โฆษกปชป.’ จับผิด ‘เลขาปปง.’ เพิ่งปูดข้อมูลไม่สอบเส้นทางการเงินกลุ่มพัวพันซีทีเอ็กซ์ตอนใกล้อภิปรายฯ ทั้งที่ยื่นเรื่องไปนานแล้วแต่นิ่งเฉย พร้อมตั้งคำถามองค์กรฟอกเงินหรือฟอกคนกันแน่
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.พีระพันธ์ เปรมภูติ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง. )ออกมาระบุว่าไม่พบหลักฐานการทุจริตในโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับระเบิดซีทีเอ็กซ์ และคณะกรรมการธุรกรรม ไม่อนุมัติให้เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยระบุว่าให้ระบุชี้ชัดว่ามีการทุจริตเสียก่อน โดยอ้างว่าขณะนี้ไม่มีข้อมูลว่ามีการทุจริตซีทีเอ็กซ์ว่า ทางพรรคเห็นว่า ทำไมเลขาปปง.เพิ่งจะออกมาแถลงข้อมูลเรื่องนี้ ทั้งที่ได้มีการทำเรื่องขอให้คณะกรรมการธุรกรรมอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. แล้ว และคณะกรรมการธุรกรรมก็ไม่อนุมัติมาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ดังนั้นพรรคจึงขอตั้งคำถามว่าทำไมจึงเพิ่งออกมาแถลงโครงการซีทีเอ็กซ์ก่อนหน้าที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องนี้ถือว่าผิดปกติอย่างยิ่งเพราะก่อนหน้านี้ปปง.ก็นิ่งเฉยทั้งที่มีคนเคยร้องเรียนให้เข้าไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามพรรคเห็นว่าปปง.มีหน้าที่ตรวจสอบการฟอกเงินไม่ใช่ไปตรวจสอบการทุจริตหากปปง.ทำงานตามภาระหน้าที่เหมือนที่ผ่านมาในอดีตเช่นได้รับบัตรสนเท่ แล้วไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของนักหนังสือพิมพ์ก็ยังทำได้ แต่นี่ข่าวการทุจริตออกไปใหญ่โต ปปง.กลับไม่ไปตรวจสอบ และพอยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมการธุรกรรมของปปง.ก็กลับบอกว่าไม่อนุมัติให้ตรวจสอบเพราะยังไม่มีการทุจริต
“พรรคประชาธิปัตย์ไม่แน่ใจว่าปปง.เป็นองค์กรที่จะฟอกเงินหรือฟอกคนกันแน่ หรือเป็นองค์กรที่เข้าไปใช้เพื่อปราบปรามพวกที่จะฟอกเงิน แต่ผมคิดว่าขณะนี้กำลังเป็นองค์กรที่ช่วยฟอกคนผิดให้เป็นคนถูก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งและที่สำคัญคือปปง.ออกมาบอกว่าจะสอบต่อไปอีก 30 วัน พรรครู้สึกว่าการสอบต่อไปอีกไม่มีประโยชน์อะไรคงเป็นการแถลงแก้เกี้ยวว่าจะดำเนินการต่อในเรื่องนี้มากกว่า เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาหลังจากเกิดเรื่องซีทีเอ็กซ์ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าปปง.ไม่ได้เอาจริงเอาจังในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หรือเส้นทางธุรกรรมทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง” นายองอาจกล่าว
นายองอาจกล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่าการที่รัฐบาลมีมติจะยกมือให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่อง ภายในของพรรคไทยรักไทยว่า พรรคอยากตั้งคำถามว่าถ้าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาลทำไมจึงต้องออกมาบอกกับสังคม เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการแสดงให้คนทั้งประเทศรู้ว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะสั่งการให้ใครทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจที่จะฟังเสียงอื่นๆที่แตกต่าง หรือฟังข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จของรัฐบาลโดยไม่สนใจวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ออกมายอมรับว่ามีการตั้งทีมประท้วงฝ่ายค้านซึ่งการตั้งทีมประท้วงล่วงหน้าแสดงว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะทำตัวเป็นตัวป่วนการประชุมให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้ยากขึ้น ทั้งนี้ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องตั้งทีมประท้วงล่วงหน้าเพราะคงไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการดำเนินการผิดข้อบังคับการประชุม ที่สำคัญตนคิดว่ารัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องตั้งทีม เพราะประธานรัฐสภามีหน้าที่ควบคุมการประชุมไม่ให้ทำผิดข้อบังคับอยู่แล้ว
ส่วนกระแสข่าวการรับเงินค่าประท้วง นายองอาจกล่าวว่า เป็นกระแสข่าวที่อันตรายอย่างยิ่งต่อการเมืองไทย และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะการจ่ายเงินจะทำให้มีการประท้วงพร่ำเพื่อ ทั้งที่อาจจะไม่มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ได้ทำผิดข้อบังคับอะไร “ผมคิดว่าว่ารัฐบาลไม่ควรใช้เงินเป็นตัวล่อให้เกิดการประท้วงขึ้นโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะมีการทำผิดข้อบังคับระหว่างการประชุมหรือไม่ และการที่นายกฯออกมาระบุว่าจะยกมือไว้อุ้มนายสุริยะล่วงหน้าเพราะฝ่ายค้านหรือฝ่ายอื่นๆที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลไม่มีจ้อมูลใหม่ในการชี้แจงต่อสาธารณชน พรรคอยากจะบอกว่าถ้ารัฐบาลอ่านเฉพาะรายงานการสอบสวนทุจริตของนายวิษณุ (เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี) แน่นอนว่ารัฐบาลคงไม่พบข้อมูลใหม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลใหม่หรือเก่าฝ่ายค้านจะไม่มีการบิดเบือนเหมือนกันที่รัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อมูลในการชี้แจงต่อสาธารณชน ตลอดช่วง2-3 เดือนที่ผ่านมา เพราะข้อมูลของเราสามารถตรวจสอบได้อยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ทั้งสิ้น และจะทำให้รัฐบาลตอบสังคมได้ยากว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการบริหารบกพร่องผิดพลาด ไม่น่าทุจริตเกิดขึ้นและตลอด1อาทิตย์ที่ผ่านมานายสุริยะมักออกมาพูดตลอดว่าพูดไม่เก่งไม่ถนัดใช้โวหารในการชี้แจงผมคิดว่าถ้ามีการอภิปรายในครั้งนี้ท่านไม่จำเป็นต้องพูดเก่งหรือไม่เก่ง แต่สังคมอยากฟังนายสุริยะพูดความจริง ฉะนั้นการใช้โวหารเก่งหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญที่ว่าอย่าเอาประเทศชาติไปเป็นอาหารของคนในรัฐบาล”นายองอาจกล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุริยะจะใช้เวลาไพม์ไทม์ชี้แจง นายองอาจกล่าวว่าขึ้นอยู่กับประธานสภาจะชี้ให้รัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจง ซึ่งก็มีความเป็นความเป็นไปได้ที่ประธานรัฐสภากับรัฐมนตรีจะฮั้วกันล่วงหน้า นายองอาจกล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสงรองโฆษกพรรคไทยรักไทยระบุว่าคนในฝ่ายค้านให้ข้อมูลซีทีเอ็กซ์กับรัฐบาลว่าตนคิดว่านายสุทินคงจินตนาการมากเกินไปเหมือนกัน หรือนายสุทินอาจจะติดโรคจากนายกฯที่ดูละครน้ำเน่ามากเกินไปจึงคิดว่าคนอื่นจะมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ตนคิดว่าไม่มีใครในฝ่ายค้านเอาข้อมูลไปให้ใครเพราะนักการเมืองฝ่ายค้านมีวุฒิภาวะและมีจริยธรรมในการทำงานพอที่จะรู้ว่ากำลังทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ปกป้องเงินภาษีของประชาชนไม่ให้เล็ดลอดไปถึงมือของคนที่จะกินบ้านโกงเมือง ฉันนั้นตนในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีข้อมูลอะไรที่เล็ดลอดไปถึงมือรัฐบาลได้อย่างเด็ดขาด จเป็นการยุแยงอย่างไรก็ไม่มีปัญหาเพราะเราติดกาวตราช้างแน่นหนาอยู่แล้วข้อมูลไม่มีรั่วเด็ดขาด
ทั้งนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลใหม่มากกว่าที่เคยเผยแพร่ต่อสาธารณชน และอยากเชิญชวนให้ประชาชนติดตามการถ่ายทอดสดในวันที่ 27 มิ.ย. เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยิ่ง ส่วนการที่รัฐบาลออกมาปรามาสฝ่ายค้านค่อนข้างมากในการอภิปรายฯในครั้งนี้ตนคิดว่าการอภิปรายฯครั้งนี้เป็นการอภิปรายฯรัฐมนตรีคนเดียวและเรื่องเดียวในการบริหารงานบกพร่อง แต่รัฐบาลกลับออกอาการมากกว่าการอภิปรายฯเกือบทุกครั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลวิตกกังวล หวั่นไหวเป็นอย่างยิ่งว่าจะส่งผลกระเทือนต่อสถานะความเชื่อถือ เชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล อย่างไรก็ตามรัฐบาลคงต้องยอมจำนนข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายฯ ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะออกมาแถลงชี้แจงหลังจากฝ่ายค้านอภิปรายฯในทันทีนั้น ตนคิดว่าไม่เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลไม่ควรจะมีทีมออกมาพูดหลังการอภิปรายแล้ว สำหรับพรรคประชาธิปัตย์การอภิปรายฯทุกครั้งเรามีความมั่นใจเพราะถือว่าเป็นงานสำคัญและมีเกียรติเพื่อประเทศชาติ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 มิ.ย. 2548--จบ--
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.ต.อ.พีระพันธ์ เปรมภูติ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง. )ออกมาระบุว่าไม่พบหลักฐานการทุจริตในโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจจับระเบิดซีทีเอ็กซ์ และคณะกรรมการธุรกรรม ไม่อนุมัติให้เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยระบุว่าให้ระบุชี้ชัดว่ามีการทุจริตเสียก่อน โดยอ้างว่าขณะนี้ไม่มีข้อมูลว่ามีการทุจริตซีทีเอ็กซ์ว่า ทางพรรคเห็นว่า ทำไมเลขาปปง.เพิ่งจะออกมาแถลงข้อมูลเรื่องนี้ ทั้งที่ได้มีการทำเรื่องขอให้คณะกรรมการธุรกรรมอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. แล้ว และคณะกรรมการธุรกรรมก็ไม่อนุมัติมาก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ดังนั้นพรรคจึงขอตั้งคำถามว่าทำไมจึงเพิ่งออกมาแถลงโครงการซีทีเอ็กซ์ก่อนหน้าที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องนี้ถือว่าผิดปกติอย่างยิ่งเพราะก่อนหน้านี้ปปง.ก็นิ่งเฉยทั้งที่มีคนเคยร้องเรียนให้เข้าไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามพรรคเห็นว่าปปง.มีหน้าที่ตรวจสอบการฟอกเงินไม่ใช่ไปตรวจสอบการทุจริตหากปปง.ทำงานตามภาระหน้าที่เหมือนที่ผ่านมาในอดีตเช่นได้รับบัตรสนเท่ แล้วไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของนักหนังสือพิมพ์ก็ยังทำได้ แต่นี่ข่าวการทุจริตออกไปใหญ่โต ปปง.กลับไม่ไปตรวจสอบ และพอยื่นเรื่องไปยังคณะกรรมการธุรกรรมของปปง.ก็กลับบอกว่าไม่อนุมัติให้ตรวจสอบเพราะยังไม่มีการทุจริต
“พรรคประชาธิปัตย์ไม่แน่ใจว่าปปง.เป็นองค์กรที่จะฟอกเงินหรือฟอกคนกันแน่ หรือเป็นองค์กรที่เข้าไปใช้เพื่อปราบปรามพวกที่จะฟอกเงิน แต่ผมคิดว่าขณะนี้กำลังเป็นองค์กรที่ช่วยฟอกคนผิดให้เป็นคนถูก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่งและที่สำคัญคือปปง.ออกมาบอกว่าจะสอบต่อไปอีก 30 วัน พรรครู้สึกว่าการสอบต่อไปอีกไม่มีประโยชน์อะไรคงเป็นการแถลงแก้เกี้ยวว่าจะดำเนินการต่อในเรื่องนี้มากกว่า เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาหลังจากเกิดเรื่องซีทีเอ็กซ์ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าปปง.ไม่ได้เอาจริงเอาจังในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน หรือเส้นทางธุรกรรมทางการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง” นายองอาจกล่าว
นายองอาจกล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่าการที่รัฐบาลมีมติจะยกมือให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคมก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่อง ภายในของพรรคไทยรักไทยว่า พรรคอยากตั้งคำถามว่าถ้าเป็นเรื่องภายในของรัฐบาลทำไมจึงต้องออกมาบอกกับสังคม เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการแสดงให้คนทั้งประเทศรู้ว่ามีอำนาจเบ็ดเสร็จที่จะสั่งการให้ใครทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องสนใจที่จะฟังเสียงอื่นๆที่แตกต่าง หรือฟังข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ชี้ให้เห็นถึงการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จของรัฐบาลโดยไม่สนใจวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ออกมายอมรับว่ามีการตั้งทีมประท้วงฝ่ายค้านซึ่งการตั้งทีมประท้วงล่วงหน้าแสดงว่ารัฐบาลมีเจตนาที่จะทำตัวเป็นตัวป่วนการประชุมให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้ยากขึ้น ทั้งนี้ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องตั้งทีมประท้วงล่วงหน้าเพราะคงไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการดำเนินการผิดข้อบังคับการประชุม ที่สำคัญตนคิดว่ารัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องตั้งทีม เพราะประธานรัฐสภามีหน้าที่ควบคุมการประชุมไม่ให้ทำผิดข้อบังคับอยู่แล้ว
ส่วนกระแสข่าวการรับเงินค่าประท้วง นายองอาจกล่าวว่า เป็นกระแสข่าวที่อันตรายอย่างยิ่งต่อการเมืองไทย และเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะการจ่ายเงินจะทำให้มีการประท้วงพร่ำเพื่อ ทั้งที่อาจจะไม่มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ได้ทำผิดข้อบังคับอะไร “ผมคิดว่าว่ารัฐบาลไม่ควรใช้เงินเป็นตัวล่อให้เกิดการประท้วงขึ้นโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะมีการทำผิดข้อบังคับระหว่างการประชุมหรือไม่ และการที่นายกฯออกมาระบุว่าจะยกมือไว้อุ้มนายสุริยะล่วงหน้าเพราะฝ่ายค้านหรือฝ่ายอื่นๆที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลไม่มีจ้อมูลใหม่ในการชี้แจงต่อสาธารณชน พรรคอยากจะบอกว่าถ้ารัฐบาลอ่านเฉพาะรายงานการสอบสวนทุจริตของนายวิษณุ (เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี) แน่นอนว่ารัฐบาลคงไม่พบข้อมูลใหม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลใหม่หรือเก่าฝ่ายค้านจะไม่มีการบิดเบือนเหมือนกันที่รัฐบาลพยายามบิดเบือนข้อมูลในการชี้แจงต่อสาธารณชน ตลอดช่วง2-3 เดือนที่ผ่านมา เพราะข้อมูลของเราสามารถตรวจสอบได้อยู่บนพื้นฐานของความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ทั้งสิ้น และจะทำให้รัฐบาลตอบสังคมได้ยากว่าทำไมถึงปล่อยให้มีการบริหารบกพร่องผิดพลาด ไม่น่าทุจริตเกิดขึ้นและตลอด1อาทิตย์ที่ผ่านมานายสุริยะมักออกมาพูดตลอดว่าพูดไม่เก่งไม่ถนัดใช้โวหารในการชี้แจงผมคิดว่าถ้ามีการอภิปรายในครั้งนี้ท่านไม่จำเป็นต้องพูดเก่งหรือไม่เก่ง แต่สังคมอยากฟังนายสุริยะพูดความจริง ฉะนั้นการใช้โวหารเก่งหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สำคัญที่ว่าอย่าเอาประเทศชาติไปเป็นอาหารของคนในรัฐบาล”นายองอาจกล่าว
ส่วนกรณีที่นายสุริยะจะใช้เวลาไพม์ไทม์ชี้แจง นายองอาจกล่าวว่าขึ้นอยู่กับประธานสภาจะชี้ให้รัฐมนตรีลุกขึ้นชี้แจง ซึ่งก็มีความเป็นความเป็นไปได้ที่ประธานรัฐสภากับรัฐมนตรีจะฮั้วกันล่วงหน้า นายองอาจกล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสงรองโฆษกพรรคไทยรักไทยระบุว่าคนในฝ่ายค้านให้ข้อมูลซีทีเอ็กซ์กับรัฐบาลว่าตนคิดว่านายสุทินคงจินตนาการมากเกินไปเหมือนกัน หรือนายสุทินอาจจะติดโรคจากนายกฯที่ดูละครน้ำเน่ามากเกินไปจึงคิดว่าคนอื่นจะมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ตนคิดว่าไม่มีใครในฝ่ายค้านเอาข้อมูลไปให้ใครเพราะนักการเมืองฝ่ายค้านมีวุฒิภาวะและมีจริยธรรมในการทำงานพอที่จะรู้ว่ากำลังทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ปกป้องเงินภาษีของประชาชนไม่ให้เล็ดลอดไปถึงมือของคนที่จะกินบ้านโกงเมือง ฉันนั้นตนในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีข้อมูลอะไรที่เล็ดลอดไปถึงมือรัฐบาลได้อย่างเด็ดขาด จเป็นการยุแยงอย่างไรก็ไม่มีปัญหาเพราะเราติดกาวตราช้างแน่นหนาอยู่แล้วข้อมูลไม่มีรั่วเด็ดขาด
ทั้งนี้โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลใหม่มากกว่าที่เคยเผยแพร่ต่อสาธารณชน และอยากเชิญชวนให้ประชาชนติดตามการถ่ายทอดสดในวันที่ 27 มิ.ย. เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยิ่ง ส่วนการที่รัฐบาลออกมาปรามาสฝ่ายค้านค่อนข้างมากในการอภิปรายฯในครั้งนี้ตนคิดว่าการอภิปรายฯครั้งนี้เป็นการอภิปรายฯรัฐมนตรีคนเดียวและเรื่องเดียวในการบริหารงานบกพร่อง แต่รัฐบาลกลับออกอาการมากกว่าการอภิปรายฯเกือบทุกครั้งที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลวิตกกังวล หวั่นไหวเป็นอย่างยิ่งว่าจะส่งผลกระเทือนต่อสถานะความเชื่อถือ เชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล อย่างไรก็ตามรัฐบาลคงต้องยอมจำนนข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายฯ ส่วนที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะออกมาแถลงชี้แจงหลังจากฝ่ายค้านอภิปรายฯในทันทีนั้น ตนคิดว่าไม่เป็นประโยชน์ที่รัฐบาลไม่ควรจะมีทีมออกมาพูดหลังการอภิปรายแล้ว สำหรับพรรคประชาธิปัตย์การอภิปรายฯทุกครั้งเรามีความมั่นใจเพราะถือว่าเป็นงานสำคัญและมีเกียรติเพื่อประเทศชาติ
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 มิ.ย. 2548--จบ--