กรุงเทพ--20 พ.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง อาทิ กรมตำรวจ บริษัทเอกชน และธนาคาร ร้องขอให้ตรวจสอบหรือยืนยันความถูกต้องของเอกสารที่อ้างว่าส่งมาจากสมุหบัญชีของบรรษัทปิโตรเลียมแห่งไนจีเรีย (Nigerian National Petrolium Corporation) หรือ สมุหบัญชีของกระทรวงการคลัง หรือ หน่วยงานอื่นๆ ของทางการไนจีเรีย โดยอ้างว่าตรวจพบมีเงินนอกบัญชีจำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถโอนไปต่างประเทศได้จึงต้องการผู้ร่วมมือในการโอนเงินเหล่านี้ออกจากไนจีเรีย และขอให้ หมายเลขบัญชีของบริษัทหรือองค์กรในประเทศไทยเพื่อการโอนเงินนี้ โดยผู้ร่วมมือจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินร้อยละ 30 หรือตามที่กำหนด แต่จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการโอนซึ่งอาจจะประมาณร้อยละ 10 ของเงินก้อนใหญ่ และต่อมาผู้ส่งฝ่ายไนจีเรียก็จะเรียกร้องให้หุ้นส่วนจากประเทศไทยจ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการโอน นั้น
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ากรณีดังกล่าวเป็นขบวนการหลอกลวงข้ามชาติโดยมักจะแอบอ้างธนาคารกลางไนจีเรีย หรือ บรรษัทปิโตรเลียมแห่งไนจีเรีย ซึ่งธนาคารกลางไนจีเรียได้ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับหนึ่งของไทยเตือนสาธารณชนทั้งหลายอย่างได้หลงเชื่อคำชวนเชิญของขบวนการหลอกลวงข้ามชาติเหล่านี้ด้วยแล้ว เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมามีผู้ถูกหลอกลวงและเสียเงินมามากมาย โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2541 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ก็ได้รับจดหมายติดต่อจากบรรษัทฯ ในลักษณะดังกล่าวเช่นกันด้วยและได้รายงานความไม่ชอบมาพากลดังกล่าวให้กระทรวงฯ ทราบแล้ว
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2541 กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้รับแจ้งจากองค์กรเอกชน (NGOs) ของไทยหลายแห่งว่า มักได้รับโทรสารจากผู้อ้างตนว่าเป็นสมุหบัญชีของบรรษัทปิโตรเลียมแห่งไนจีเรียด้วยเช่นกัน แต่ก็มิได้หลงเชื่อหรือติดต่อกับผู้อ้างตนดังกล่าว
กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนนักธุรกิจและประชาชนไทยว่าหากได้รับเอกสารทำนองนี้ก็โปรดอย่าได้หลงเชื่อว่าจะมีโอกาสหรือช่องทางหาเงินได้ตามคำหลอกลวงดังกล่าว โดยเฉพาะภาวะปัญหาเศรษฐกิจที่ไทยกำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้มีผู้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อคำเชิญชวนของขบวนการหลอกลวงข้ามชาติเหล่านี้ได้ง่าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนหลายแห่ง อาทิ กรมตำรวจ บริษัทเอกชน และธนาคาร ร้องขอให้ตรวจสอบหรือยืนยันความถูกต้องของเอกสารที่อ้างว่าส่งมาจากสมุหบัญชีของบรรษัทปิโตรเลียมแห่งไนจีเรีย (Nigerian National Petrolium Corporation) หรือ สมุหบัญชีของกระทรวงการคลัง หรือ หน่วยงานอื่นๆ ของทางการไนจีเรีย โดยอ้างว่าตรวจพบมีเงินนอกบัญชีจำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถโอนไปต่างประเทศได้จึงต้องการผู้ร่วมมือในการโอนเงินเหล่านี้ออกจากไนจีเรีย และขอให้ หมายเลขบัญชีของบริษัทหรือองค์กรในประเทศไทยเพื่อการโอนเงินนี้ โดยผู้ร่วมมือจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินร้อยละ 30 หรือตามที่กำหนด แต่จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการโอนซึ่งอาจจะประมาณร้อยละ 10 ของเงินก้อนใหญ่ และต่อมาผู้ส่งฝ่ายไนจีเรียก็จะเรียกร้องให้หุ้นส่วนจากประเทศไทยจ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการโอน นั้น
ในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ากรณีดังกล่าวเป็นขบวนการหลอกลวงข้ามชาติโดยมักจะแอบอ้างธนาคารกลางไนจีเรีย หรือ บรรษัทปิโตรเลียมแห่งไนจีเรีย ซึ่งธนาคารกลางไนจีเรียได้ลงประกาศในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษฉบับหนึ่งของไทยเตือนสาธารณชนทั้งหลายอย่างได้หลงเชื่อคำชวนเชิญของขบวนการหลอกลวงข้ามชาติเหล่านี้ด้วยแล้ว เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมามีผู้ถูกหลอกลวงและเสียเงินมามากมาย โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม 2541 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน ก็ได้รับจดหมายติดต่อจากบรรษัทฯ ในลักษณะดังกล่าวเช่นกันด้วยและได้รายงานความไม่ชอบมาพากลดังกล่าวให้กระทรวงฯ ทราบแล้ว
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2541 กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศก็ได้รับแจ้งจากองค์กรเอกชน (NGOs) ของไทยหลายแห่งว่า มักได้รับโทรสารจากผู้อ้างตนว่าเป็นสมุหบัญชีของบรรษัทปิโตรเลียมแห่งไนจีเรียด้วยเช่นกัน แต่ก็มิได้หลงเชื่อหรือติดต่อกับผู้อ้างตนดังกล่าว
กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอประชาสัมพันธ์เตือนนักธุรกิจและประชาชนไทยว่าหากได้รับเอกสารทำนองนี้ก็โปรดอย่าได้หลงเชื่อว่าจะมีโอกาสหรือช่องทางหาเงินได้ตามคำหลอกลวงดังกล่าว โดยเฉพาะภาวะปัญหาเศรษฐกิจที่ไทยกำลังประสบอยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้มีผู้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อคำเชิญชวนของขบวนการหลอกลวงข้ามชาติเหล่านี้ได้ง่าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--