กรุงเทพ--4 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (4 ตุลาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ในติมอร์ตะวันออกสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. วันนี้ (4 ตุลาคม) นายมาซาฮิโกะ โคมูระ รัฐมนตรีต่างประเทศญีปุ่นได้ประกาศการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะบริจาคเงินจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับกองทุน (Trust Fund) ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อรับเงินบริจาคจากประเทศต่าง ๆ ให้แก่รัฐสมาชิกที่ส่งกองกำลังเข้าร่วมการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกการตัดสินใจให้บริจาคเงินในครั้งนี้เป็นความตั้งใจของญี่ปุ่นที่จะให้เงินบริจาคนี้แก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ส่งกองกำลังเข้าร่วมให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่น
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือเพื่อรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นอกจากการบริจาคเงินจำนวนดังกล่าวรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชาวติมอร์ตะวันออกตลอดจนการฟื้นฟูและพัฒนาติมอร์ตะวันออกทั้งในระยะกลางและระยะยาวต่อไป
2. ในการนี้รัฐบาลไทยได้แสดงความชื่นชมต่อรัฐบาลญี่ปุ่นที่ได้บริจาคเงินดังกล่าวเพื่อสมทบกองทุน (Trust Fund) เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายของรัฐสมาชิกที่กองกำลังเข้าร่วมและให้กองกำลังที่เข้าร่วมของรัฐสมาชิกสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่นซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทความรับผิดชอบอย่างแข็งขันของญี่ปุ่นต่อการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและสอดคล้องกับคำมั่นที่ญี่ปุ่นได้ให้ไว้ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2542 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ว่า "เพื่อให้ประเทศในเอเชียสามารถเข้าร่วมในการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกรัฐบาลญี่ปุ่นก็พร้อมจะให้เงินช่วยเหลือในเรื่องนี้"--จบ--
วันนี้ (4 ตุลาคม) นายดอน ปรมัตถ์วินัย อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ในติมอร์ตะวันออกสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. วันนี้ (4 ตุลาคม) นายมาซาฮิโกะ โคมูระ รัฐมนตรีต่างประเทศญีปุ่นได้ประกาศการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นที่จะบริจาคเงินจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับกองทุน (Trust Fund) ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดยเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อรับเงินบริจาคจากประเทศต่าง ๆ ให้แก่รัฐสมาชิกที่ส่งกองกำลังเข้าร่วมการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกการตัดสินใจให้บริจาคเงินในครั้งนี้เป็นความตั้งใจของญี่ปุ่นที่จะให้เงินบริจาคนี้แก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ส่งกองกำลังเข้าร่วมให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่น
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือเพื่อรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้นอกจากการบริจาคเงินจำนวนดังกล่าวรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นชาวติมอร์ตะวันออกตลอดจนการฟื้นฟูและพัฒนาติมอร์ตะวันออกทั้งในระยะกลางและระยะยาวต่อไป
2. ในการนี้รัฐบาลไทยได้แสดงความชื่นชมต่อรัฐบาลญี่ปุ่นที่ได้บริจาคเงินดังกล่าวเพื่อสมทบกองทุน (Trust Fund) เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายของรัฐสมาชิกที่กองกำลังเข้าร่วมและให้กองกำลังที่เข้าร่วมของรัฐสมาชิกสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างราบรื่นซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทความรับผิดชอบอย่างแข็งขันของญี่ปุ่นต่อการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและสอดคล้องกับคำมั่นที่ญี่ปุ่นได้ให้ไว้ในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2542 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ว่า "เพื่อให้ประเทศในเอเชียสามารถเข้าร่วมในการรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออกรัฐบาลญี่ปุ่นก็พร้อมจะให้เงินช่วยเหลือในเรื่องนี้"--จบ--