อนาคตข้าวไทยในเกาหลี

          นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า  เกาหลีได้เจรจากับประเทศคู่ค้า 9 ประเทศ คือ จีน  สหรัฐฯ  ไทย  ออสเตรเลีย  แคนาดา  อินเดีย  ปากีสถาน  อาร์เจนตินา  และ อียิปต์  เพื่อขอต่ออายุข้อยกเว้นจาก WTO ออกไปอีก 10 ปี (2548-2557)  ที่จะจำกัดปริมาณการนำเข้าข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวไว้สูงสุดแค่ ร้อยละ 4 ของปริมาณการบริโภคภายในประเทศหรือ 205,228 ตัน  
          นางอภิรดี  กล่าวต่อว่า ไทยได้เจรจากับเกาหลีเป็นเวลา 8 เดือน เพื่อเปิดตลาดข้าว  โดยเน้นการส่งออกข้าวคุณภาพดี / ข้าวหอมมะลิ  หลังจากที่ผ่านมาเกาหลีจะนำเข้าข้าวเมล็ดสั้น   เมล็ดกลางเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งการเจรจาครั้งนี้ทำให้เกาหลีนำเข้าข้าวมากขึ้น จาก 205,228 ตันในปี 2547 เป็น 408,700 ตัน ในปี 2557 หรือคิดเป็นร้อยละ 7.96 ของปริมาณการบริโภคภายในประเทศทั้งหมด   โดยไทยจะได้ส่วนแบ่งโควตาอย่างต่ำปีละ 29,960 ตัน  และเกาหลีตกลงที่จะขายข้าวโดยตรงแก่ผู้บริโภคได้ร้อยละ 10 ในปีแรกและเพิ่มเป็นร้อยละ 30 ในปีที่ 6  จากมาตรการเดิมที่ข้าวนำเข้าทั้งหมดถูกนำไปใช้ในโรงงานแปรรูปเท่านั้น  จึงทำให้ผู้บริโภคเกาหลีไม่มีโอกาสได้คุ้นเคยกับข้าวคุณภาพสูงจากไทย
          นางอภิรดี กล่าวเพิ่มอีกว่า  ผลของการเจรจาครั้งนี้  ไทยได้ปริมาณโควตารวมที่เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าของปริมาณโควตาปัจจุบัน  และปริมาณโควตารายประเทศที่จัดสรรให้แก่ไทยเกือบ 30,000 ตัน ซึ่งมากกว่าปริมาณข้าวสารที่ไทยส่งออกไปเกาหลีที่มีประมาณปีละ 20,000 — 25,000 ตัน  นอกจากนั้นยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเกาหลีได้ทดลองบริโภคข้าวคุณภาพ/ ข้าวหอมมะลิของไทย  ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเกาหลีมากขึ้น  เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเกาหลีเดินทางมาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และมีความนิยมในการบริโภคอาหารไทย รวมทั้ง ข้าวหอมมะลิไทยมากขึ้น 
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-