กรุงเทพ--2 เม.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ฯพณฯ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกำหนดจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตย ศรีลังกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 4 - 8 เมษายน 2542 ตามคำเชิญของนาย Lakshman Kadirgamar รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมือด้านศาสนาและวัฒนธรรม
ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มีกำหนดจะหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกาในประเด็นทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน พร้อมทั้งแสวงหาแนวทางที่เป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือดังกล่าวต่อไป โดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างกัน การขยายความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา รวมทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ฝ่ายไทยจะแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับประเทศศรีลังกาในกรอบพหุภาคี เช่น BIMST-EC และแสดงความขอบคุณประเทศศรีลังกาที่ให้ความสนับสนุนไทยในเวทีพหุภาคีโดยเฉพาะการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO ของ ฯพณฯ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และขอความร่วมมือและสนับสนุนจากศรีลังกาในการประชุม UNCTAD ครั้งที่ 10 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์ 2543 อีกด้วย
นอกจากนี้ ในระหว่างการเดินทางไปเยือนศรีลังกาในครั้งนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นประธานในพิธีมอบพระพุทธรูปปางอู่ทอง ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่ประชาชนชาวศรีลังกาในโอกาสฉลองเอกราชครบ 50 ปีของศรีลังกา (ปี 2541) รวมทั้งจะเดินทางไปเยือนเมืองแคนดี้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของศรีลังกาเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชของสยามนิกายในศรีลังกา และนมัสการพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าที่วัดพระเขี้ยวแก้ว (Dalada Maligawa)
ไทยและศรีลังกาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับอัครราชทูตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2498 และยกระดับขึ้นเป็นระดับเอกอัครราชทูตเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2504 ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและดำเนินไปด้วยความราบรื่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะประเทศทั้งสองมีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติเช่นเดียวกัน และมีรากฐานทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน
ในด้านเศรษฐกิจการค้า ในปี 2541 การค้าระหว่างไทย - ศรีลังกามีมูลค่ารวม 172.6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังศรีลังกาเป็นมูลค่า 133.02 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา 39.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ารวม 93.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังศรีลังกาที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผ้าผืน น้ำตาลทราย ปลาแห้งและผลิตภัณฑ์พลาสติก ในขณะที่นำเข้าเครื่องอัญมณี อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และยางรถยนต์จากศรีลังกา นอกจากนี้ ประเทศทั้งสองยังได้ร่วมลงนามในความตกลงจัดตั้งกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจบังกลาเทศ - อินเดีย - พม่า - ศรีลังกา - ไทย (ฺBIMST-EC) เมื่อปี 2541 ด้วย--จบ--
ฯพณฯ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกำหนดจะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตย ศรีลังกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 4 - 8 เมษายน 2542 ตามคำเชิญของนาย Lakshman Kadirgamar รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ตลอดจนความร่วมมือด้านศาสนาและวัฒนธรรม
ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มีกำหนดจะหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกาในประเด็นทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน พร้อมทั้งแสวงหาแนวทางที่เป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือดังกล่าวต่อไป โดยเฉพาะการเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนระหว่างกัน การขยายความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา รวมทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่ฝ่ายไทยจะแสดงเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือกับประเทศศรีลังกาในกรอบพหุภาคี เช่น BIMST-EC และแสดงความขอบคุณประเทศศรีลังกาที่ให้ความสนับสนุนไทยในเวทีพหุภาคีโดยเฉพาะการสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้อำนวยการใหญ่ WTO ของ ฯพณฯ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และขอความร่วมมือและสนับสนุนจากศรีลังกาในการประชุม UNCTAD ครั้งที่ 10 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนกุมภาพันธ์ 2543 อีกด้วย
นอกจากนี้ ในระหว่างการเดินทางไปเยือนศรีลังกาในครั้งนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นประธานในพิธีมอบพระพุทธรูปปางอู่ทอง ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญแก่ประชาชนชาวศรีลังกาในโอกาสฉลองเอกราชครบ 50 ปีของศรีลังกา (ปี 2541) รวมทั้งจะเดินทางไปเยือนเมืองแคนดี้ ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของศรีลังกาเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชของสยามนิกายในศรีลังกา และนมัสการพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าที่วัดพระเขี้ยวแก้ว (Dalada Maligawa)
ไทยและศรีลังกาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับอัครราชทูตเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2498 และยกระดับขึ้นเป็นระดับเอกอัครราชทูตเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2504 ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและดำเนินไปด้วยความราบรื่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะประเทศทั้งสองมีพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติเช่นเดียวกัน และมีรากฐานทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน
ในด้านเศรษฐกิจการค้า ในปี 2541 การค้าระหว่างไทย - ศรีลังกามีมูลค่ารวม 172.6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกสินค้าไปยังศรีลังกาเป็นมูลค่า 133.02 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา 39.4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ารวม 93.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังศรีลังกาที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ผ้าผืน น้ำตาลทราย ปลาแห้งและผลิตภัณฑ์พลาสติก ในขณะที่นำเข้าเครื่องอัญมณี อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และยางรถยนต์จากศรีลังกา นอกจากนี้ ประเทศทั้งสองยังได้ร่วมลงนามในความตกลงจัดตั้งกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจบังกลาเทศ - อินเดีย - พม่า - ศรีลังกา - ไทย (ฺBIMST-EC) เมื่อปี 2541 ด้วย--จบ--