I. ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
- เนื้อที่ (ตารางไมล์) 91,420
- จำนวนประชากร (ล้านคน) 4.5 (1995)
- เมืองหลวง VIENTIANE
- เมืองธุรกิจ VIENTIANE, LUANG PRABANG, SAVAN NAKHET,
PAKSE
- โครงสร้างทางเศรษฐกิจ (%) - อุตสาหกรรม 17.8 - เกษตรกรรมและป่าไม้ 57.3
- ก่อสร้าง 3.5 - พาณิชย์ 7.0
- อื่น ๆ 9.4
- อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ N.A.
- อัตราเงินเฟ้อ 7.0 % (1993)
- รายได้เฉลี่ยต่อคน (เหรียญสหรัฐ) 180.0 (1991)
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา US$1 = 720 NEW KIPS (1994)
- ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ป่าไม้ แร่ธาตุ ไฟฟ้า
- สินค้าส่งออกและนำเข้าที่สำคัญ - ส่งออก ไฟฟ้า ไม้สัก เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ
กาแฟ ไม้เบญจพรรณ ดีบุก
- นำเข้า ปิโตรเลียม เครื่องจักรและวัตถุดิบ ซีเมนต์
เหล็ก ผลิตภัณฑ์อาหาร ผ้าผืน เครื่องจักร สารเคมี
สินค้าอุปโภคบริโภค
- ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ - ส่งออก ได้แก่ ตุรกี ไทย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี
เวียดนาม เนเธอร์แลนด์
- นำเข้า ได้แก่ ไทย ตุรกี จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย
เวียดนาม ฝรั่งเศส สิงคโปร์
- ภาษา ลาว ฝรั่งเศส อังกฤษ ไทย
- ศาสนา พุทธ
- เวลาแตกต่างจากไทย ตรงกับประเทศไทย
- ผู้นำประเทศ ประธานาธิบดีนายหนูฮัก พูมสะหวัน
II. ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย
ภาครัฐบาล
1. ความตกลงว่าด้วยการส่งสินค้าผ่านแดน ลงนามเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2521
2. ความตกลงเพื่อส่งเสริมการลงทุน ลงนามเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2533
3. ความตกลงทางการค้า (ฉบับแก้ไขใหม่) ลงนามเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2534
4. การประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2538
ณ กรุงเวียงจันทน์ (ครั้งล่าสุด)
ภาคเอกชน
1. ความตกลงทางการค้าระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรม
แห่งชาติลาว ลงนาม เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2535
III. ภาวะการค้ากับประเทศไทย
1. การส่งออก ในปี 2537 และปี 2538 ไทยส่งออกไปลาวเป็นมูลค่า 7,326.2 ล้านบาท และ
8,818.3 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.6 และ 0.6 ของมูลค่าการส่งออก
ทั้งหมดของประเทศ
2. สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ผ้าผืน เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เหล็ก
และเหล็กกล้า รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เซรามิก เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์
เภสัชกรรม ผลิตภัณฑ์พลาสติก
3. การนำเข้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยนำเข้าจากลาวเป็นมูลค่า 1,738.0 ล้านบาท
และ 1,728.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.1 และ 0.1ของมูลค่าการ
นำเข้าทั้งหมดของประเทศ
4. สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ซุง ไม้แปรรูป และไม้อื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ไม้ สินแร่ โลหะอื่น ๆ และ
เศษโลหะ หนังดิบและหนังฟอก ใบยาสูบ แร่ดิบ ถ่านหิน ของเล่นและเครื่องเล่นเกม ผ้าผืน เสื้อผ้า
รองเท้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ
5. ดุลการค้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 5,588.2 ล้านบาท
และ 7,089.3 ล้านบาท ตามลำดับ
IV. ปัญหาทางการค้าที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทย
1. มาตรการภาษี
1.1 กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในอัตราสูง ทำให้ต้นทุนสูงและ
การขยายตลาดในสินค้าดังกล่าวมีอัตราต่ำ
1.2 กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสูงสำหรับสินค้าที่มีเป้าหมายลดปริมาณการนำเข้า
1.3 กำหนดอัตราภาษีพิเศษที่ผู้ประกอบการจะต้องชำระ เช่น ผู้นำเข้าทุกรายจะต้องชำระภาษีค่า
บริการในการนำเข้าในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าการนำเข้า FOB. เป็นต้น หรือในบางกรณีการดำเนิน
ธุรกิจบางประเภทต้องมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าบูรณะแขวง ค่าบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบ
การในการนำเข้าและส่งออกมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
2. มาตรการที่มิใช่ภาษี
2.1 ห้ามนำเข้าสินค้าบางชนิด ได้แก่ ไก่ ไข่ หมู เนื้อต่าง ๆ ข้าว น้ำตาล ผงชูรส เป็นต้น สำหรับ
ผู้ค้ารายย่อยตามแนวชายแดน จะอนุญาตให้นำเข้าได้เฉพาะผู้มีใบอนุญาตให้ทำการค้าเท่านั้น
2.2 ผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออก-นำเข้าสินค้าตามแนวชายแดน จะต้องมีการจดทะเบียนตามหมวดหมู่
และมีการกำหนดเงินทุนในแต่ละหมวดหมู่ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถดำเนินการได้ หากผู้ส่งออก
ต้องการติดต่อต้องผ่านผู้มีใบอนุญาตประกอบการ
2.3 การกำหนดโควต้าไม่ชัดเจน เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่จะคำนวณความต้องการหรือปริมาณนำเข้าที่แน่นอน
ชัดเจน จึงใช้วิธีการ First Come First Serve ซึ่งเมื่อพิจารณาเห็นว่าน่าจะเพียงพอแก่ความต้องการ
หรือมากเกินไปก็จะยุติการให้นำเข้า ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดตัวสินค้าที่มีข้อห้ามในการนำเข้าอยู่แล้ว เช่น
รถยนต์ น้ำมัน เป็นต้น
2.4 ในกรณีที่มิได้กำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า การนำเข้าจะต้องติดต่อและประสานงาน
ในระดับสูงของกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้ล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
2.5 ความล่าช้าของการติดต่องานราชการ
2.6 การขาดแคลนด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ทำให้ระบบการขนส่ง
ไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้การกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง
2.7. คุณภาพของแรงงานไม่ดีพอ และขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ
2.8. การขาดแคลนกำลังซื้อภายในประเทศ เนื่องจากลาวมีประชากรเพียง 4 - 5 ล้านคน จึงเน้นการ
ผลิตเพื่อส่งออกเป็นสำคัญ
2.9 ค่าครองชีพภายในประเทศสูงเกินความเป็นจริง
2.10 การบริหารด้านสาธารณูปโภค ระบบการเงิน และภาษี ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการขยายตัวของธุรกิจ
2.11 ลาวและไทยได้เปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวข้ามแม่น้ำโขงขึ้นในปี 2537 แต่ประสบกับปัญหาในการ
ขนส่งไม่สดวก เนื่องจากฝ่ายลาวยังคงควบคุมในเรื่องค่าธรรมเนียมผ่านแดน ช่วงเวลาการแล่นข้ามที่ฝ่ายลาว
ประกาศปิดสะพานไม่ให้รถข้ามไปมาก่อนฟ้ามืด
2.12 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2538 ลาวประกาศห้ามผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ทุกประเภทจากต่าง
ประเทศชั่วคราว โดยไม่มีกำหนดจนกว่ารัฐจะดำเนินการแก้ไขปัญหาการนำเข้าได้ สาเหตุเนื่องมาจาก
บริษัทเอกชนจำนวนมากที่ไม่มีใบอนุญาตดำเนินธุรกิจนำเข้ายานพาหนะเพื่อจำหน่ายในประเทศ ใช้กลวิธีลักลอบ
นำเข้าอย่างไม่ถูกต้อง โดยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่รัดกุมผ่านตามแขวงต่าง ๆ อาทิ ทางตอนใต้ของ
ประเทศที่แขวงบลิคำไซ สะหวันเขต และทางภาคเหนือที่ ปากห้วย แขวงบ่อแก้ว
V. สินค้าที่ไทยมีลู่ทางขยายการส่งออก-นำเข้า
1. การส่งออก รถแวนหรือรถปิคอัพ พอร์ตแลนด์ซีเมนต์ น้ำมันโซล่าหรือดีเซล รองเท้าแตะ ยารักษาโรค
น้ำมันเบนซิน รถจักรยานยนต์และตู้เย็น คอมเพรสเซอร์
2. การนำเข้า ไม้ ผลิตภัณฑ์จากไม้และไม้ก๊อก กระแสไฟฟ้า โคกระบือ สินแร่ โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ
--สรุปความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย--
- เนื้อที่ (ตารางไมล์) 91,420
- จำนวนประชากร (ล้านคน) 4.5 (1995)
- เมืองหลวง VIENTIANE
- เมืองธุรกิจ VIENTIANE, LUANG PRABANG, SAVAN NAKHET,
PAKSE
- โครงสร้างทางเศรษฐกิจ (%) - อุตสาหกรรม 17.8 - เกษตรกรรมและป่าไม้ 57.3
- ก่อสร้าง 3.5 - พาณิชย์ 7.0
- อื่น ๆ 9.4
- อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ N.A.
- อัตราเงินเฟ้อ 7.0 % (1993)
- รายได้เฉลี่ยต่อคน (เหรียญสหรัฐ) 180.0 (1991)
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา US$1 = 720 NEW KIPS (1994)
- ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ป่าไม้ แร่ธาตุ ไฟฟ้า
- สินค้าส่งออกและนำเข้าที่สำคัญ - ส่งออก ไฟฟ้า ไม้สัก เสื้อผ้าสำเร็จรูป สิ่งทอ
กาแฟ ไม้เบญจพรรณ ดีบุก
- นำเข้า ปิโตรเลียม เครื่องจักรและวัตถุดิบ ซีเมนต์
เหล็ก ผลิตภัณฑ์อาหาร ผ้าผืน เครื่องจักร สารเคมี
สินค้าอุปโภคบริโภค
- ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ - ส่งออก ได้แก่ ตุรกี ไทย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี
เวียดนาม เนเธอร์แลนด์
- นำเข้า ได้แก่ ไทย ตุรกี จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย
เวียดนาม ฝรั่งเศส สิงคโปร์
- ภาษา ลาว ฝรั่งเศส อังกฤษ ไทย
- ศาสนา พุทธ
- เวลาแตกต่างจากไทย ตรงกับประเทศไทย
- ผู้นำประเทศ ประธานาธิบดีนายหนูฮัก พูมสะหวัน
II. ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย
ภาครัฐบาล
1. ความตกลงว่าด้วยการส่งสินค้าผ่านแดน ลงนามเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2521
2. ความตกลงเพื่อส่งเสริมการลงทุน ลงนามเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2533
3. ความตกลงทางการค้า (ฉบับแก้ไขใหม่) ลงนามเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2534
4. การประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือไทย-ลาว ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2538
ณ กรุงเวียงจันทน์ (ครั้งล่าสุด)
ภาคเอกชน
1. ความตกลงทางการค้าระหว่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรม
แห่งชาติลาว ลงนาม เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2535
III. ภาวะการค้ากับประเทศไทย
1. การส่งออก ในปี 2537 และปี 2538 ไทยส่งออกไปลาวเป็นมูลค่า 7,326.2 ล้านบาท และ
8,818.3 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.6 และ 0.6 ของมูลค่าการส่งออก
ทั้งหมดของประเทศ
2. สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ผ้าผืน เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์เหล็ก
และเหล็กกล้า รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เซรามิก เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์
เภสัชกรรม ผลิตภัณฑ์พลาสติก
3. การนำเข้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยนำเข้าจากลาวเป็นมูลค่า 1,738.0 ล้านบาท
และ 1,728.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.1 และ 0.1ของมูลค่าการ
นำเข้าทั้งหมดของประเทศ
4. สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ซุง ไม้แปรรูป และไม้อื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ไม้ สินแร่ โลหะอื่น ๆ และ
เศษโลหะ หนังดิบและหนังฟอก ใบยาสูบ แร่ดิบ ถ่านหิน ของเล่นและเครื่องเล่นเกม ผ้าผืน เสื้อผ้า
รองเท้าและผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่น ๆ
5. ดุลการค้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 5,588.2 ล้านบาท
และ 7,089.3 ล้านบาท ตามลำดับ
IV. ปัญหาทางการค้าที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทย
1. มาตรการภาษี
1.1 กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพในอัตราสูง ทำให้ต้นทุนสูงและ
การขยายตลาดในสินค้าดังกล่าวมีอัตราต่ำ
1.2 กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสูงสำหรับสินค้าที่มีเป้าหมายลดปริมาณการนำเข้า
1.3 กำหนดอัตราภาษีพิเศษที่ผู้ประกอบการจะต้องชำระ เช่น ผู้นำเข้าทุกรายจะต้องชำระภาษีค่า
บริการในการนำเข้าในอัตราร้อยละ 5 ของมูลค่าการนำเข้า FOB. เป็นต้น หรือในบางกรณีการดำเนิน
ธุรกิจบางประเภทต้องมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าบูรณะแขวง ค่าบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบ
การในการนำเข้าและส่งออกมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
2. มาตรการที่มิใช่ภาษี
2.1 ห้ามนำเข้าสินค้าบางชนิด ได้แก่ ไก่ ไข่ หมู เนื้อต่าง ๆ ข้าว น้ำตาล ผงชูรส เป็นต้น สำหรับ
ผู้ค้ารายย่อยตามแนวชายแดน จะอนุญาตให้นำเข้าได้เฉพาะผู้มีใบอนุญาตให้ทำการค้าเท่านั้น
2.2 ผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออก-นำเข้าสินค้าตามแนวชายแดน จะต้องมีการจดทะเบียนตามหมวดหมู่
และมีการกำหนดเงินทุนในแต่ละหมวดหมู่ ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่สามารถดำเนินการได้ หากผู้ส่งออก
ต้องการติดต่อต้องผ่านผู้มีใบอนุญาตประกอบการ
2.3 การกำหนดโควต้าไม่ชัดเจน เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่จะคำนวณความต้องการหรือปริมาณนำเข้าที่แน่นอน
ชัดเจน จึงใช้วิธีการ First Come First Serve ซึ่งเมื่อพิจารณาเห็นว่าน่าจะเพียงพอแก่ความต้องการ
หรือมากเกินไปก็จะยุติการให้นำเข้า ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดตัวสินค้าที่มีข้อห้ามในการนำเข้าอยู่แล้ว เช่น
รถยนต์ น้ำมัน เป็นต้น
2.4 ในกรณีที่มิได้กำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า การนำเข้าจะต้องติดต่อและประสานงาน
ในระดับสูงของกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทำให้ล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
2.5 ความล่าช้าของการติดต่องานราชการ
2.6 การขาดแคลนด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ทำให้ระบบการขนส่ง
ไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้การกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง
2.7. คุณภาพของแรงงานไม่ดีพอ และขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือ
2.8. การขาดแคลนกำลังซื้อภายในประเทศ เนื่องจากลาวมีประชากรเพียง 4 - 5 ล้านคน จึงเน้นการ
ผลิตเพื่อส่งออกเป็นสำคัญ
2.9 ค่าครองชีพภายในประเทศสูงเกินความเป็นจริง
2.10 การบริหารด้านสาธารณูปโภค ระบบการเงิน และภาษี ยังไม่เอื้ออำนวยต่อการขยายตัวของธุรกิจ
2.11 ลาวและไทยได้เปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวข้ามแม่น้ำโขงขึ้นในปี 2537 แต่ประสบกับปัญหาในการ
ขนส่งไม่สดวก เนื่องจากฝ่ายลาวยังคงควบคุมในเรื่องค่าธรรมเนียมผ่านแดน ช่วงเวลาการแล่นข้ามที่ฝ่ายลาว
ประกาศปิดสะพานไม่ให้รถข้ามไปมาก่อนฟ้ามืด
2.12 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2538 ลาวประกาศห้ามผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์ทุกประเภทจากต่าง
ประเทศชั่วคราว โดยไม่มีกำหนดจนกว่ารัฐจะดำเนินการแก้ไขปัญหาการนำเข้าได้ สาเหตุเนื่องมาจาก
บริษัทเอกชนจำนวนมากที่ไม่มีใบอนุญาตดำเนินธุรกิจนำเข้ายานพาหนะเพื่อจำหน่ายในประเทศ ใช้กลวิธีลักลอบ
นำเข้าอย่างไม่ถูกต้อง โดยหลีกเลี่ยงการตรวจสอบที่รัดกุมผ่านตามแขวงต่าง ๆ อาทิ ทางตอนใต้ของ
ประเทศที่แขวงบลิคำไซ สะหวันเขต และทางภาคเหนือที่ ปากห้วย แขวงบ่อแก้ว
V. สินค้าที่ไทยมีลู่ทางขยายการส่งออก-นำเข้า
1. การส่งออก รถแวนหรือรถปิคอัพ พอร์ตแลนด์ซีเมนต์ น้ำมันโซล่าหรือดีเซล รองเท้าแตะ ยารักษาโรค
น้ำมันเบนซิน รถจักรยานยนต์และตู้เย็น คอมเพรสเซอร์
2. การนำเข้า ไม้ ผลิตภัณฑ์จากไม้และไม้ก๊อก กระแสไฟฟ้า โคกระบือ สินแร่ โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ
--สรุปความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย--