วันนี้(30ก.ย.)เวลา 08.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสัมภาษณ์ในรายการข่าวยามเช้าถึงการจัดเวทีสาธารณะเรื่อง “นิติบัญญัติกับทางออกการครอบงำสื่อฯ”ว่าถือว่าเป็นเวทีที่เป็นประโยชน์ และฝ่ายค้านจะได้รวบรวมข้อคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อนำมาทำในเรื่องของการเสนอกฎหมายหรือว่าการดำเนินมาตรการอื่น ๆ ต่อไป
‘เราให้แนวทางว่าคณะกรรมการหรือวิปฝ่ายค้านนอกเหนือจากการดำเนินงานในเรื่องของการพิจารณาระเบียบวาระ การประชุมในสภา อยากให้ได้เอาประเด็นที่เป็นความสนใจในเรื่องของประเด็นสาธารณะเข้ามาจัดเวทีอย่างนี้มากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงการทำงานทางด้านนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นคราวหน้าก็จะมีการจัดรอบครั้งที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องการประเมินการใช้พรก. เพราะว่าใกล้จะครบ 90 วัน’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ต่อข้อถามที่ว่าขณะนี้มี กสช.7 คนขึ้นมาเ ข้าใจว่ากฎหมายประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ ยังไม่ถึงสภาใช่หรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นปัญหา เพราะว่า กสช. พึ่งจะมีการสรรหากัน และไม่ได้มีการแต่งตั้งขึ้นจริงแล้วกทช.กับกสช.ต้องทำงานร่วมกันก่อน เพื่อจะกำหนดเป็นแผนแม่บทในเรื่องของการจัดสรรคลื่นความถี่
‘ที่ผ่านมาเรามีแต่กทช.ไม่มี กสช.นั่นคือปัญหาหนึ่ง ส่วนที่สองก็คือว่าการสรรหากสช.จะวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เพราะเคยถูกระงับยับยั้งไว้ในศาลปกครองแล้วรอบหนึ่ง แล้วเที่ยวนี้ก็ค่อนข้างจะเห็นชัดว่ากรรมการสรรหาก็ยังมีการดำเนินการผิดซ้ำรอยเดิมอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็จะทำให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นว่าในที่สุดจะได้กสช.ที่มีความเป็นกลางปราศจากผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งกสช.ต้องพิสูจน์ตัวเอง ส่วนที่สามก็คือว่าระหว่างนี้ก็มีเรื่องยุ่ง ๆ อยู่เยอะไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยุชุมชน ซึ่งก็มีการตัดสินมีการเสนอกันไป โดยที่ยังไม่ได้มีกลไกหรือว่าหลักประกันครบถ้วนตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ต่อข้อถามว่าการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดใช้ได้แน่ๆ ในปลายปีนี้นี่เป็นการส่งสัญญาณที่เร็วเกินไปหรือไม่
นายอภิสิทิ์ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่เป็นการเปิดสนามบิน แต่เป็นการไปทดลอง และการตรวจสอบระบบต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อที่จะผลักดันในเรื่องที่จะให้เป็นศูนย์กลางในการบินต่อไป ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของนโยบายเกี่ยวกับเรื่องของน่านฟ้าเสรี แต่ว่าแน่นอนหน้าที่ของรัฐบาลและทุกฝ่ายก คือช่วยกันผลักดันให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
‘เมื่อวานที่มีการทดสอบ ผมมีความเข้าใจว่าเดิมนั่นคือขั้นตอนของการเปิดใช้ แต่ว่าเมื่อมีปัญหาขึ้นรัฐบาลก็อยากแสดงให้เห็นว่าก็พร้อมใช้งานในระดับหนึ่งก็เลย จัดเป็นการทดลองขึ้นมา แต่ก็เป็นที่น่าดีใจ เพราะมันเป็นโครงการที่รอคอยกันมานาน แล้วก็ต้องมีการทำงานอย่างต่อเนื่องพอสมควร ผมก็จำได้เมื่อ 11 ปีที่แล้วผมเป็นเลขาของท่านรองนายกฯศุภชัย ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ก็ต้องเดินทางไป แต่ในขณะนั้นต้องเจรจากับชาวบ้านเพื่อจะย้ายออก แม้กระทั่งมีวัดก็ต้องเดินทางไป แล้วก็เป็นเรื่องของการทำงานที่ต่อเนื่องมานานมาก เราก็หวังว่าในที่สุดก็จะได้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมา แต่ว่าก็ยังไม่ใช่การเปิด ไว้งานเปิดถ้าเขาเชิญผมก็คงจะไปร่วม’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า มี 2 เรื่องที่ตนอยากให้มีการเร่งรัดต่อเนื่อง 1. ปัญหาเรื่องน้ำ เพราะว่าการสร้างสนามบินทำให้เสียพื้นที่ชุ่มน้ำไป ลักษณะนี้ตนเห็นว่าควรมีโครงการเพื่อที่จะระบายน้ำ เพราะฉะนั้นจะทำให้พื้นที่รอบ ๆ อาจจะประสบกับปัญหาน้ำท่วม 2.การขนส่งมวลชน ควรมีการวางแผนให้อำนวยความสะดวกด้วย
‘ขณะนี้การทดสอบความพร้อมต่าง ๆก็ค่อนข้างจะราบรื่นแล้ว ผมก็เรียนว่าก็เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลให้มาสะสางปัญหาการทุจริต เพราะว่าบางทีมีคนเอาไปปนกันแล้วมีคู่หูออกโทรทัศน์บิดเบือนคำพูดผม กล่าวหาผมต่างๆ นานา ผมก็ยังขำอยู่ว่าตั้งใจฟังหรือเปล่าหรือว่าแกล้งบิดเบือนคำพูด เพราะว่าที่ผมพูดเรื่องของซีทีเอ็ก เป็นจริงทุกประการ และยืนยันโดยเหตุการณ์ที่ผ่านมา รวมทั้งกลบเกลื่อนด้วยการโก่งราคาเดิมไว้’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ก.ย. 2548--จบ--
‘เราให้แนวทางว่าคณะกรรมการหรือวิปฝ่ายค้านนอกเหนือจากการดำเนินงานในเรื่องของการพิจารณาระเบียบวาระ การประชุมในสภา อยากให้ได้เอาประเด็นที่เป็นความสนใจในเรื่องของประเด็นสาธารณะเข้ามาจัดเวทีอย่างนี้มากขึ้น เพื่อเชื่อมโยงการทำงานทางด้านนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นคราวหน้าก็จะมีการจัดรอบครั้งที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องการประเมินการใช้พรก. เพราะว่าใกล้จะครบ 90 วัน’ นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ต่อข้อถามที่ว่าขณะนี้มี กสช.7 คนขึ้นมาเ ข้าใจว่ากฎหมายประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ ยังไม่ถึงสภาใช่หรือไม่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เป็นปัญหา เพราะว่า กสช. พึ่งจะมีการสรรหากัน และไม่ได้มีการแต่งตั้งขึ้นจริงแล้วกทช.กับกสช.ต้องทำงานร่วมกันก่อน เพื่อจะกำหนดเป็นแผนแม่บทในเรื่องของการจัดสรรคลื่นความถี่
‘ที่ผ่านมาเรามีแต่กทช.ไม่มี กสช.นั่นคือปัญหาหนึ่ง ส่วนที่สองก็คือว่าการสรรหากสช.จะวิพากษ์วิจารณ์กันมาก เพราะเคยถูกระงับยับยั้งไว้ในศาลปกครองแล้วรอบหนึ่ง แล้วเที่ยวนี้ก็ค่อนข้างจะเห็นชัดว่ากรรมการสรรหาก็ยังมีการดำเนินการผิดซ้ำรอยเดิมอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็จะทำให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นว่าในที่สุดจะได้กสช.ที่มีความเป็นกลางปราศจากผลประโยชน์หรือไม่ ซึ่งกสช.ต้องพิสูจน์ตัวเอง ส่วนที่สามก็คือว่าระหว่างนี้ก็มีเรื่องยุ่ง ๆ อยู่เยอะไม่ว่าจะเป็นเรื่องวิทยุชุมชน ซึ่งก็มีการตัดสินมีการเสนอกันไป โดยที่ยังไม่ได้มีกลไกหรือว่าหลักประกันครบถ้วนตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ต่อข้อถามว่าการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิดใช้ได้แน่ๆ ในปลายปีนี้นี่เป็นการส่งสัญญาณที่เร็วเกินไปหรือไม่
นายอภิสิทิ์ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่เป็นการเปิดสนามบิน แต่เป็นการไปทดลอง และการตรวจสอบระบบต่าง ๆ ให้ครบถ้วน เพื่อที่จะผลักดันในเรื่องที่จะให้เป็นศูนย์กลางในการบินต่อไป ซึ่งรวมไปถึงเรื่องของนโยบายเกี่ยวกับเรื่องของน่านฟ้าเสรี แต่ว่าแน่นอนหน้าที่ของรัฐบาลและทุกฝ่ายก คือช่วยกันผลักดันให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
‘เมื่อวานที่มีการทดสอบ ผมมีความเข้าใจว่าเดิมนั่นคือขั้นตอนของการเปิดใช้ แต่ว่าเมื่อมีปัญหาขึ้นรัฐบาลก็อยากแสดงให้เห็นว่าก็พร้อมใช้งานในระดับหนึ่งก็เลย จัดเป็นการทดลองขึ้นมา แต่ก็เป็นที่น่าดีใจ เพราะมันเป็นโครงการที่รอคอยกันมานาน แล้วก็ต้องมีการทำงานอย่างต่อเนื่องพอสมควร ผมก็จำได้เมื่อ 11 ปีที่แล้วผมเป็นเลขาของท่านรองนายกฯศุภชัย ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้ก็ต้องเดินทางไป แต่ในขณะนั้นต้องเจรจากับชาวบ้านเพื่อจะย้ายออก แม้กระทั่งมีวัดก็ต้องเดินทางไป แล้วก็เป็นเรื่องของการทำงานที่ต่อเนื่องมานานมาก เราก็หวังว่าในที่สุดก็จะได้เกิดสิ่งนี้ขึ้นมา แต่ว่าก็ยังไม่ใช่การเปิด ไว้งานเปิดถ้าเขาเชิญผมก็คงจะไปร่วม’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า มี 2 เรื่องที่ตนอยากให้มีการเร่งรัดต่อเนื่อง 1. ปัญหาเรื่องน้ำ เพราะว่าการสร้างสนามบินทำให้เสียพื้นที่ชุ่มน้ำไป ลักษณะนี้ตนเห็นว่าควรมีโครงการเพื่อที่จะระบายน้ำ เพราะฉะนั้นจะทำให้พื้นที่รอบ ๆ อาจจะประสบกับปัญหาน้ำท่วม 2.การขนส่งมวลชน ควรมีการวางแผนให้อำนวยความสะดวกด้วย
‘ขณะนี้การทดสอบความพร้อมต่าง ๆก็ค่อนข้างจะราบรื่นแล้ว ผมก็เรียนว่าก็เป็นโอกาสดีที่รัฐบาลให้มาสะสางปัญหาการทุจริต เพราะว่าบางทีมีคนเอาไปปนกันแล้วมีคู่หูออกโทรทัศน์บิดเบือนคำพูดผม กล่าวหาผมต่างๆ นานา ผมก็ยังขำอยู่ว่าตั้งใจฟังหรือเปล่าหรือว่าแกล้งบิดเบือนคำพูด เพราะว่าที่ผมพูดเรื่องของซีทีเอ็ก เป็นจริงทุกประการ และยืนยันโดยเหตุการณ์ที่ผ่านมา รวมทั้งกลบเกลื่อนด้วยการโก่งราคาเดิมไว้’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 30 ก.ย. 2548--จบ--