อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในแง่ของการสร้างมูลค่าเพิ่มและการจ้างงาน จากการที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางธรรมชาติมากที่สุดในโลก ส่งผลให้เกิดความได้เปรียบในด้านวัตถุดิบและสร้างมูลค่าในการส่งออกให้กับประเทศเป็นอย่างมาก โดยในปี 2547 ไทยส่งออกยางและผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้น 4,645.9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งออกเป็นการส่งออกยางพาราขั้นต้น 2,695.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และผลิตภัณฑ์ยาง 1,950.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
1. การผลิต
การผลิตยางพาราของประเทศมีจำนวนประมาณ 2.8 ล้านตัน/ปี ซึ่งจำนวนร้อยละ 90 จะถูกนำไปแปรรูปเป็นยางขั้นต้น ได้แก่ ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครพ และน้ำยางข้น เป็นต้น ส่วนที่เหลือจะนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาง ได้แก่ ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ สายยางยืด เป็นต้น
การผลิตยางขั้นต้น ในปี 2547 มีการผลิตยางแผ่นจำนวน 317,190 ตัน และยางแท่งจำนวน 735,808 ตัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนร้อยละ 16.3 และ 8.7 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ยางในปี 2547 จำแนกเป็นการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง จำนวน 13,159,544 เส้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 30.2 ยางนอกรถกะบะจำนวน 4,950,592 เส้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.9 ถุงมือยาง จำนวน 8,956,396,320 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.7 และยางรัดของ จำนวน 19,953 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.9
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น แบ่งเป็นการส่งออก ยางแผ่น 1,616.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 34.8 ยางแท่งจำนวน 969.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.2น้ำยางข้นจำนวน 525.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.6 ตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา
2) ผลิตภัณฑ์ยาง แบ่งเป็นการส่งออกยางยานพาหนะ 673.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 41.8 ถุงมือยาง 486.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.4 สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 24.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 63.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา , ญี่ปุ่น , ฮ่องกง เฉพาะสายพานลำเลียง และส่งกำลัง ตลาดที่สำคัญได้แก่ สิงคโปร์
2.2 ตลาดนำเข้า การนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาง ประเภท ท่อหรือข้อต่อ สายพานลำเลียง และส่งกำลัง และผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ มีการนำเข้าจำนวน 403.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.2
3. สรุป
ในปี 2547 การผลิตและการส่งออกยางขั้นต้น มีปริมาณการผลิตและมูลค่าส่งออกลดลงจากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ที่ส่งออกให้การผลิตลดลง อีกทั้งราคายางในประเทศยังขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีแรก นอกจากนั้น การผลิตและส่งออกยางยานพาหนะ มีปริมาณการผลิตและส่งออกเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และยอดการจำหน่ายรถกะบะในประเทศที่มีการขยายตัวสูง อันเนื่องมาจากประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ดีเซลแทนเบนซิน
4. แนวโน้มปี 2548
ในปี 2548 คาดว่าผลผลิตยางทั้งประเทศจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่กรีดยางได้เพิ่มขึ้นในทุกภาค และราคายางที่จูงใจให้เกษตรกรกรีดยางเพิ่มขึ้น ส่วนการส่งออกยางขั้นต้นคาดว่าจะมีแนวโน้มทรงตัว อันเนื่องมาจากการที่ประเทศจีนมีนโยบายในการชะลออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อมิให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราที่สูงอย่างรวดเร็วเกินไป สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางคาดว่า ในปี 2548 จะมีการส่งออกในผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ยางยานพาหนะที่เติบโตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมยานยนต์
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-
1. การผลิต
การผลิตยางพาราของประเทศมีจำนวนประมาณ 2.8 ล้านตัน/ปี ซึ่งจำนวนร้อยละ 90 จะถูกนำไปแปรรูปเป็นยางขั้นต้น ได้แก่ ยางแผ่น ยางแท่ง ยางเครพ และน้ำยางข้น เป็นต้น ส่วนที่เหลือจะนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาง ได้แก่ ยางยานพาหนะ ถุงมือยาง ยางรัดของ สายยางยืด เป็นต้น
การผลิตยางขั้นต้น ในปี 2547 มีการผลิตยางแผ่นจำนวน 317,190 ตัน และยางแท่งจำนวน 735,808 ตัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนร้อยละ 16.3 และ 8.7 ตามลำดับ
สำหรับผลิตภัณฑ์ยางในปี 2547 จำแนกเป็นการผลิตยางนอกรถยนต์นั่ง จำนวน 13,159,544 เส้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 30.2 ยางนอกรถกะบะจำนวน 4,950,592 เส้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.9 ถุงมือยาง จำนวน 8,956,396,320 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 0.7 และยางรัดของ จำนวน 19,953 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 1.9
2. การตลาด
2.1 ตลาดส่งออก ประเภทสินค้าที่ผลิตและส่งออก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1) ยางแปรรูปขั้นต้น แบ่งเป็นการส่งออก ยางแผ่น 1,616.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 34.8 ยางแท่งจำนวน 969.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.2น้ำยางข้นจำนวน 525.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 3.6 ตลาดส่งออกสำคัญได้แก่ จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกา
2) ผลิตภัณฑ์ยาง แบ่งเป็นการส่งออกยางยานพาหนะ 673.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 41.8 ถุงมือยาง 486.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 2.4 สายพานลำเลียงและส่งกำลัง 24.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 63.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดสำคัญได้แก่ สหรัฐอเมริกา , ญี่ปุ่น , ฮ่องกง เฉพาะสายพานลำเลียง และส่งกำลัง ตลาดที่สำคัญได้แก่ สิงคโปร์
2.2 ตลาดนำเข้า การนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาง ประเภท ท่อหรือข้อต่อ สายพานลำเลียง และส่งกำลัง และผลิตภัณฑ์ยางวัลแคไนซ์ มีการนำเข้าจำนวน 403.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7.2
3. สรุป
ในปี 2547 การผลิตและการส่งออกยางขั้นต้น มีปริมาณการผลิตและมูลค่าส่งออกลดลงจากปีก่อน เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ที่ส่งออกให้การผลิตลดลง อีกทั้งราคายางในประเทศยังขยับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีแรก นอกจากนั้น การผลิตและส่งออกยางยานพาหนะ มีปริมาณการผลิตและส่งออกเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และยอดการจำหน่ายรถกะบะในประเทศที่มีการขยายตัวสูง อันเนื่องมาจากประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ดีเซลแทนเบนซิน
4. แนวโน้มปี 2548
ในปี 2548 คาดว่าผลผลิตยางทั้งประเทศจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่กรีดยางได้เพิ่มขึ้นในทุกภาค และราคายางที่จูงใจให้เกษตรกรกรีดยางเพิ่มขึ้น ส่วนการส่งออกยางขั้นต้นคาดว่าจะมีแนวโน้มทรงตัว อันเนื่องมาจากการที่ประเทศจีนมีนโยบายในการชะลออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อมิให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตในอัตราที่สูงอย่างรวดเร็วเกินไป สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางคาดว่า ในปี 2548 จะมีการส่งออกในผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ยางยานพาหนะที่เติบโตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมยานยนต์
--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--
-พห-