แท็ก
ข้าวเปลือก
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--22 ธ.ค.--บิสนิวส์
1. ถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
2. สถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ
2.1 ข้าว : ข้าวนาปีเก็บเกี่ยวมากขึ้นและราคาลดลง
ข้าวนาปี คาดว่าจะมีพื้นที่รวมทั้งประเทศ 57.195 ล้านไร่ ได้ผลผลิตข้าว 18.978 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 0.81 และ 2.87 ตามลำดับ เนื่องจากดินฟ้าอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้สภาพน้ำในการเพาะปลูกมีมาก สำหรับข้าวนาปรัง ถึงแม้ว่าราคาข้าวนาปีมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่จากสภาพน้ำคาดว่าจะมีมากในเขื่อนหลัก คาดว่าการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2543 จะมีพื้นที่ปลูกมากกว่า 6 ล้านไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 4.2 —4.3 ล้านตันข้าวเปลือก เมื่อรวมผลผลิตทั้งนาปีและนาปรังจะได้ไม่ต่ำกว่า 23 ล้านตันข้าวเปลือก มากกว่าปีที่แล้วร้อยละ 2
อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ซึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม จะมีการเก็บเกี่ยวมากถึงร้อยละ 66 ซึ่งโดยปกติจะมีผลต่อราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ลดลง สำหรับสถานการณ์ราคาที่เกษตรกรขายได้ในสัปดาห์นี้ข้าวเปลือก-เจ้าหอมมะลิมีราคาเกวียนละ 7,098 บาท ลดลงจาก 7,289 บาทของสัปดาห์ที่แล้ว และเทียบกับราคาในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเกวียนละ 6,269 บาท ราคาปีนี้สูงขึ้นและยังสูงกว่าราคารับจำนำที่กำหนดไว้ 6,495 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้า 5% ราคาที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เกวียนละ 4,787 บาท ลดลงจากเกวียนละ 5,041 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว และเทียบกับราคาในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเกวียนละ 5,598 บาท ราคาปีนี้ลดลง และยังต่ำกว่าราคารับจำนำที่กำหนดไว้เกวียนละ 5,185 บาท ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้เร่งดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกและซื้อข้าวสารแทรกแซงตลาดเพื่อช่วยให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกในช่วงต้นฤดูได้ราคาดี
2.2 โคเนื้อ : การลักลอบนำเข้า
จำนวนโคเนื้อในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 6 ล้านตัว มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 0.97 ล้านตัว แต่มีความต้องการบริโภคประมาณ 1.1 ล้านตัว โดยในช่วงปี 2538-2542 จำนวนโคเนื้อมีอัตราลดลงร้อยละ 2.3 ต่อปี ผลผลิตมีอัตราลดลงร้อยละ 4.8 ต่อปี และการบริโภคมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ต่อปี ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตมีแนวโน้มลดลง คือ การลักลอบนำเข้าโคจากประเทศข้างเคียง ซึ่งมีราคาต่ำกว่าโคที่ผลิตภายในประเทศมาก และปัจจุบันนอกจากจะลักลอบนำเข้าโคมีชีวิตแล้วยังนำเนื้อโคแช่งแข็งเข้ามาเป็นจำนวนมาก กล่าวคือ สามารถจับเนื้อโคลักลอบนำเข้าได้เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ประมาณ 12 ตัน และปลายเดือนพฤศจิกายนอีกประมาณ 14 ตัน และตรวจพบเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลล่าที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิตได้ นอกจากนี้การลักลอบนำเข้า ส่งผลให้การพัฒนาส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อไม่สามารถดำเนินการให้ประสบผลได้
ที่ผ่านมาแม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีความเข้มงวดในการลักลอบนำเข้า แต่ยังไม่สามารถปราบปราบได้ การแก้ปัญหาให้ได้ผลต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมปศุสัตว์ ตำรวจตระเวนชายแดน และกรมการปกครอง เป็นต้น
--รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรประจำวันที่ 29 พ.ย. - 5 ธ.ค. 2542--
1. ถานการณ์สินค้า
1.1 สินค้าที่มีปัญหา
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่มีปัญหา
1.2 สินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
สัปดาห์นี้ไม่มีสินค้าที่ต้องคอยเฝ้าระวัง
2. สถานการณ์สินค้าเกษตรที่สำคัญ
2.1 ข้าว : ข้าวนาปีเก็บเกี่ยวมากขึ้นและราคาลดลง
ข้าวนาปี คาดว่าจะมีพื้นที่รวมทั้งประเทศ 57.195 ล้านไร่ ได้ผลผลิตข้าว 18.978 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 0.81 และ 2.87 ตามลำดับ เนื่องจากดินฟ้าอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้สภาพน้ำในการเพาะปลูกมีมาก สำหรับข้าวนาปรัง ถึงแม้ว่าราคาข้าวนาปีมีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่จากสภาพน้ำคาดว่าจะมีมากในเขื่อนหลัก คาดว่าการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ปี 2543 จะมีพื้นที่ปลูกมากกว่า 6 ล้านไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 4.2 —4.3 ล้านตันข้าวเปลือก เมื่อรวมผลผลิตทั้งนาปีและนาปรังจะได้ไม่ต่ำกว่า 23 ล้านตันข้าวเปลือก มากกว่าปีที่แล้วร้อยละ 2
อย่างไรก็ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ซึ่งช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม จะมีการเก็บเกี่ยวมากถึงร้อยละ 66 ซึ่งโดยปกติจะมีผลต่อราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้ลดลง สำหรับสถานการณ์ราคาที่เกษตรกรขายได้ในสัปดาห์นี้ข้าวเปลือก-เจ้าหอมมะลิมีราคาเกวียนละ 7,098 บาท ลดลงจาก 7,289 บาทของสัปดาห์ที่แล้ว และเทียบกับราคาในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเกวียนละ 6,269 บาท ราคาปีนี้สูงขึ้นและยังสูงกว่าราคารับจำนำที่กำหนดไว้ 6,495 บาท ส่วนข้าวเปลือกเจ้า 5% ราคาที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เกวียนละ 4,787 บาท ลดลงจากเกวียนละ 5,041 บาท ของสัปดาห์ที่แล้ว และเทียบกับราคาในเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเกวียนละ 5,598 บาท ราคาปีนี้ลดลง และยังต่ำกว่าราคารับจำนำที่กำหนดไว้เกวียนละ 5,185 บาท ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้เร่งดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกและซื้อข้าวสารแทรกแซงตลาดเพื่อช่วยให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกในช่วงต้นฤดูได้ราคาดี
2.2 โคเนื้อ : การลักลอบนำเข้า
จำนวนโคเนื้อในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 6 ล้านตัว มีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 0.97 ล้านตัว แต่มีความต้องการบริโภคประมาณ 1.1 ล้านตัว โดยในช่วงปี 2538-2542 จำนวนโคเนื้อมีอัตราลดลงร้อยละ 2.3 ต่อปี ผลผลิตมีอัตราลดลงร้อยละ 4.8 ต่อปี และการบริโภคมีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 ต่อปี ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตมีแนวโน้มลดลง คือ การลักลอบนำเข้าโคจากประเทศข้างเคียง ซึ่งมีราคาต่ำกว่าโคที่ผลิตภายในประเทศมาก และปัจจุบันนอกจากจะลักลอบนำเข้าโคมีชีวิตแล้วยังนำเนื้อโคแช่งแข็งเข้ามาเป็นจำนวนมาก กล่าวคือ สามารถจับเนื้อโคลักลอบนำเข้าได้เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ประมาณ 12 ตัน และปลายเดือนพฤศจิกายนอีกประมาณ 14 ตัน และตรวจพบเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลล่าที่อาจจะทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิตได้ นอกจากนี้การลักลอบนำเข้า ส่งผลให้การพัฒนาส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อไม่สามารถดำเนินการให้ประสบผลได้
ที่ผ่านมาแม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะมีความเข้มงวดในการลักลอบนำเข้า แต่ยังไม่สามารถปราบปราบได้ การแก้ปัญหาให้ได้ผลต้องได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมปศุสัตว์ ตำรวจตระเวนชายแดน และกรมการปกครอง เป็นต้น
--รายงานสถานการณ์สินค้าเกษตรประจำวันที่ 29 พ.ย. - 5 ธ.ค. 2542--