้านบาท และรัฐวิสาหกิจ 81,692 ล้านบาท และได้กู้เงินตามแผนก่อหนี้ต่างประเทศ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 1,177 ล้านบาท ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า แห่งประเทศไทย
3. การชำระหนี้ของรัฐบาล
ในเดือนมีนาคม 2548 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จากงบประมาณ 16,191 ล้านบาท เป็นการชำระคืนเงินต้น 1,500 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 14,691 ล้านบาท
ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2548 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้จาก งบประมาณรวม 70,169 ล้านบาท
สถานะหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2548
ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 มกราคม 2548 มีจำนวน 3,097,275 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.02 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 1,793,024 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 932,246 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 372,005 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหนี้สาธารณะลดลง 23,527 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงลดลง 15,557 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินลดลง 200 ล้านบาท และหนี้สินของกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟูฯ ลดลง 7,770 ล้านบาท
หนี้สาธารณะจำแนกได้เป็นหนี้ต่างประเทศ 631,092 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.38 และหนี้ในประเทศ 2,466,183 ล้านบาท หรือร้อยละ 79.62 และเป็นหนี้ระยะยาว 2,496,886 ล้านบาท หรือร้อยละ 80.62 และหนี้ระยะสั้น 600,389 ล้านบาท หรือร้อยละ 19.38 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง
--ข่าวกระทรวงการคลัง กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สนง.ปลัดกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 25/2548 12 เมษายน 2548--