แท็ก
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารพาณิชย์
ธนาคารออมสิน
จังหวัดสงขลา
30 ธันวาคม 2548
เรียน ผู้จัดการ
ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารออมสิน
ที่ ธปท. ฝกช.(22) ว.2477/2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล
เพื่อบรรเทาความเดือนรอนแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูลที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเห็นสมควรให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการผ่านสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษ
ในรูปของเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ เพื่อผ่อนคลายภาระทางการเงินสำหรับยอดคงค้างสินเชื่อที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูกิจการให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1.ในหนังสือนี้
"สถาบันการเงิน" หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน
"กิจการ" หมายความว่า ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น กิจการโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และกิจการค้าปลีก ค้าส่ง เป็นต้น
"ผู้ประกอบกิจการ" หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน
ข้อ 2.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการตามหนังสือนี้จากสถาบันการเงินโดยตั๋วสัญญาใช้เงินต้องเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
(1)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินตามแบบที่แนบ
(2)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการอันสุจริต
(3)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการที่สถาบันการเงินอนุมัติให้เป็นผู้ที่พึงเชื่อถือได้ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควรให้ความอนุเคราะห์
(4)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกเป็นเงินบาท แต่ละฉบับมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท) และต้องไม่มีเศษของหลักพัน
(5)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินกำหนดเวลานับแต่วันที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงินในแต่ละกรณี ดังนี้
ก.กรณีกิจการการผลิต ไม่เกิน 360 วัน
ข.กรณีกิจการอื่นๆ ไม่เกิน 180 วัน
(6)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
ก.ออกเพื่อผ่อนคลายยอดคงค้างสินเชื่ออันเนื่องมาจากการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ
ข.ออกเพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูกิจการ โดยต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใน 4 เดือนนับแต่วันที่ผู้ประกอบกิจการได้จ่ายเงินไปในการดำเนินกิจการ
(7)จำนวนเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินต้องไม่เกินจำนวนเงินที่สถาบันการเงินให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบกิจการ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ผู้ประกอบกิจการจ่ายจริงเพื่อการดังกล่าว
(8)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินรับซื้อและชำระเงินแล้วเต็มตามจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน
(9)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
(10)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินได้สลักหลังเฉพาะโอนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ 3.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินตามข้อ 2.ในอัตราร้อยละของจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงินตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราร้อยละในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
ในวันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงินหรือวันที่มีการขอชำระหนี้หรือวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกให้ชำระหนี้ก่อนกำหนด ธนาคารแห่งประเทศไทยจะหักเงินจากบัญชีเงินนฝากของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตามจำนวนหนี้ที่ถึงกำหนดใช้เงินหรือจำนวนหนี้ที่ขอชำระ
หรือจำนวนหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกใช้ชำระก่อนกำหนด แล้วแต่กรณีรวมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ตามอัตราที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ใน
วันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
ในกรณีที่วันถึงกำหนดใช้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินตรงกับวันหยุดทำการ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) สำหรับวันหยุดดังกล่าวด้วย
ข้อ 4.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการแต่ละรายตามหนังสือนี้ภายในวงเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควร
ข้อ 5.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ประกอบกิจการแต่ละรายเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ผู้ประกอบกิจการรายนั้นได้รับความเห็นชอบให้ได้รับความอนุเคราะห์ทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยตามหนังสือนี้ โดยตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับสุดท้าย
ต้องถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2251
ข้อ 6.สถาบันการเงินที่จะขายตั๋วสัญญาใช้เงินต้องปฏิบัติและยิมยอมรับพันธะหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) เรียกเก็บดอกเบี้ยสำหรับจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้งเนิไม่เกินอัตราที่กำหนดในตั๋วสัญญาใช้เงิน และเรียกเก็บในวันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงินหรือวันที่มีการชำระหนี้ โดยไม่มีการเรียกหรือรับผลประโยชน์อื่นใดเพิ่ม
(2) ทำหนังสือแสดงความยินยอมตามแบบที่แนบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อชำระหนี้อันเกิดขึ้นเนื่องจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความอนุเคราะห์ตามหนังสือนี้ และในกรณีที่เงินในบัญชีเงินฝากของ
สถาบันการเงินไม่มีหรือมีไม่พอหักชำระหนี้ดังกล่าว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจำหน่ายทรัพย์สินอย่างอื่นของสถาบันการเงินที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและดำเนินการอื่นใดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายตั๋วสัญญาใช้เงินตามหนังสือนี้ ณ สำนักงานของสถาบันการเงิน รวมทั้งดำเนินการให้ผู้ประกอบการกิจการยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายตั๋วสัญญาใช้เงินตามหนังสือนี้ ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการได้ด้วย
(3) ยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักบัญชีเงินฝากที่ดำรงไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยโดยจะจัดให้มีเงินเพียงพอสำหรับหักชำระหนี้ในวันที่ครบกำหนดหรือวันที่ชำระหนี้
(4) ยื่นหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้ตามแบบที่แนบ
(5) ไม่ต้องจัดส่งหลักฐานหรือเอกสารการจ่ายเงิน ประกอบตั๋วสัญญาใช้เงินที่นำมาขาย
(6) ตรวจสอบและรับรองว่า
ก.ตั๋วสัญญาใช้เงินที่นำมาขายนั้นเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ถูกต้องตรงตามข้อ 2.ทุกประการ
ข.จำนวนเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินนำมาขายเมื่อรวมกับจำนวนเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบการรายเดียวกัน ซึ่งธนาคารแห่ประเทศไทยได้รับซื้อไว้จากสถาบันการเงิน และยังไม่ถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในข้อ 4.หรือวงเงินที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยแจ้งให้สถาบันการเงินทราบตามข้อ 10.
ค.ผู้ประกอบกิจการได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง
(7)เมื่อสถาบันการเงินฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งแห่งหนังสือนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บเบี้ยปรับจากสถาบันการเงินในอัตราเบี้ยปรับที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการใน
จังหวัดสงขลาและสูตล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง
ถ้าสาเหตุที่สถาบันการเงินต้องเสียเบี้ยปรับเกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน สถาบันการเงินจะไล่เบี้ยจากผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินได้ไม่เกินจำนวนเงินเบี้ยปรับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกเก็บจากสถาบันการเงิน และถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยคืนเบี้ยปรับให้แก่
สถาบันการเงินเป็นจำนวนเงินเท่าใด สถาบันการเงินต้องคืนเบี้ยปรับตามจำนวนเงินดังกล่าวให้แก่ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
ข้อ 8.ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณางด ลด หรือคืนเบี้ยปรับสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหนังสือนี้ตามที่เห็นสมควรก็ได้
ข้อ 9.เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับชำระหนี้จากสถาบันการเงินแล้ว หากปรากฎในภายหลังว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งแห่งหนังสือนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยสงวนสิทธิที่จะเรียกเก็บเบี้ยปรับสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติดังกล่าว
ข้อ 10.ธนาคารแห่งประเทศไทยสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับซื้อ หรือลดวงเงินที่จะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินยกเลิกวงเงินหรือกำหนดวงเงินที่จะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ประกอบกิจการแต่ละรายใหม่ ลดอัตราของจำนวนเงินที่จะออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือเรียกใช้ชำระหนี้ก่อนวันถึงกำหนดใช้เงิน
ในตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อมีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่าสถาบันการเงินที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยสถาบันการเงินนั้นๆ
(2)เมื่อมีการจำหน่ายทรัพย์สินของสถาบันการเงินตามข้อ 6.(2)
(3) เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่าสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบกิจการที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหนังสือนี้ หรือมีพฤติการณ์ในทำนองไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหนังสือนี้
(4) มีเหตุไม่สมควรประการอื่น
ข้อ 11. สถาบันการเงินสามารถส่งหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการที่พึงเชื่อถือได้ตามหนังสือนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อขอความเห็นชอบได้นับแต่วันที่หนังสือฉบับนี้มีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(ม.ร.ว. ปริดิยาธร เทาวกุล)
ผู้ว่าการ
สิ่งที่ส่งมาด้วย : 1. แบบหนังสือแสดงความยินยอม
2. แบบหนังสือขอความเห็นชอบ
3. แบบตั๋วสัญญาใช้เงิน
4. แบบหนังสือนำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
5. แบบหนังสือขอชำระหนี้
6. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราร้อยละในการรับซื้อตั๋วสัญญา
ใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่ 20 ธันวาคม
2548
7. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการ
รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่
30 ธันวาคม 2548
ส่วนสินเชื่อ
ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
สายตลาดการเงิน
โทร. 0 2283 5414-6, 0 2283 5148
หมายเหตุ จัดประชุมชี้แจงในวันที่ 13 มกราคม 2549 เวลา 14.00 น.
ณ อาคาร 2 ชั้น 3 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
หนังสือแสดงความยินยอม
ทำที่..........................
วันที่............................
ที่.......................................
เรื่อง ความยินยอมเพื่อประโยชน์ในการขายตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการในจังหวัด
สงขลาและสตูล
เรียน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
เพื่อประโยชน์ในการขายตั๋วสัญญาใช้เงินแก่ธนาคารแห่งประเทศไทยตามหนังสือธนาคาร
แห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝกช.(22)ว......../2548 ลงวันที่..........................
เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล
ข้าพเจ้า............(สถาบันการเงิน)............ได้อ่านหนังสือดังกล่าวเข้าใจข้อความโดย
ตลอดแล้วตกลงและยินยอมรับที่จะปฏิบัติตามหนังสือดังกล่าวทุกประการ รวมทั้ง
1. ดำรงเงินฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้มีจำนวนเพียงพอที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยจะหักชำระหนี้ได้
2. ยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
(1) นำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตามจำนวน
เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
(2) หักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่มีอยู่ ณ สำนักงานของธนาคารแห่ง
ประเทศไทยเพื่อชำระหนี้ทั้งปวงรวมทั้งเบี้ยปรับอันเกิดจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋ว
สัญญาใช้เงินตามหนังสือดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้หักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่มีอยู่ ณ สำนักงานของธนาคารแห่ง
ประเทศไทยแห่งที่ได้รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นไว้ก่อน ถ้าเงินในบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่สำนัก
งานนั้นไม่มีหรือมีไม่พอหัก และสำนักงานแห่งนั้นมิใช่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้หักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าเจ้าที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ต่อไป
(3) จำหน่ายทรัพย์สินอย่างอื่นของข้าพเจ้าซึ่งมีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งดำเนินการอื่นใดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควร เพื่อให้ได้เงินมาชำระหนี้ ทั้ง
ปวงและเบี้ยปรับตามหนังสือดังกล่าว ในกรณีเงินในบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศ
ไทยจะหักตาม (2) ไม่มีหรือมีไม่พอหัก
3. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลัก
ฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขยายตั๋วสัญญาใช้เงินตามหนังสือดังกล่าว ณ สำนักงานของข้าพเจ้า
เข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการขายตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการ
ตามหนังสือดังกล่าว ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการได้
4. ดำเนินการให้ผู้ประกอบกิจการยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
เข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการ
ตามหนังสือดังกล่าว ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการได้
อนึ่ง ข้าพเจ้าขอให้คำมั่นต่อธนาคารแห่งประเทศไทยว่าข้าพเจ้าจะไม่เพิกถอนความ
ยินยอมตามหนังสือนี้นกว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่
ขัดข้องในการที่ข้าพเจ้าจะเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ.........................
(.......................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ........................
แบบหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึ่งเชื่อถือได้
ทำที่..................
วันที่.............................
เรียน อำนวยการ ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่.................เรื่อง...ขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการ
เงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้
ด้วย................(สถานบันการเงิน)..................ได้พิจารณาอนุมัติ
ให้ผู้ประกอบกิจการ จำนวน....................ราย เป็นผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้และ
สมควรให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.ฝกช. (22)
ว........................./2548 ลงวันที่ .........................เรื่อง การ
ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ตามรายชื่อและวงเงินแบบ
จึงเรียนมาเพื่อขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินตามหนังสือดังกล่าว
แก่ผู้ประกอบกิจการข้างต้น
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ.........................
(.......................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ........................
1/ กรณีขอขายตั๋วสัญญาใช้เงินผ่านสำนักงานภาคของธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เขียนถึงผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคนั้นๆ
รายชื่อผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้ แนบหนังสือที่.....ลงวันที่................
ลำดับ ชื่อย่อ รหัสสาขา คำนำ ชื่อ สถาน รหัส รหัสธุรกิจ1/ กิจกรรมทาง แรงงาน ขนาดสินทรัพย์ วงเงิน (บาท) เหตุผลในการ
ขอรับ
ที่ ธพ. ธพ. หน้าชื่อ ประกอบการ จังหวัด หลัก หมวด หมู่ย่อย เศรษฐกิจ (คน) (บาท) หนี้เดิม เงินทุนหมุนเวียน รวม ตามตั๋วฯ ธปท. ความช่วยเหลือ
ขอรับรองว่าถูกต้องตามความเป็นจริง
ลงลายมือชื่อ............................
(...........................)
ผู้มีอำนาจลงนาม...........................
เพื่อ............................
1/อนุโลมให้ใช้ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ประเภทวิสาหกิจ
ที่กำหนดให้ความอนุเคราะห์ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการ
ให้กู้ยืมเงินที่เกิดจากการประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็น
ประกัน พ.ศ.2546
แบบตั๋วสัญญาใช้เงิน
อากรแสตมป์
ตั๋วสัญญาใช้เงิน
เลขที่............... .................................
(สถานที่ออกตั๋วฯ)
วันที่...................................
ในวันที่........ข้าพเจ้า............................................
สัญญาจะจ่ายเงิน..........บาท(........................................................)
และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ.....ต่อปี แก่..............(สถาบันการเงิน).........................
ที่.........................
(ลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว)..............
(.................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ....................
หนังสือนำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ทำที่..............
วันที่........................
เรียน ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ เรื่อง นำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ด้วยข้าพเจ้า.....(สถาบันการเงิน)....มีความประสงค์จะขายตั๋วสัญญาใช้เงินของ
ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.ฝกช.(22)ว.
....../2548 ลงวันที่........................เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่
ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล จำนวน.....ฉบับ จำนวนเงิน................บาท
(.............................) ตามรายละเอียดแนบ (จำนวน...............หน้า)
ในการนี้ ข้าพเจ้าขอมอบอำนาจให้......................................
เป็นบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย
หากธนาคารแห่งประเทศไทยตกลงรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่นำส่งแล้ว โปรดนำเงินเข้า
บัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ.....................
(.........................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ.............................
ผู้ส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ลงลายมือชื่อ...................
(...................)
วันที่..........................
เอกสารแนบหนังสือนำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ธนาคาร.............ประจำวันที่............
ลำดับที่ เลขที่ตั๋วฯ รหัสผู้ออกตั๋ว ชื่อผู้ออกตั๋ว วันที่ออกตั๋ว วันถึงกำหนดใช้เงิน1/ จำนวนเงิน (บาท) อัตราดอกเบี้ย
ตามตั๋ว เงินของ ธปท. (% ต่อปี)
- - - - - - - - -
รวม------------
ขอรับรองว่าถูกต้องตามความเป็นจริง
ลงลายมือชื่อ....................
(...................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ......................
1/ ให้จัดเรียงลำดับตามวันถึงกำหนดใช้เงินก่อน
หนังสือขอชำระหนี้
ทำที่..............................
วันที่.............................
เรียน ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ เรื่อง ขอชำระหนี้
ด้วยข้าพเจ้า......(สถาบันการเงิน).....มีความประสงค์จะขอชำระ
หนี้ตามที่ได้ขายตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ตามหนังสือธนาคาร
แห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝกช.(22)ว............/2548 ลงวันที่....................
เรื่อง การให้ ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล
จำนวน.........ฉบับ เป็นเงิน..............บาท ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ลำดับที่ เลขที่ตั๋ว ผู้ออกตั๋ว จำนวนเงิน วันที่ขาย วันถึงกำหนดใช้เงิน
รหัส ชื่อ ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ขอชำระ
- - - - - - - -
จึงเรียนมาเพื่อโปรดหักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
เพื่อชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้น
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ...........................
(..................................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ.................................
เรียน ผู้จัดการ
ธนาคารพาณิชย์ทุกธนาคาร
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารออมสิน
ที่ ธปท. ฝกช.(22) ว.2477/2548 เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล
เพื่อบรรเทาความเดือนรอนแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูลที่ได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย จึงเห็นสมควรให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการผ่านสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษ
ในรูปของเงินทุนหมุนเวียน ทั้งนี้ เพื่อผ่อนคลายภาระทางการเงินสำหรับยอดคงค้างสินเชื่อที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูกิจการให้ดำเนินการต่อไปได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1.ในหนังสือนี้
"สถาบันการเงิน" หมายความว่า ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน
"กิจการ" หมายความว่า ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เช่น กิจการโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และกิจการค้าปลีก ค้าส่ง เป็นต้น
"ผู้ประกอบกิจการ" หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการที่เป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน
ข้อ 2.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการตามหนังสือนี้จากสถาบันการเงินโดยตั๋วสัญญาใช้เงินต้องเป็นไปตามข้อกำหนดดังต่อไปนี้
(1)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินตามแบบที่แนบ
(2)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่เกิดจากการประกอบกิจการอันสุจริต
(3)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการที่สถาบันการเงินอนุมัติให้เป็นผู้ที่พึงเชื่อถือได้ และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควรให้ความอนุเคราะห์
(4)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกเป็นเงินบาท แต่ละฉบับมีจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาท) และต้องไม่มีเศษของหลักพัน
(5)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินกำหนดเวลานับแต่วันที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงินในแต่ละกรณี ดังนี้
ก.กรณีกิจการการผลิต ไม่เกิน 360 วัน
ข.กรณีกิจการอื่นๆ ไม่เกิน 180 วัน
(6)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่มีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
ก.ออกเพื่อผ่อนคลายยอดคงค้างสินเชื่ออันเนื่องมาจากการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ
ข.ออกเพื่อให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการฟื้นฟูกิจการ โดยต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใน 4 เดือนนับแต่วันที่ผู้ประกอบกิจการได้จ่ายเงินไปในการดำเนินกิจการ
(7)จำนวนเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินต้องไม่เกินจำนวนเงินที่สถาบันการเงินให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบกิจการ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ผู้ประกอบกิจการจ่ายจริงเพื่อการดังกล่าว
(8)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินรับซื้อและชำระเงินแล้วเต็มตามจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงิน
(9)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เกินอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
(10)เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินได้สลักหลังเฉพาะโอนให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
ข้อ 3.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินตามข้อ 2.ในอัตราร้อยละของจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้เงินตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราร้อยละในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
ในวันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงินหรือวันที่มีการขอชำระหนี้หรือวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกให้ชำระหนี้ก่อนกำหนด ธนาคารแห่งประเทศไทยจะหักเงินจากบัญชีเงินนฝากของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตามจำนวนหนี้ที่ถึงกำหนดใช้เงินหรือจำนวนหนี้ที่ขอชำระ
หรือจำนวนหนี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกใช้ชำระก่อนกำหนด แล้วแต่กรณีรวมดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ตามอัตราที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ใน
วันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
ในกรณีที่วันถึงกำหนดใช้เงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินตรงกับวันหยุดทำการ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) สำหรับวันหยุดดังกล่าวด้วย
ข้อ 4.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการแต่ละรายตามหนังสือนี้ภายในวงเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควร
ข้อ 5.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ประกอบกิจการแต่ละรายเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี นับแต่วันที่ผู้ประกอบกิจการรายนั้นได้รับความเห็นชอบให้ได้รับความอนุเคราะห์ทางการเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยตามหนังสือนี้ โดยตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับสุดท้าย
ต้องถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2251
ข้อ 6.สถาบันการเงินที่จะขายตั๋วสัญญาใช้เงินต้องปฏิบัติและยิมยอมรับพันธะหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) เรียกเก็บดอกเบี้ยสำหรับจำนวนเงินในตั๋วสัญญาใช้งเนิไม่เกินอัตราที่กำหนดในตั๋วสัญญาใช้เงิน และเรียกเก็บในวันที่ตั๋วสัญญาใช้เงินถึงกำหนดใช้เงินหรือวันที่มีการชำระหนี้ โดยไม่มีการเรียกหรือรับผลประโยชน์อื่นใดเพิ่ม
(2) ทำหนังสือแสดงความยินยอมตามแบบที่แนบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักเงินจากบัญชีเงินฝากของสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อชำระหนี้อันเกิดขึ้นเนื่องจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความอนุเคราะห์ตามหนังสือนี้ และในกรณีที่เงินในบัญชีเงินฝากของ
สถาบันการเงินไม่มีหรือมีไม่พอหักชำระหนี้ดังกล่าว ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจำหน่ายทรัพย์สินอย่างอื่นของสถาบันการเงินที่มีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและดำเนินการอื่นใดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายตั๋วสัญญาใช้เงินตามหนังสือนี้ ณ สำนักงานของสถาบันการเงิน รวมทั้งดำเนินการให้ผู้ประกอบการกิจการยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายตั๋วสัญญาใช้เงินตามหนังสือนี้ ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการได้ด้วย
(3) ยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทยหักบัญชีเงินฝากที่ดำรงไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยโดยจะจัดให้มีเงินเพียงพอสำหรับหักชำระหนี้ในวันที่ครบกำหนดหรือวันที่ชำระหนี้
(4) ยื่นหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้ตามแบบที่แนบ
(5) ไม่ต้องจัดส่งหลักฐานหรือเอกสารการจ่ายเงิน ประกอบตั๋วสัญญาใช้เงินที่นำมาขาย
(6) ตรวจสอบและรับรองว่า
ก.ตั๋วสัญญาใช้เงินที่นำมาขายนั้นเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินที่ถูกต้องตรงตามข้อ 2.ทุกประการ
ข.จำนวนเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่สถาบันการเงินนำมาขายเมื่อรวมกับจำนวนเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบการรายเดียวกัน ซึ่งธนาคารแห่ประเทศไทยได้รับซื้อไว้จากสถาบันการเงิน และยังไม่ถึงกำหนดใช้เงินไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในข้อ 4.หรือวงเงินที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยแจ้งให้สถาบันการเงินทราบตามข้อ 10.
ค.ผู้ประกอบกิจการได้รับผลกระทบทางอ้อมจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง
(7)เมื่อสถาบันการเงินฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งแห่งหนังสือนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเรียกเก็บเบี้ยปรับจากสถาบันการเงินในอัตราเบี้ยปรับที่กำหนดในประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องอัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการใน
จังหวัดสงขลาและสูตล ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง
ถ้าสาเหตุที่สถาบันการเงินต้องเสียเบี้ยปรับเกิดขึ้นเพราะความผิดของผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน สถาบันการเงินจะไล่เบี้ยจากผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินได้ไม่เกินจำนวนเงินเบี้ยปรับที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกเก็บจากสถาบันการเงิน และถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยคืนเบี้ยปรับให้แก่
สถาบันการเงินเป็นจำนวนเงินเท่าใด สถาบันการเงินต้องคืนเบี้ยปรับตามจำนวนเงินดังกล่าวให้แก่ผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงิน
ข้อ 8.ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณางด ลด หรือคืนเบี้ยปรับสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหนังสือนี้ตามที่เห็นสมควรก็ได้
ข้อ 9.เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับชำระหนี้จากสถาบันการเงินแล้ว หากปรากฎในภายหลังว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งแห่งหนังสือนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยสงวนสิทธิที่จะเรียกเก็บเบี้ยปรับสำหรับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติดังกล่าว
ข้อ 10.ธนาคารแห่งประเทศไทยสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับซื้อ หรือลดวงเงินที่จะรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินยกเลิกวงเงินหรือกำหนดวงเงินที่จะให้ความอนุเคราะห์แก่ผู้ประกอบกิจการแต่ละรายใหม่ ลดอัตราของจำนวนเงินที่จะออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือเรียกใช้ชำระหนี้ก่อนวันถึงกำหนดใช้เงิน
ในตั๋วสัญญาใช้เงิน เมื่อมีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่าสถาบันการเงินที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินปฏิบัติไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยสถาบันการเงินนั้นๆ
(2)เมื่อมีการจำหน่ายทรัพย์สินของสถาบันการเงินตามข้อ 6.(2)
(3) เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่าสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบกิจการที่ขายตั๋วสัญญาใช้เงินฝ่าฝืนหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหนังสือนี้ หรือมีพฤติการณ์ในทำนองไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหนังสือนี้
(4) มีเหตุไม่สมควรประการอื่น
ข้อ 11. สถาบันการเงินสามารถส่งหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการที่พึงเชื่อถือได้ตามหนังสือนี้ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อขอความเห็นชอบได้นับแต่วันที่หนังสือฉบับนี้มีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 เป็นต้นไป
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(ม.ร.ว. ปริดิยาธร เทาวกุล)
ผู้ว่าการ
สิ่งที่ส่งมาด้วย : 1. แบบหนังสือแสดงความยินยอม
2. แบบหนังสือขอความเห็นชอบ
3. แบบตั๋วสัญญาใช้เงิน
4. แบบหนังสือนำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
5. แบบหนังสือขอชำระหนี้
6. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราร้อยละในการรับซื้อตั๋วสัญญา
ใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่ 20 ธันวาคม
2548
7. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง อัตราดอกเบี้ยและเบี้ยปรับในการ
รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ลงวันที่
30 ธันวาคม 2548
ส่วนสินเชื่อ
ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
สายตลาดการเงิน
โทร. 0 2283 5414-6, 0 2283 5148
หมายเหตุ จัดประชุมชี้แจงในวันที่ 13 มกราคม 2549 เวลา 14.00 น.
ณ อาคาร 2 ชั้น 3 ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
หนังสือแสดงความยินยอม
ทำที่..........................
วันที่............................
ที่.......................................
เรื่อง ความยินยอมเพื่อประโยชน์ในการขายตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดยผู้ประกอบกิจการในจังหวัด
สงขลาและสตูล
เรียน ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
เพื่อประโยชน์ในการขายตั๋วสัญญาใช้เงินแก่ธนาคารแห่งประเทศไทยตามหนังสือธนาคาร
แห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝกช.(22)ว......../2548 ลงวันที่..........................
เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล
ข้าพเจ้า............(สถาบันการเงิน)............ได้อ่านหนังสือดังกล่าวเข้าใจข้อความโดย
ตลอดแล้วตกลงและยินยอมรับที่จะปฏิบัติตามหนังสือดังกล่าวทุกประการ รวมทั้ง
1. ดำรงเงินฝากไว้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยให้มีจำนวนเพียงพอที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยจะหักชำระหนี้ได้
2. ยินยอมให้ธนาคารแห่งประเทศไทย
(1) นำเงินเข้าบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตามจำนวน
เงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงิน
(2) หักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่มีอยู่ ณ สำนักงานของธนาคารแห่ง
ประเทศไทยเพื่อชำระหนี้ทั้งปวงรวมทั้งเบี้ยปรับอันเกิดจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยรับซื้อตั๋ว
สัญญาใช้เงินตามหนังสือดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้หักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่มีอยู่ ณ สำนักงานของธนาคารแห่ง
ประเทศไทยแห่งที่ได้รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นไว้ก่อน ถ้าเงินในบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่สำนัก
งานนั้นไม่มีหรือมีไม่พอหัก และสำนักงานแห่งนั้นมิใช่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ก็ให้หักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าเจ้าที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ต่อไป
(3) จำหน่ายทรัพย์สินอย่างอื่นของข้าพเจ้าซึ่งมีอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งดำเนินการอื่นใดตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นสมควร เพื่อให้ได้เงินมาชำระหนี้ ทั้ง
ปวงและเบี้ยปรับตามหนังสือดังกล่าว ในกรณีเงินในบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศ
ไทยจะหักตาม (2) ไม่มีหรือมีไม่พอหัก
3. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยเข้าไปตรวจสอบเอกสารหลัก
ฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขยายตั๋วสัญญาใช้เงินตามหนังสือดังกล่าว ณ สำนักงานของข้าพเจ้า
เข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการขายตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการ
ตามหนังสือดังกล่าว ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการได้
4. ดำเนินการให้ผู้ประกอบกิจการยินยอมให้เจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย
เข้าไปตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการ
ตามหนังสือดังกล่าว ณ สำนักงานของผู้ประกอบกิจการได้
อนึ่ง ข้าพเจ้าขอให้คำมั่นต่อธนาคารแห่งประเทศไทยว่าข้าพเจ้าจะไม่เพิกถอนความ
ยินยอมตามหนังสือนี้นกว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่
ขัดข้องในการที่ข้าพเจ้าจะเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ.........................
(.......................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ........................
แบบหนังสือขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึ่งเชื่อถือได้
ทำที่..................
วันที่.............................
เรียน อำนวยการ ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่.................เรื่อง...ขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการ
เงินแก่ผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้
ด้วย................(สถานบันการเงิน)..................ได้พิจารณาอนุมัติ
ให้ผู้ประกอบกิจการ จำนวน....................ราย เป็นผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้และ
สมควรให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.ฝกช. (22)
ว........................./2548 ลงวันที่ .........................เรื่อง การ
ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ตามรายชื่อและวงเงินแบบ
จึงเรียนมาเพื่อขอความเห็นชอบให้ความอนุเคราะห์ทางการเงินตามหนังสือดังกล่าว
แก่ผู้ประกอบกิจการข้างต้น
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ.........................
(.......................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ........................
1/ กรณีขอขายตั๋วสัญญาใช้เงินผ่านสำนักงานภาคของธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้เขียนถึงผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานภาคนั้นๆ
รายชื่อผู้ประกอบกิจการที่พึงเชื่อถือได้ แนบหนังสือที่.....ลงวันที่................
ลำดับ ชื่อย่อ รหัสสาขา คำนำ ชื่อ สถาน รหัส รหัสธุรกิจ1/ กิจกรรมทาง แรงงาน ขนาดสินทรัพย์ วงเงิน (บาท) เหตุผลในการ
ขอรับ
ที่ ธพ. ธพ. หน้าชื่อ ประกอบการ จังหวัด หลัก หมวด หมู่ย่อย เศรษฐกิจ (คน) (บาท) หนี้เดิม เงินทุนหมุนเวียน รวม ตามตั๋วฯ ธปท. ความช่วยเหลือ
ขอรับรองว่าถูกต้องตามความเป็นจริง
ลงลายมือชื่อ............................
(...........................)
ผู้มีอำนาจลงนาม...........................
เพื่อ............................
1/อนุโลมให้ใช้ตามประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่อง ประเภทวิสาหกิจ
ที่กำหนดให้ความอนุเคราะห์ตามระเบียบธนาคารแห่งประเทศไทยว่าด้วยการ
ให้กู้ยืมเงินที่เกิดจากการประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็น
ประกัน พ.ศ.2546
แบบตั๋วสัญญาใช้เงิน
อากรแสตมป์
ตั๋วสัญญาใช้เงิน
เลขที่............... .................................
(สถานที่ออกตั๋วฯ)
วันที่...................................
ในวันที่........ข้าพเจ้า............................................
สัญญาจะจ่ายเงิน..........บาท(........................................................)
และดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ.....ต่อปี แก่..............(สถาบันการเงิน).........................
ที่.........................
(ลายมือชื่อผู้ออกตั๋ว)..............
(.................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ....................
หนังสือนำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ทำที่..............
วันที่........................
เรียน ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ เรื่อง นำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ด้วยข้าพเจ้า.....(สถาบันการเงิน)....มีความประสงค์จะขายตั๋วสัญญาใช้เงินของ
ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ตามหนังสือธนาคารแห่งประเทศไทยที่ ธปท.ฝกช.(22)ว.
....../2548 ลงวันที่........................เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่
ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล จำนวน.....ฉบับ จำนวนเงิน................บาท
(.............................) ตามรายละเอียดแนบ (จำนวน...............หน้า)
ในการนี้ ข้าพเจ้าขอมอบอำนาจให้......................................
เป็นบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย
หากธนาคารแห่งประเทศไทยตกลงรับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินที่นำส่งแล้ว โปรดนำเงินเข้า
บัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยด้วย
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ.....................
(.........................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ.............................
ผู้ส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ลงลายมือชื่อ...................
(...................)
วันที่..........................
เอกสารแนบหนังสือนำส่งตั๋วสัญญาใช้เงิน
ธนาคาร.............ประจำวันที่............
ลำดับที่ เลขที่ตั๋วฯ รหัสผู้ออกตั๋ว ชื่อผู้ออกตั๋ว วันที่ออกตั๋ว วันถึงกำหนดใช้เงิน1/ จำนวนเงิน (บาท) อัตราดอกเบี้ย
ตามตั๋ว เงินของ ธปท. (% ต่อปี)
- - - - - - - - -
รวม------------
ขอรับรองว่าถูกต้องตามความเป็นจริง
ลงลายมือชื่อ....................
(...................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ......................
1/ ให้จัดเรียงลำดับตามวันถึงกำหนดใช้เงินก่อน
หนังสือขอชำระหนี้
ทำที่..............................
วันที่.............................
เรียน ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับการแลกเปลี่ยนเงินและสินเชื่อ
ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ เรื่อง ขอชำระหนี้
ด้วยข้าพเจ้า......(สถาบันการเงิน).....มีความประสงค์จะขอชำระ
หนี้ตามที่ได้ขายตั๋วสัญญาใช้เงินของผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล ตามหนังสือธนาคาร
แห่งประเทศไทย ที่ ธปท.ฝกช.(22)ว............/2548 ลงวันที่....................
เรื่อง การให้ ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการในจังหวัดสงขลาและสตูล
จำนวน.........ฉบับ เป็นเงิน..............บาท ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ลำดับที่ เลขที่ตั๋ว ผู้ออกตั๋ว จำนวนเงิน วันที่ขาย วันถึงกำหนดใช้เงิน
รหัส ชื่อ ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ขอชำระ
- - - - - - - -
จึงเรียนมาเพื่อโปรดหักเงินจากบัญชีเงินฝากของข้าพเจ้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
เพื่อชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้น
ขอแสดงความนับถือ
ลงลายมือชื่อ...........................
(..................................)
ผู้มีอำนาจลงนาม
เพื่อ.................................