I. ข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
- เนื้อที่ (ตารางไมล์) 261,789
- จำนวนประชากร (ล้านคน) 43.91 (1995)
- เมืองหลวง ย่างกุ้ง
- เมืองธุรกิจ ยะไข่ มะละแหม่ง พะสั้น พุกาม มัณฑะเลย์
ตองยี
- โครงสร้างทางเศรษฐกิจ (%) - อุตสาหกรรมและเหมืองแร่ 7.0
- เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ประมงและป่าไม้ 63.0
- ก่อสร้าง 1.6 - บริการและอื่น ๆ 28.4
- อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 6.8 % (1994)
- อัตราเงินเฟ้อ 31.8 % (1994)
- รายได้เฉลี่ยต่อคน (เหรียญสหรัฐ) 214.6 (1988)
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา US$1 = 5.58 KYATS (1994)
- ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ป่าไม้ ตะกั่ว เงิน ดีบุก น้ำมันปิโตรเลียม
ก๊าซธรรมชาติ ทังสเตน อัญมณี ถ่านหิน
- สินค้าส่งออกและนำเข้าที่สำคัญ - ส่งออก ข้าว ข้าวโพด ไม้สัก ถั่วต่าง ๆ
อาหารสัตว์ เนื้อสัตว์ ไม้สัก ไม้เนื้อแข็ง
เงิน ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง ดีบุก
ทังสเตน อัญมณี หยก
- นำเข้า เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรกล
สิ่งทอ ยารักษาโรค วัตถุดิบและอะไหล่สำหรับ
อุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร
และเครื่องมือ อุปกรณ์การขนส่ง
- ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ - ส่งออก สิงคโปร์ จีน ไทย อินเดีย ฮ่องกง
ญี่ปุ่น
- นำเข้า ญี่ปุ่น จีน ไทย สิงคโปร์ สหภาพยุโรป
มาเลเซีย
- ภาษา พม่า อังกฤษ
- ศาสนา พุทธ อิสลาม ฮินดู คริสต์
- เวลาแตกต่างจากไทย ช้ากว่า 30 นาที
- ผู้นำประเทศ ประธานพรรค BSPF และ
นายกรัฐมนตรีพลเอกซอหม่อง
II. ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย
ภาครัฐบาล
1. ความตกลงทางการค้าระหว่างกัน ลงนามเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2532
2. ความตกลงการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้าไทย-พม่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2533
เพื่อเป็นกลไกในการพบปะหารือปัญหาและลู่ทางการค้าระหว่างกัน
3. การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-พม่า ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2537 ณ กรุงเทพฯ
ภาคเอกชน
1. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมสหภาพพม่า ได้จัดทำความตกลง
ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกัน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2538 ณ กรุงย่างกุ้ง
III. ภาวะการค้ากับประเทศไทย
1. การส่งออก ในปี 2537 และปี 2538 ไทยส่งออกไปพม่าเป็นมูลค่า 6,004.9 ล้านบาท และ
8,658.6 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.5 และ 0.6 ของมูลค่าการ
ส่งออกทั้งหมดของประเทศ
2. สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์พลาสติก รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า
ผ้าผืน ด้ายเส้นใยประดิษฐ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง นมและครีม ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม
3. การนำเข้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยนำเข้าจากพม่าเป็นมูลค่า 3,952.6 ล้านบาท และ
5,510.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.2 และ 0.3 ของมูลค่าการ
นำเข้าทั้งหมดของประเทศ
4. สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ซุง ไม้แปรรูป และไม้อื่น ๆ กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง เครื่องเพชรพลอย
ผลิตภัณฑ์ไม้ เสื้อผ้า รองเท้าและสิ่งทออื่น ๆ สินแร่ โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ ปลาหมึกสดแช่เย็น
แช่แข็ง เครื่องแต่งเรือน ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ ธัญพืชและธัญพืชสำเร็จรูป
5. ดุลการค้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 2,052.2 ล้านบาท
และ 3,147.7 ล้านบาท ตามลำดับ
IV. ปัญหาทางการค้าที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทย
1. มาตรการที่มิใช่ภาษี
1.1 ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ
1.2 ระบบการเงินไม่มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่สูงกว่าความเป็นจริง
โดยอัตราทางการในการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ จะเท่ากับ 6 จัต แต่การแลกเปลี่ยนเงินในตลาดมืด
จะอยู่ในอัตรา 100-125 จัดต่อ 1 ดอลลาร์ นอกจากนั้นฐานะทางการเงินไม่มั่นคง
1.3 อำนาจในการซื้อของพม่าต่ำ
1.4 นโยบายรัฐบาล การดำเนินมาตรการและกฎระเบียบทางการค้าของพม่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
1.5 การขาดแคลนโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบการขนส่ง และระบบสาธารณูปโภคสำหรับการ
ขนส่งผ่านท่าเรือที่ล้าสมัยในการรองรับการทำธุรกิจ
1.6 การห้ามเรือประมงไทยเข้าไปจับปลาในเขตพม่า
1.7 ปัญหาชายแดนไทย-พม่า ด้านอ.แม่สาย จ.เชียงราย กรณีที่มีทหารไทยใหญ่บุกเข้าโจมตีหมู่บ้านโปงถุน
พม่าได้เรียกร้องให้ไทยจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับรัฐบาลพม่า เป็นเงินทั้งสิ้น 34 ล้านบาท ซึ่งไทย
ไม่สามารถยอมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้
1.8 ปัญหาชายแดนด้านอ. แม่สอด จ. ตาก เรื่องโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมย อ. แม่สอด
จ. ตาก ที่รัฐบาลพม่าได้สั่งระงับการก่อสร้าง โดยฝ่ายพม่ายืนยันว่า ไทยจะต้องแก้ไขปัญหาการก่อสร้าง
เขื่อนหินทิ้งริมฝั่งแม่น้ำเมยให้เสร็จสิ้นก่อน
1.9 ปัญหาชายแดนด้านจ. ระนอง ที่พม่าได้เรียกร้องให้ไทย ชดใช้ค่าเสียหายให้กับลูกเรือประมง
พม่าทั้ง 9 คนที่เสียชีวิตและสูญหายไปเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 225 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการต่อรอง
1.10 การปิดการค้าชายแดน ณ ด่านสำคัญ 3 ด่านคือ
- ด่านเมียวดี ในจังหวัดกอกาเลกของพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทย
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2539)
- ด่านอำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดเชียงตุง ซึ่งอยู่ติดกับอำเภอแม่สาย ในจังหวัดเชียงรายของไทย
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2539)
- ด่านเกาะสองตรงข้ามอำเภอเมืองระนอง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน
(กุมภาพันธ์ 2539)
สาเหตุการปิดการค้าชายแดน เนื่องจากปัญหาการปราบปราม “ชนกลุ่มน้อย” ของพม่าซึ่งอาศัยอยู่ตาม
แนวชายแดนไทย-พม่า ส่งผลให้ไทย-พม่ามีข้อขัดแย้งในเรื่องข้ามพรมแดน จากสาเหตุดังกล่าว ส่งผลกระทบ
ต่อการค้าชายแดนระหว่างไทย-พม่า ณ จุดผ่านแดนสำคัญทั้งสองจุดต้องหยุดชะงักลง และทำให้ต้นทุนสินค้า
ไทยสูงขึ้น เนื่องจากพ่อค้าต้องหันไปขนส่งสินค้าผ่านเข้าลาวแล้วส่งไปยังพม่า หรือส่งออกทางทะเลทางจังหวัด
ระนอง ส่งผลให้ราคาสินค้าไทยในพม่าสูงขึ้น อำนาจการแข่งขันลดลง ผู้ส่งออกไทยต้องขยายเวลาการชำระหนี้
ให้แก่พ่อค้าพม่าในเมืองมัณฑะเลย์ ตองยี และเชียงตุง
1.11 การปิดด่านศุลกากรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ทำให้ปริมาณการค้าของไทยลดลง เนื่องจาก ตลาดแม่สาย
เป็นประตูส่งผ่านสินค้าจากไทยไปยังพม่าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทำให้สินค้าไทยที่เตรียมจะส่งไปขายยังพม่า
ตกค้างที่ฝั่งไทย พ่อค้าไทยขาดรายได้ และพม่าขาดแคลนสินค้าอุปโภค-บริโภค นอกจากนั้นธุรกิจค้าพลอย
ประสบภาวะซบเซาอย่างมาก รวมถึงกิจการโรงแรมในอำเภอแม่สาย ซึ่งเคยเปิดรับนักท่องเที่ยวและ
นักธุรกิจค้าพลอยลดลงตามลำดับ
1.12 รัฐบาลพม่าประกาศระงับการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2538
เนื่องจากไม่พอใจที่ฝ่ายไทยถมคันดินล้ำเข้าไปในแม่น้ำเมย ซึ่งอาจส่งผลให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและ
ส่งผลกระทบต่อเส้นแบ่งเขตแดนไทย-พม่า พม่าเรียกร้องให้ไทยขุดดินที่ถมตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำเมยออกให้หมด
รวมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนผืนดินดังกล่าวด้วย จึงจะยอมให้ดำเนินการก่อสร้างสะพานต่อไป
1.13 ไทยมีปัญหาชายแดนไทย-พม่า ในขณะที่สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จีน และกลุ่มอินโดจีน กำลังเร่ง
กระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับพม่าอย่างเต็มที่ ทำให้ไทยเสียส่วนแบ่งตลาดการค้าและการลงทุนของ
พม่าให้แก่ประเทศคู่แข่งอื่น ๆ รัฐบาลไทยควรแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ
1.14 ปัญหาการลักลอบนำไม้เข้าไทยตลอดแนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน-ตาก
V. สินค้าที่ไทยมีลู่ทางขยายการส่งออก-นำเข้า
1. การส่งออก ได้แก่ อาหาร ยารักษาโรค และของใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป
นมและครีม ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี อาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ รถจักรยานและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เหล็ก
และเหล็กกล้า
2. การนำเข้า ไม้ต่าง ๆ อัญมณีและเครื่องประดับ สินแร่ต่าง ๆ
--สรุปความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย--
- เนื้อที่ (ตารางไมล์) 261,789
- จำนวนประชากร (ล้านคน) 43.91 (1995)
- เมืองหลวง ย่างกุ้ง
- เมืองธุรกิจ ยะไข่ มะละแหม่ง พะสั้น พุกาม มัณฑะเลย์
ตองยี
- โครงสร้างทางเศรษฐกิจ (%) - อุตสาหกรรมและเหมืองแร่ 7.0
- เกษตรกรรม ปศุสัตว์ ประมงและป่าไม้ 63.0
- ก่อสร้าง 1.6 - บริการและอื่น ๆ 28.4
- อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ 6.8 % (1994)
- อัตราเงินเฟ้อ 31.8 % (1994)
- รายได้เฉลี่ยต่อคน (เหรียญสหรัฐ) 214.6 (1988)
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา US$1 = 5.58 KYATS (1994)
- ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ป่าไม้ ตะกั่ว เงิน ดีบุก น้ำมันปิโตรเลียม
ก๊าซธรรมชาติ ทังสเตน อัญมณี ถ่านหิน
- สินค้าส่งออกและนำเข้าที่สำคัญ - ส่งออก ข้าว ข้าวโพด ไม้สัก ถั่วต่าง ๆ
อาหารสัตว์ เนื้อสัตว์ ไม้สัก ไม้เนื้อแข็ง
เงิน ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง ดีบุก
ทังสเตน อัญมณี หยก
- นำเข้า เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องจักรกล
สิ่งทอ ยารักษาโรค วัตถุดิบและอะไหล่สำหรับ
อุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร
และเครื่องมือ อุปกรณ์การขนส่ง
- ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ - ส่งออก สิงคโปร์ จีน ไทย อินเดีย ฮ่องกง
ญี่ปุ่น
- นำเข้า ญี่ปุ่น จีน ไทย สิงคโปร์ สหภาพยุโรป
มาเลเซีย
- ภาษา พม่า อังกฤษ
- ศาสนา พุทธ อิสลาม ฮินดู คริสต์
- เวลาแตกต่างจากไทย ช้ากว่า 30 นาที
- ผู้นำประเทศ ประธานพรรค BSPF และ
นายกรัฐมนตรีพลเอกซอหม่อง
II. ความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย
ภาครัฐบาล
1. ความตกลงทางการค้าระหว่างกัน ลงนามเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2532
2. ความตกลงการจัดตั้งคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้าไทย-พม่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2533
เพื่อเป็นกลไกในการพบปะหารือปัญหาและลู่ทางการค้าระหว่างกัน
3. การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-พม่า ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2537 ณ กรุงเทพฯ
ภาคเอกชน
1. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกับหอการค้าและสภาอุตสาหกรรมสหภาพพม่า ได้จัดทำความตกลง
ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกัน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2538 ณ กรุงย่างกุ้ง
III. ภาวะการค้ากับประเทศไทย
1. การส่งออก ในปี 2537 และปี 2538 ไทยส่งออกไปพม่าเป็นมูลค่า 6,004.9 ล้านบาท และ
8,658.6 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.5 และ 0.6 ของมูลค่าการ
ส่งออกทั้งหมดของประเทศ
2. สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์พลาสติก รองเท้าและชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์เหล็กและเหล็กกล้า
ผ้าผืน ด้ายเส้นใยประดิษฐ์ เคมีภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์ยาง นมและครีม ผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม
3. การนำเข้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยนำเข้าจากพม่าเป็นมูลค่า 3,952.6 ล้านบาท และ
5,510.9 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 0.2 และ 0.3 ของมูลค่าการ
นำเข้าทั้งหมดของประเทศ
4. สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ซุง ไม้แปรรูป และไม้อื่น ๆ กุ้งสดแช่เย็น แช่แข็ง เครื่องเพชรพลอย
ผลิตภัณฑ์ไม้ เสื้อผ้า รองเท้าและสิ่งทออื่น ๆ สินแร่ โลหะอื่น ๆ และเศษโลหะ ปลาหมึกสดแช่เย็น
แช่แข็ง เครื่องแต่งเรือน ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ ธัญพืชและธัญพืชสำเร็จรูป
5. ดุลการค้า ในปี 2537 และปี 2538 ไทยได้เปรียบดุลการค้ามูลค่า 2,052.2 ล้านบาท
และ 3,147.7 ล้านบาท ตามลำดับ
IV. ปัญหาทางการค้าที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกของไทย
1. มาตรการที่มิใช่ภาษี
1.1 ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเศรษฐกิจ
1.2 ระบบการเงินไม่มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่สูงกว่าความเป็นจริง
โดยอัตราทางการในการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐ จะเท่ากับ 6 จัต แต่การแลกเปลี่ยนเงินในตลาดมืด
จะอยู่ในอัตรา 100-125 จัดต่อ 1 ดอลลาร์ นอกจากนั้นฐานะทางการเงินไม่มั่นคง
1.3 อำนาจในการซื้อของพม่าต่ำ
1.4 นโยบายรัฐบาล การดำเนินมาตรการและกฎระเบียบทางการค้าของพม่ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
1.5 การขาดแคลนโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบการขนส่ง และระบบสาธารณูปโภคสำหรับการ
ขนส่งผ่านท่าเรือที่ล้าสมัยในการรองรับการทำธุรกิจ
1.6 การห้ามเรือประมงไทยเข้าไปจับปลาในเขตพม่า
1.7 ปัญหาชายแดนไทย-พม่า ด้านอ.แม่สาย จ.เชียงราย กรณีที่มีทหารไทยใหญ่บุกเข้าโจมตีหมู่บ้านโปงถุน
พม่าได้เรียกร้องให้ไทยจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับรัฐบาลพม่า เป็นเงินทั้งสิ้น 34 ล้านบาท ซึ่งไทย
ไม่สามารถยอมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้
1.8 ปัญหาชายแดนด้านอ. แม่สอด จ. ตาก เรื่องโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเมย อ. แม่สอด
จ. ตาก ที่รัฐบาลพม่าได้สั่งระงับการก่อสร้าง โดยฝ่ายพม่ายืนยันว่า ไทยจะต้องแก้ไขปัญหาการก่อสร้าง
เขื่อนหินทิ้งริมฝั่งแม่น้ำเมยให้เสร็จสิ้นก่อน
1.9 ปัญหาชายแดนด้านจ. ระนอง ที่พม่าได้เรียกร้องให้ไทย ชดใช้ค่าเสียหายให้กับลูกเรือประมง
พม่าทั้ง 9 คนที่เสียชีวิตและสูญหายไปเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 225 ล้านบาท ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการต่อรอง
1.10 การปิดการค้าชายแดน ณ ด่านสำคัญ 3 ด่านคือ
- ด่านเมียวดี ในจังหวัดกอกาเลกของพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทย
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2539)
- ด่านอำเภอท่าขี้เหล็ก จังหวัดเชียงตุง ซึ่งอยู่ติดกับอำเภอแม่สาย ในจังหวัดเชียงรายของไทย
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2539)
- ด่านเกาะสองตรงข้ามอำเภอเมืองระนอง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน
(กุมภาพันธ์ 2539)
สาเหตุการปิดการค้าชายแดน เนื่องจากปัญหาการปราบปราม “ชนกลุ่มน้อย” ของพม่าซึ่งอาศัยอยู่ตาม
แนวชายแดนไทย-พม่า ส่งผลให้ไทย-พม่ามีข้อขัดแย้งในเรื่องข้ามพรมแดน จากสาเหตุดังกล่าว ส่งผลกระทบ
ต่อการค้าชายแดนระหว่างไทย-พม่า ณ จุดผ่านแดนสำคัญทั้งสองจุดต้องหยุดชะงักลง และทำให้ต้นทุนสินค้า
ไทยสูงขึ้น เนื่องจากพ่อค้าต้องหันไปขนส่งสินค้าผ่านเข้าลาวแล้วส่งไปยังพม่า หรือส่งออกทางทะเลทางจังหวัด
ระนอง ส่งผลให้ราคาสินค้าไทยในพม่าสูงขึ้น อำนาจการแข่งขันลดลง ผู้ส่งออกไทยต้องขยายเวลาการชำระหนี้
ให้แก่พ่อค้าพม่าในเมืองมัณฑะเลย์ ตองยี และเชียงตุง
1.11 การปิดด่านศุลกากรแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ทำให้ปริมาณการค้าของไทยลดลง เนื่องจาก ตลาดแม่สาย
เป็นประตูส่งผ่านสินค้าจากไทยไปยังพม่าอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทำให้สินค้าไทยที่เตรียมจะส่งไปขายยังพม่า
ตกค้างที่ฝั่งไทย พ่อค้าไทยขาดรายได้ และพม่าขาดแคลนสินค้าอุปโภค-บริโภค นอกจากนั้นธุรกิจค้าพลอย
ประสบภาวะซบเซาอย่างมาก รวมถึงกิจการโรงแรมในอำเภอแม่สาย ซึ่งเคยเปิดรับนักท่องเที่ยวและ
นักธุรกิจค้าพลอยลดลงตามลำดับ
1.12 รัฐบาลพม่าประกาศระงับการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2538
เนื่องจากไม่พอใจที่ฝ่ายไทยถมคันดินล้ำเข้าไปในแม่น้ำเมย ซึ่งอาจส่งผลให้กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและ
ส่งผลกระทบต่อเส้นแบ่งเขตแดนไทย-พม่า พม่าเรียกร้องให้ไทยขุดดินที่ถมตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำเมยออกให้หมด
รวมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนผืนดินดังกล่าวด้วย จึงจะยอมให้ดำเนินการก่อสร้างสะพานต่อไป
1.13 ไทยมีปัญหาชายแดนไทย-พม่า ในขณะที่สิงคโปร์ อินโดนีเซีย จีน และกลุ่มอินโดจีน กำลังเร่ง
กระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับพม่าอย่างเต็มที่ ทำให้ไทยเสียส่วนแบ่งตลาดการค้าและการลงทุนของ
พม่าให้แก่ประเทศคู่แข่งอื่น ๆ รัฐบาลไทยควรแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ
1.14 ปัญหาการลักลอบนำไม้เข้าไทยตลอดแนวชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน-ตาก
V. สินค้าที่ไทยมีลู่ทางขยายการส่งออก-นำเข้า
1. การส่งออก ได้แก่ อาหาร ยารักษาโรค และของใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ผ้าผืน เสื้อผ้าสำเร็จรูป
นมและครีม ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี อาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ รถจักรยานและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เหล็ก
และเหล็กกล้า
2. การนำเข้า ไม้ต่าง ๆ อัญมณีและเครื่องประดับ สินแร่ต่าง ๆ
--สรุปความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย--