แถลงการผลประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 1 กันยายน 2541

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงการผลประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 1 กันยายน 2541
การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ (1 ก.ย.41) นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ , นายสาทิตย์ วงศ์ หนองเตย รองโฆษกพรรค และดร.สุพงษ์ โตวิจักษณ์ ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมพรรคในครั้งนี้
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์
โฆษกพรรคฯ กล่าวว่า "ที่ประชุมได้อนุมัติร่างพ.ร.บ. 3 แบบ คือ ร่างพ.ร.บ.ป้องกัน และสมยอมการเสนอราคา ศ.มารุต บุนนาค เป็นผู้นำเสนอ ร่างพ.ร.บ.บริหารเมืองพัทยา นายถวิล ไพรสณฑ์ เป็นผู้เสนอ และฉบับที่ 3 คือ ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อของราษฎร เพื่อให้สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นพ้นจากตำแหน่ง และการเข้าชื่อร้องขอต่อประธานสภาท้องถิ่น เพื่อให้สภาท้องถิ่น พิจารณาพ.ร.บ.ท้องถิ่น คุณถวิล ไพรสณฑ์ เป็นผู้นำเสนอ และในที่ประชุมก็ได้ขอให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบ ประมาณรายจ่ายประจำปี 2542 รายงานการคืบหน้าการพิจารณางบประมาณให้ที่ประชุมได้รับทราบ ซึ่งกรรมาธิการงบประมาณก็ ได้พิจารณาให้ทราบว่าการปรับงบประมาณต่อกระทรวง ทบวง กรม นั้นก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปรับลดงบประมาณได้ทั้งหมด 10,499 ล้านกว่าบาท แล้วก็ได้พิจารณางบประมาณดังกล่าวนี้กลับคืนให้แก่กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่ ประชุมก็มีความห่วงใย ในข่าวลือที่ออกมาต่าง ๆ ว่ามีการหมกเม็ด หรือว่ามีการแอบแฝงงบของส.ส. อยู่ใน กระทรวง ทบวง กรม ต่าง ๆนั้น ซึ่งข่าวลือนี้ก็จะเป็นผลเสียหายต่อ ส.ส. ทั้งสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนนี้เราก็ได้มีการซักถามกรรมาธิการ โดยเฉพาะท่าน อิสระ สมชัย และท่านบุญชู โรจนเสถียร ยืนยันต่อที่ประชุมพรรค ว่าไม่มีเด็ดขาด ไม่มีงบส.ส.ไปแอบแฝงอยู่ในแต่ละ กระทรวง ทบวง กรม อันนี้ก็เป็นคำยืนยันของกรรมาธิการก็ให้เพื่อนสมาชิกแจ้งให้พี่น้องประชาช นได้รับทราบว่าทางกรรมาธิการนั้นไม่ ได้แฝงงบส.ส.ไว้ และ ในวันนี้ที่ประชุมก็ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจของโลกจากรัฐมน ตรีว่าการกระทรวง การคลัง ว่าเกิดภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และก็จะมีประกาศมาตรการแก้ไขปัญหา ในประเทศมาเลเซีย โดยรัฐบาลของมาเลเซีย ซึ่ง มาตรการต่าง ๆ เหล่านั้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย หรือบางมาตรการอาจจะเป็นผลดีต่อประเทศไทย ซึ่งสมาชิกมีความ ห่วงใยในเรื่องนี้มาก ได้ซักถามท่านรมต.ว่ารัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับใด ๆ หรือไม่ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องใหญ่มากที่สมาชิก พรรคของเราได้ให้ความสนใจ โดยเฉพาะสิ่งที่ท่านรมต. ได้ให้คำชี้แจงต่อที่ประชุมพรรคว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ว่า จะเป็นรัฐเซีย หรือมาเลเซียก็ตาม ผลดีที่ประเทศไทยของเราจะได้รับก็ คือ ด้านความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะถ้า มีมาตรการของมาเลเซียออกมา แล้วจะเห็นว่าการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศของไทยและมาเลเซียนั้นต ่างกัน แล้ว สำหรับรายละเอียดนั้นก็อยากจะให้ท่านจุติ และท่านสาทิตย์ ได้ช่วยเสริม
นายจุติ ไกรฤกษ์
ประเด็นที่พอสรุปได้วันนี้นะครับว่า สมาชิกหลายท่านมีความเป็นห่วงว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นที่ รัฐเซียหรือผลกระทบจากยุโรป อยากทราบว่ามีผลกระทบถึงประเทศไทยไหม จริง ๆ แล้วเริ่มมีวิกฤติขึ้นตั้งแต่ 2 กรกฎาคมปีที่แล้ว ในประเทศไทยเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและก็ลุกลามเป็นเรื่องของวิกฤติการเงินข องภูมิภาคเอเซีย ลามไปถึงระบบการเงิน และระบบ การค้าข้ามทวีปไปถึงรัฐเซียข้ามทวีปไปถึงลาตินอเมริกาประมาณนี้ ฉะนั้นผลกระทบเกิดแน่นอน และก็สิ่งที่ทุกคนที่กลัวจะทำให้ การพยายามในการแก้ไขปัญหาในการฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้นทำได้ยากขึ้น เพราะว่ามีข้อจำกัดในปัจจัยหลาย ๆ อย่างเช่น ความเดือดร้อน ในเรื่องของคนตกงาน ในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณที่จะมาช่วยเหลือคนตกงาน มีข้อจำกัดเพราะว่ารัฐบาลต้องไปแบกภาวะ ของกองทุนฟื้นฟูไว้ สูงถึง ล้าน ๆ กว่าบาท แต่ขณะเดียวกันก็มีหนี้เสียภาคเอกชนซึ่งเป็นเงินที่ไม่ก่อให้เกิดผลประโยช น์ รัฐบาล ได้ทำการแก้ไขตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา เราก็พอใจว่ามาตรการที่วางไว้เป็นมาตรการที่ถูกต้อง ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแต่ เราไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ แต่ปัจจุบันนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว ณ วันนี้ เราได้ไปขอวงเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ รัฐบาลญี่ปุ่น เป็นสิ่งที่ สำหรับประเทศไทยสร้างความมั่นใจระดับประเทศ ณ วันนี้จุดแตกต่างที่ทำให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบจากเหตุการณ์นี้คือ ใน การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงระบบเศรษฐกิจมานานพอสมควร คือนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้วเป็นต้นมา เป็นเวลา 1 ปี ดังนั้นการ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ลุล่วงไปมากจากรัฐบาลชุดที่แล้วจนถึงเดือนพฤศจิกายน และเราก็ได้ทำต่อจาก พ.ย. มาถึงปัจจุบันนี้ ความคืบ หน้าในการแก้ไขปัญหาการแสดงออกของนโยบายรัฐบาลในการสร้างความมั่นใจ เช่นในเรื่องการดำเนินการกับกิจการธนาคารที่ ผ่านมานั้น ทำให้ต่างชาติมีความมั่นใจในความกล้าหาญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาก ๆ เป็นจุดสร้างความมั่นใจ คือจุดสร้าง ข้อแตกต่างในการดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจว่าเงินลงทุนที่จะหนีจากต่ างประเทศต่าง ๆ ที่เขามีปัญหาว่าในที่สุดแล้ว ประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่น่าสนใจที่จะมาลงทุนไม่น้อยกว่าประเทศอื่น นอกจากนั้นแล้วยังมีมาตรการอื่น ๆ ที่เราต้องทำ ที่คาดว่าจะเกิดผลกระทบจากต่างประเทศ ทั้งรอบบ้านเราและผลกระทบจากยุโรป ซึ่งรายละเอียดจะให้ทราบภายหลัง แต่สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้รัฐบาลได้มีมาตรการรองรับแล้ว และก็จะดำเนินการที่จะลงไปในรายละเอียด เพื่อให้ประชาชนได้มีความมั่นใจว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เราทราบว่าจะเกิดขึ้นแต่เราไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ หรือถ้าเมื่อเกิดขึ้นตอนนี้แล้ว ส่วนหนึ่งที่รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรอง รับไว้แล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น และกำลังดำเนินการอยู่ จึงขอให้ประชาชนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย ด้วยความระมัดระวังและไม่ประมาท
สาทิตย์ วงศ์หนองเตย
ผมอยากเรียนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องความเป็นห่วงเป็น ใย ของเพื่อนสมาชิกต่อภาวะการทางเศรษฐกิจ ซึ่งวันนี้ท่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ชี้แจงมี 2 ประเด็นหลัก ที่ได้มีการซักถามกันมาก นั่นก็คือ ในเมื่อสภาวะการภายนอกเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ฮ่องกงก็ดี มาเลเซียก็ดี หรือที่ประเทศรัสเซียก็ดี ได้มีเพื่อนสมาชิกซักถามท่าน รมว.คลังว่า จะกระทบต่อมาตรการ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะมีขึ้นในต้นปี 2542 หรือไม่ ได้รับคำชี้แจง รมว.คลังว่า ถ้าจะประเมิณจากสภาวะการณ์ตอนนี้ ก็คิดว่า จะมีผลกระทบ และอาการเศรษฐกิจจะดีขึ้นในต้นปี ซึ่งได้มีการคาดหมายไว้แล้ว ซึ่งเมื่อรัฐมนตรีได้ชี้แจงมาถึงจุดนี้นั้น ก็ได้มี เพื่อนสมาชิกซักถามกันมากว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ทางรัฐบาล ไม่ว่ากระทรวงการคลัง กระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้องก็ดี ได้มีมาตรการ รองรับในวิกฤตเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในระลอกใหม่ ต่อผลกระทบในทางสังคมอย่างไรบ้างนั้น ทาง รมว.คลัง ได้ชี้แจงในที่ ประชุมชัดเจนว่า ขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย ซึ่งดำเนินนโยบายในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การรองรับปัญหาแรงงาน คืนถิ่น กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้เตรียมมาตรการรองรับทางสังคมอย่างค่อนข้างที่ จะละเอียดรอบคอบ เมื่อได้รับคำชี้แจงเหล่านี้แล้ว เพื่อนสมาชิกก็ได้ตั้งข้อสังเกตุให้กระทรวงการคลังได้กลับไปแจ้งต่อรัฐบาล ด้วย ว่า โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะการทางด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่พี่น้องประช าชนให้ความสนใจมาก หน้าที่กระทรวงการคลัง จะต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และ ชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะการณ์เศรษฐกิ จ ของประเทศไทย และให้มีการแถลงถึงมาตรการรองรับ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องสังคม หรือมาตรการรองรับในการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจที่กระทบจากภาวะภายนอก ให้ประชาชนได้ทราบควบคู่กันไปตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันปัญหาความตื่นตระหนก หรือปัญหาความไม่เชื่อมั่น ที่อาจจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ซึ่งต้องยอมรับเช่นเดียวกันว่าขณะนี้สภาวะการณ์ภายนอกที่เกิดขึ้น นั้น ได้สร้างความไม่สบายใจให้กับหลายฝ่าย และอาจนำไปสู่ความพยายามที่จะสร้างความไม่โลภในทางการเมืองให้เกิดขึ้น ซึ่ง ปชป. เชื่อมั่นว่าถ้ารัฐบาลสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงของสภาวะการณ์ และมาตรการรองรับควบคู่กันไปแล้ว ปัญหาทางด้านการเมืองที่พยายามจะ สร้างขึ้นก็ไม่สามารถที่จะสร้างได้ซึ่งนั่นก็หมายความว่าความเชื่อมั่นของ พี่น้องประชาชนก็จะส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของนโยบาย ที่รัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอยู่ในขณะนี้
หลังจากนั้น นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคฯ ก็ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในเรื่องปัญหาของ Y2K ว่า "สำหรับปัญหา Y2K งบประมาณที่กรรมาธิการ งบประมาณได้ตัดทิ้งไปนั้น เราก็ได้มาซักถามในที่ประชุม ก็ได้รับคำชี้แจงจากกรรมาธิการว่า ที่จริงแล้วส่วน ราชการทุกส่วนราชการที่ใช้คอมพิวเตอร์ ก็ได้มีงบประมาณเตรียมไว้แล้ว ดังนั้นก็จะไม่มีปัญหากระทบในการแก้ไขปัญหาในส่วน ราชการต่าง ๆ สำหรับรายละเอียดนั้น ก็ขอให้ ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ซึ่งได้รับมอบหมายจาก รมช.พิสิฐ ลี้อาธรรม ให้เป็นคนดู แลงบประมาณในเรื่องดังกล่าวเป็นผู้มาชี้แจง"
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ดร. สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
ได้ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า "สำหรับกรณีที่มีกรรมาธิการบางท่านจากฝ่ายค้าน ได้มาชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า ในการพิจารณางบ ประมาณของรัฐบาล ได้มีการปรับงบประมาณสำหรับการแก้ไขปัญหา Y2K หรือปัญหาคอมพิวเตอร์ปี 2000 นั้น ในวันนี้ที่ประชุม ของพรรคฯก็ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ และได้รับการชี้ชี้แจงจากคณะกรรมธิการในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นหน้าที่ ของแต่ละหน่วยงานของภาครัฐ ที่จะจัดสรรงบประมาณในงบปรกติ เพื่อแก้ไขปัญหา Y2K เพราะปัญหา Y2K ในส่วนงานของ ราชการนั้น ผมเองก็ได้รับมอบหมายจากท่าน รมช. พิสิฐ ลี้อาธรรม ให้ดูแลหน่วยงานราชการ เช่น กรมบัญชีกลาง และ กรมสรรพ สามิต การจัดสรรงบประมาณนั้น หน่วยงานราชการจะกลัวว่า เครื่องจะเปิดใช้งานไม่ได้ในปี 2000 ซึ่งเหตุผลที่ใช้ไม่ได้ ส่วนใหญ่จะ เป็นระบบมินิคอมพิวเตอร์ คือระบบที่มีจอภาพต่อเข้ากับ CPU ซึ่งระบบเหล่านั้นเป็นระบบที่เก่าและถูกซ่อมมานานแล้ว เพราะฉะนั้น การ Support หรือการให้บริการของบริษัทนั้น ผู้รอบรู้จะไม่ค่อยมี เขาก็เกลงว่าเครื่องเหล่านั้นจะเปิดไม่ได้ แต่สำหรับเครื่องไมโคร คอมพิวเตอร์ หรือ PC นั้น จะไม่มีปัญหาในเรื่องของปี 2000 ตรงนี้ก็น่าเป็นห่วงว่า หน่วยงานราชการจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดคือ แบงก์หรือธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะใช้คอมพิวเตอร์มากในการปรับแผน เพราะโปรแกรมต่าง ๆ เป็นโปรแกรม สำเร็จรูป เช่น ธนาคารกรุงไทย จะใช้งบประมาณถึง 290 ล้าน ในการแก้ไขปัญหา Y2K ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะใช้ประมาณ 60-70 ล้าน ซึ่งเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ขอให้พี่น้องประชาชนหรือผู้ที่มีความสนใจ วางใจได้ว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะโปรแกรมส่วนใหญ่ เป็นโปรแกรมประเทศไทยเขียนขึ้นเอง.--จบ--