เมื่อเวลา 11.20 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายเกียรติ สิทธีอมร และ มล.อภิมงคล โสณกุล เดินทางไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขอรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดหาวัสดุอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (CTX 9000) จากนายไพโรจน์ อาจรักษา หัวหน้ากลุ่มงานอุทธรณ์การลงโทษ สำนักกฎหมายและระเบียบกลาง
จากนั้นนายองอาจเปิดเผยว่า ไม่ค่อยตรงตามที่นายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้บอกไว้ และค่อนข้างที่จะพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง ครั้งที่แล้วก็บอกว่าต้องยกเลิกชั้นความลับก่อน พอวันนี้เอกสารที่ได้รับที่รัฐบาลบอกว่าได้ยกเลิกชั้นความลับแล้วนั้น มีไม่เท่าไหร่ ส่วนเอกสารที่รัฐบาลบอกว่าเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากเป็นความลับ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของบุคคลต่างๆ จึงเปิดเผยไม่ได้ แต่ให้ดูได้ ซึ่งเมื่อตนขอดูก็บอกว่าไม่มี ต้องไปขอที่กระทรวงคมนาคม อย่างไรก็ตามตนจะติดต่อเพื่อขอข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมต่อไปซึ่งตนคิดว่าวิธีการของรัฐบาลที่พยายามโยกโย้ในเรื่องของผลการสอบสวนเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และที่สำคัญก่อนที่จะเดินทางมา ก็ได้เปิดเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เพื่อดูข้อมูลที่นายวิษณุ บอกว่าเอกสารส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์จะลงประกาศในเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ปรากฏว่ายังไม่มีข้อมูลแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ค่อยจริงใจที่จะค้นหาการทุจริตการซื้อเครื่องตรวจระเบิด CTX 9000
“เราจะต้องติดตามต่อไป ผมก็จะติดต่อไปที่กระทรวงคมนาคม เพราะรัฐบาลแถลงชัดเจนว่าพร้อมที่จะให้เอกสาร 800 หน้า แต่อาจมีบางส่วนที่ให้ไม่ได้ เพราะเป็นคำให้การ คำชี้แจง ซึ่งให้ไปดูเฉยๆ แต่ไม่ให้เอาออกนอกสถานที่ และบอกจะลงเวปไซต์ก็ไม่ลง ผมคิดว่าทั้งหมดนี่คือความไม่ชอบมาพากลของความพยายามของรัฐบาลที่จะปกปิดเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่ควรปกปิดความจริง ควรจะเอาความจริงเปิดเผยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าอะไรเป็นอะไร” นายองอาจกล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม บอกว่าท่านเป็นรัฐมนตรี ดูเฉพาะนโยบายและหลักการกว้างๆไม่ได้ดูรายละเอียดในเรื่องการจัดซื้อนั้น ตนคิดว่าการเป็น รมว.คมนาคม มีภาระหน้าที่ทั้งตามกฎหมายและตามความรับผิดชอบโดยตรงกับการบริหารงานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นเมื่อกระทรวงคมนาคมดูแลการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ รัฐมนตรีสุริยะจะปฏิเสธความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้ และจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เต็มที่ ซึ่งตนเห็นว่าการที่นายสุริยะออกมาพูดเรื่องนี้ คงเพราะหวั่นไหวต่อการอภิปราย จึงพยายามที่จะปัดเรื่องนี้ออกจากตัว โดยอ้างว่ารับผิดชอบเฉพาะในเรื่องของหลักการเท่านั้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายสุริยะอ้างว่าต้องการนำเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ทันสมัยมาใช้ ทำไมต้องมาตรวจสอบในเรื่องนี้ ตนคิดว่าจะเอาเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ทันสมัยมาใช้ไม่มีใครว่า แต่ไม่ควรปล่อยให้การทุจริตที่ทันสมัยเกิดขึ้นในประเทศไทย คือเป็นการทุจริตข้ามชาติ มีการร่วมมือกันหลายระดับตั้งแต่ผู้นำหลายระดับในประเทศไทย กับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นการตรวจสอบเป็นเรื่องที่เราพยายามทำหน้าที่ของเรา ไม่ใช่จะขัดขวางการซื้อเครื่องที่ทันสมัย เรายินดีและอยากจะเห็นเครื่องตรวจจับระเบิดที่ทันสมัย แต่ต้องเป็นเครื่องที่ซื้ออย่างโปร่งใส ไม่ใช่มีการกล่าวหาว่ามีการทุจริตกันออกไปทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะจะจัดทำสมุดปกขาวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ตนคิดว่าถึงแม้จะชื่อสมุดปกขาว แต่คงไม่สามารถฟอกเรื่องทุจริตซีทีเอ็กซ์ได้ เพราะเรื่องนี้กลายเป็นสีดำ ที่ยากต่อการฟอกให้ขาวเหมือนปกสมุดที่จะจัดทำขึ้น เพราะข้อมูลต่างๆ ที่นายสุริยะพยายามชี้แจง เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยความจริงเรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่าข้อมูลของฝ่ายค้านขณะนี้เพียงพอที่จะอภิปรายหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลบอกให้มาเอาข้อมูล เราก็ต้องมาเอาให้มากที่สุด ซึ่งจะต้องดูว่าข้อมูลที่เรามีตรงกับที่รัฐบาลมีหรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 มิ.ย. 2548--จบ--
จากนั้นนายองอาจเปิดเผยว่า ไม่ค่อยตรงตามที่นายกรัฐมนตรีและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้บอกไว้ และค่อนข้างที่จะพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง ครั้งที่แล้วก็บอกว่าต้องยกเลิกชั้นความลับก่อน พอวันนี้เอกสารที่ได้รับที่รัฐบาลบอกว่าได้ยกเลิกชั้นความลับแล้วนั้น มีไม่เท่าไหร่ ส่วนเอกสารที่รัฐบาลบอกว่าเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากเป็นความลับ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสอบสวนของบุคคลต่างๆ จึงเปิดเผยไม่ได้ แต่ให้ดูได้ ซึ่งเมื่อตนขอดูก็บอกว่าไม่มี ต้องไปขอที่กระทรวงคมนาคม อย่างไรก็ตามตนจะติดต่อเพื่อขอข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมต่อไปซึ่งตนคิดว่าวิธีการของรัฐบาลที่พยายามโยกโย้ในเรื่องของผลการสอบสวนเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และที่สำคัญก่อนที่จะเดินทางมา ก็ได้เปิดเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ เพื่อดูข้อมูลที่นายวิษณุ บอกว่าเอกสารส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์จะลงประกาศในเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ปรากฏว่ายังไม่มีข้อมูลแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ค่อยจริงใจที่จะค้นหาการทุจริตการซื้อเครื่องตรวจระเบิด CTX 9000
“เราจะต้องติดตามต่อไป ผมก็จะติดต่อไปที่กระทรวงคมนาคม เพราะรัฐบาลแถลงชัดเจนว่าพร้อมที่จะให้เอกสาร 800 หน้า แต่อาจมีบางส่วนที่ให้ไม่ได้ เพราะเป็นคำให้การ คำชี้แจง ซึ่งให้ไปดูเฉยๆ แต่ไม่ให้เอาออกนอกสถานที่ และบอกจะลงเวปไซต์ก็ไม่ลง ผมคิดว่าทั้งหมดนี่คือความไม่ชอบมาพากลของความพยายามของรัฐบาลที่จะปกปิดเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่ควรปกปิดความจริง ควรจะเอาความจริงเปิดเผยให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าอะไรเป็นอะไร” นายองอาจกล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม บอกว่าท่านเป็นรัฐมนตรี ดูเฉพาะนโยบายและหลักการกว้างๆไม่ได้ดูรายละเอียดในเรื่องการจัดซื้อนั้น ตนคิดว่าการเป็น รมว.คมนาคม มีภาระหน้าที่ทั้งตามกฎหมายและตามความรับผิดชอบโดยตรงกับการบริหารงานของกระทรวงคมนาคม ดังนั้นเมื่อกระทรวงคมนาคมดูแลการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ รัฐมนตรีสุริยะจะปฏิเสธความรับผิดชอบตรงนี้ไม่ได้ และจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เต็มที่ ซึ่งตนเห็นว่าการที่นายสุริยะออกมาพูดเรื่องนี้ คงเพราะหวั่นไหวต่อการอภิปราย จึงพยายามที่จะปัดเรื่องนี้ออกจากตัว โดยอ้างว่ารับผิดชอบเฉพาะในเรื่องของหลักการเท่านั้น
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่นายสุริยะอ้างว่าต้องการนำเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ทันสมัยมาใช้ ทำไมต้องมาตรวจสอบในเรื่องนี้ ตนคิดว่าจะเอาเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดที่ทันสมัยมาใช้ไม่มีใครว่า แต่ไม่ควรปล่อยให้การทุจริตที่ทันสมัยเกิดขึ้นในประเทศไทย คือเป็นการทุจริตข้ามชาติ มีการร่วมมือกันหลายระดับตั้งแต่ผู้นำหลายระดับในประเทศไทย กับนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นการตรวจสอบเป็นเรื่องที่เราพยายามทำหน้าที่ของเรา ไม่ใช่จะขัดขวางการซื้อเครื่องที่ทันสมัย เรายินดีและอยากจะเห็นเครื่องตรวจจับระเบิดที่ทันสมัย แต่ต้องเป็นเครื่องที่ซื้ออย่างโปร่งใส ไม่ใช่มีการกล่าวหาว่ามีการทุจริตกันออกไปทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
นายองอาจ กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะจะจัดทำสมุดปกขาวชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ตนคิดว่าถึงแม้จะชื่อสมุดปกขาว แต่คงไม่สามารถฟอกเรื่องทุจริตซีทีเอ็กซ์ได้ เพราะเรื่องนี้กลายเป็นสีดำ ที่ยากต่อการฟอกให้ขาวเหมือนปกสมุดที่จะจัดทำขึ้น เพราะข้อมูลต่างๆ ที่นายสุริยะพยายามชี้แจง เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยความจริงเรื่องนี้ได้
เมื่อถามว่าข้อมูลของฝ่ายค้านขณะนี้เพียงพอที่จะอภิปรายหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลบอกให้มาเอาข้อมูล เราก็ต้องมาเอาให้มากที่สุด ซึ่งจะต้องดูว่าข้อมูลที่เรามีตรงกับที่รัฐบาลมีหรือไม่
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 16 มิ.ย. 2548--จบ--