กรุงเทพ--18 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมประจำปีคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคม สำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ครั้งที่ 61 ที่อาคารสหประชาชาติ และภายหลังพิธีเปิดการประชุมเสร็จสิ้นลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับนาย Mustafa Muhamed รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย และ นาย Shen Guofang ผู้ช่วย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน ตามลำดับ และภายหลังการหารือ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสรุปได้ดังนี้
1. การหารือกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย การหารือระหว่างสองฝ่ายมีประโยชน์มาก เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดจะเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มิถุนายน 2548 ซึ่งจะมีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการกับดาโต๊ะ ซรี อับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศของมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปจังหวัดทางภาคเหนือของมาเลเซียซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศไทย โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะช่วยนัดหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับผู้นำท้องถิ่นในมาเลเซียเพื่อให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความสำคัญของการที่ไทยกับมาเลเซียจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น โดยในส่วนชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าควรจะมี การสร้างสะพานเชื่อมเพิ่มเติมเพื่อให้การเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างชาวไทยกับชาวมาเลเซียมี มากขึ้น
2. การหารือกับผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน
2.1 ความร่วมมือในภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีกระหว่างไทย-จีนที่กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือในกรอบ ACD และ ASEAN+3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก (East Asia Summit) ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งอินเดียมีท่าทีว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะต้องมีคุณสมบัติสามประการ คือ ต้องเป็นคู่เจรจากับประเทศในกลุ่มอาเซียน ต้องมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับประเทศในกลุ่ม อาเซียน และต้องมีข้อตกลงความร่วมมือและมิตรภาพ (Treaty Amity and Cooperation - TAC) กับประเทศในกลุ่มอาเซียน
2.2 การปฏิรูปสหประชาติ
ในเรื่องการปฏิรูปสหประชาชาติ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง การพัฒนา ความมั่นคง และการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งจะต้องมีการหารือ ในกรอบสหประชาชาติต่อไปเนื่องจากยังมีความคิดเห็นที่หลากหลายในประเด็นนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แสดงความขอบคุณฝ่ายจีนอีกครั้งหนึ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประกาศให้การสนับสนุนดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายก รัฐมนตรีในการสมัครเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติในระหว่างการประชุม ASEM ระดับรัฐมนตรีที่เกียวโตที่ผ่านมาด้วย
3. ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ UNCTAD รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการที่ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ UNCTAD ว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการที่จะให้คนไทยที่มีความสามารถได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์การระหว่างประเทศ และได้แจ้งข้อสังเกตต่อ ดร.ศุภชัยฯ ว่า UNCTAD ซึ่งเกิดขึ้นจากกลุ่มประเทศ 77 ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในเวทีเศรษฐกิจโลกให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา การที่ ดร.ศุภชัยฯ เคยมีประสบการณ์การทำงานในองค์กรการค้าโลก (WTO) มาก่อน น่าจะ สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างโลกยุคโลกาภิวัตน์เพื่อเพิ่มบทบาทและความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้ได้ ซึ่ง ดร.ศุภชัยฯ ก็เห็นด้วยและแจ้งว่า เลขาธิการสหประชาชาติคนปัจจุบันคือ นายโคฟี อันนัน ก็ได้เคยหารือในประเด็นนี้กับ
ดร. ศุภชัยฯ มาก่อนเช่นกัน
4. ตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นเกี่ยวกับข่าวการทุจริตในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นอุปสรรคต่อการสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของดร.สุรเกียร์ติ์ฯ หรือไม่ว่า ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากไทยมีการประสาน งานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ อยู่แล้ว โดยไทยยึดหลักความโปร่งใสและข้อเท็จจริงเป็นหลัก และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องประสานงานผ่านองค์การสหประชาชาติ
5. การระเบิดที่กรุงย่างกุ้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายงานข่าวเรื่องรัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารพม่าได้กล่าวพาดพิงถึงประเทศไทยว่า มีการใช้ดินแดนของไทยในการฝึกฝนผู้วางระเบิดว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจากฝ่ายพม่าในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานงานติดต่อกับฝ่ายพม่าอย่างใกล้ชิดแล้ว ในชั้นนี้จึงยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2548 ดร. กันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมในพิธีเปิดการประชุมประจำปีคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคม สำหรับเอเชียและแปซิฟิก (ESCAP) ครั้งที่ 61 ที่อาคารสหประชาชาติ และภายหลังพิธีเปิดการประชุมเสร็จสิ้นลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบหารือกับนาย Mustafa Muhamed รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย และ นาย Shen Guofang ผู้ช่วย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน ตามลำดับ และภายหลังการหารือ รัฐมนตรีว่าการฯ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสรุปได้ดังนี้
1. การหารือกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย การหารือระหว่างสองฝ่ายมีประโยชน์มาก เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการฯ มีกำหนดจะเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 มิถุนายน 2548 ซึ่งจะมีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการกับดาโต๊ะ ซรี อับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และ ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และจะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศของมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปจังหวัดทางภาคเหนือของมาเลเซียซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศไทย โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะช่วยนัดหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้พบปะกับผู้นำท้องถิ่นในมาเลเซียเพื่อให้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงความสำคัญของการที่ไทยกับมาเลเซียจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น โดยในส่วนชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าควรจะมี การสร้างสะพานเชื่อมเพิ่มเติมเพื่อให้การเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างชาวไทยกับชาวมาเลเซียมี มากขึ้น
2. การหารือกับผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน
2.1 ความร่วมมือในภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีกระหว่างไทย-จีนที่กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องความร่วมมือในกรอบ ACD และ ASEAN+3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรื่องการประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก (East Asia Summit) ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งอินเดียมีท่าทีว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย ส่วนออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณา โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะต้องมีคุณสมบัติสามประการ คือ ต้องเป็นคู่เจรจากับประเทศในกลุ่มอาเซียน ต้องมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับประเทศในกลุ่ม อาเซียน และต้องมีข้อตกลงความร่วมมือและมิตรภาพ (Treaty Amity and Cooperation - TAC) กับประเทศในกลุ่มอาเซียน
2.2 การปฏิรูปสหประชาติ
ในเรื่องการปฏิรูปสหประชาชาติ ทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง การพัฒนา ความมั่นคง และการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งจะต้องมีการหารือ ในกรอบสหประชาชาติต่อไปเนื่องจากยังมีความคิดเห็นที่หลากหลายในประเด็นนี้ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้แสดงความขอบคุณฝ่ายจีนอีกครั้งหนึ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ประกาศให้การสนับสนุนดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายก รัฐมนตรีในการสมัครเข้าดำรงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติในระหว่างการประชุม ASEM ระดับรัฐมนตรีที่เกียวโตที่ผ่านมาด้วย
3. ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ UNCTAD รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับการที่ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ UNCTAD ว่า รัฐบาลไทยสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการที่จะให้คนไทยที่มีความสามารถได้มีโอกาสดำรงตำแหน่งสำคัญในองค์การระหว่างประเทศ และได้แจ้งข้อสังเกตต่อ ดร.ศุภชัยฯ ว่า UNCTAD ซึ่งเกิดขึ้นจากกลุ่มประเทศ 77 ต้องการเรียกร้องความยุติธรรมในเวทีเศรษฐกิจโลกให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา การที่ ดร.ศุภชัยฯ เคยมีประสบการณ์การทำงานในองค์กรการค้าโลก (WTO) มาก่อน น่าจะ สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างโลกยุคโลกาภิวัตน์เพื่อเพิ่มบทบาทและความเป็นธรรมให้แก่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้ได้ ซึ่ง ดร.ศุภชัยฯ ก็เห็นด้วยและแจ้งว่า เลขาธิการสหประชาชาติคนปัจจุบันคือ นายโคฟี อันนัน ก็ได้เคยหารือในประเด็นนี้กับ
ดร. ศุภชัยฯ มาก่อนเช่นกัน
4. ตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นเกี่ยวกับข่าวการทุจริตในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นอุปสรรคต่อการสมัครชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติของดร.สุรเกียร์ติ์ฯ หรือไม่ว่า ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากไทยมีการประสาน งานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ อยู่แล้ว โดยไทยยึดหลักความโปร่งใสและข้อเท็จจริงเป็นหลัก และเรื่องนี้ก็ไม่จำเป็นต้องประสานงานผ่านองค์การสหประชาชาติ
5. การระเบิดที่กรุงย่างกุ้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายงานข่าวเรื่องรัฐมนตรีกระทรวงข่าวสารพม่าได้กล่าวพาดพิงถึงประเทศไทยว่า มีการใช้ดินแดนของไทยในการฝึกฝนผู้วางระเบิดว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจากฝ่ายพม่าในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ได้มีการประสานงานติดต่อกับฝ่ายพม่าอย่างใกล้ชิดแล้ว ในชั้นนี้จึงยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5105 โทรสาร. 643-5106-7 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--
-พห-