วันนี้(4 เม.ย. 2548) เวลา 15.05 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงแสดงความเสียใจต่อกรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนถึงเหตุการณ์ระเบิดที่วิทยาลัยเทคนิคยะลา จ.ยะลาว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอร่วมกับรัฐบาลในการประณามผู้ที่ใช้ความรุนแรงและก่อเหตุที่ผิดกฎหมาย สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในเรื่องโครงสร้างขององค์กรที่แก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีองค์กรที่จะสามารถทำงานในเชิงบูรณาการได้อย่างแท้จริง และต้องสามารถที่จะบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ที่ครอบคลุมเช่นเดียวกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพราะทางกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ได้ออกมาบอกว่าพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบเร่งดำเนินการตรงนี้ และควรใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างต่างๆ ซึ่งข้อเสนอที่พรรคเคยเสนอไป คือ การเพิ่มบทบาทพลเรือนในการเป็นผู้นำในการบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะการรับนโยบายของรัฐบาลมาปฏิบัติ เพื่อจะได้เชื่อมโยง และสอดคล้องกับทุกฝ่าย นอกจากนั้นแม้ทุกฝ่ายจะมีความเห็นตรงกันในเรื่องของแนวทางการแก้ปัญหา แต่อยากให้รัฐบาลตระหนักถึงสถานการณ์ที่แท้จริง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่อยากให้สังคมเกิดความหวั่นไหวว่า การจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จะขัดกับแนวทางสมานฉันท์ ซึ่งแนวทางความสมานฉันท์ มุ่งในเรื่องของการสร้างความสมานฉันท์ในหมู่ประชาชน แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ผู้ที่ก่อความไม่สงบ ผู้ที่ใช้ความรุนแรงนั้น ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดภายใต้กฎหมายและการเคารพในสิทธิมนุษยชน และคิดว่ารัฐบาลในฐานะผู้รับผิดชอบและผู้ปฏิบัติก็ต้องแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมภายใต้นโยบายที่ได้ประกาศไป อย่างไรก็ตามวันนี้ท่านนายกฯก็ให้สัมภาษณ์พูดจาด้วยความระมัดระวัง จึงอยากให้ทุกคนในรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดี
‘อย่ามองว่าปัญหาจำกัดอยู่เฉพาะ 3 จังหวัด ยังมีพื้นที่ต่อเนื่องและพื้นที่ที่รัฐบาลต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตอกย้ำในเรื่องนี้ เพื่อให้รัฐบาลมีความตื่นตัวในการที่จะเข้ามาแก้ไขและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป การเสริมมาตรการต่างๆ ทั้งการข่าว การป้องกัน และการรีบทบทวนว่าจุดไหนเป็นช่องโหว่ ช่องว่าง ต้องเข้าไปดำเนินการ เชื่อว่าถ้าหากมาตรการเข้มแข็ง ก็จะทำให้ขอบเขตของปัญหาไม่ลุกลามบานปลาย ซึ่งแนวทางทั้งหมดทำได้เร็วเท่าไหร่ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่สับสน การสร้างความอบอุ่นใจ การให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย และมาตรการที่จำเป็นจะต้องมีขึ้นในลักษณะที่เข้มงวดหรือเข้มแข็งก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ ขณะเดียวกันต้องขจัดเงื่อนไขในแง่ของการดำเนินนโยบายที่มองภาพรวมระยะยาวว่า อย่าไปสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมจากความผิดพลาด หรือการไปละเมิดสิทธิต่างๆที่จะทำให้มีผู้เข้าไปเป็นแนวร่วมกับผู้ที่ก่อความไม่สงบเพิ่มขึ้น’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่าวันนี้พรรคได้มอบหมายให้นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคฯ นำ ส.ส.ของพรรคไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล เนื่องจากตนติดภารกิจ แต่อย่างไรก็ตามจะนำคณะของพรรคลงเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่อีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2548นี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากให้รัฐบาลเร่งดำเนินการในเรื่องโครงสร้างขององค์กรที่แก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีองค์กรที่จะสามารถทำงานในเชิงบูรณาการได้อย่างแท้จริง และต้องสามารถที่จะบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ที่ครอบคลุมเช่นเดียวกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพราะทางกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ได้ออกมาบอกว่าพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบ เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องรีบเร่งดำเนินการตรงนี้ และควรใช้โอกาสนี้ในการปรับโครงสร้างต่างๆ ซึ่งข้อเสนอที่พรรคเคยเสนอไป คือ การเพิ่มบทบาทพลเรือนในการเป็นผู้นำในการบริหารจัดการปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะการรับนโยบายของรัฐบาลมาปฏิบัติ เพื่อจะได้เชื่อมโยง และสอดคล้องกับทุกฝ่าย นอกจากนั้นแม้ทุกฝ่ายจะมีความเห็นตรงกันในเรื่องของแนวทางการแก้ปัญหา แต่อยากให้รัฐบาลตระหนักถึงสถานการณ์ที่แท้จริง
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่อยากให้สังคมเกิดความหวั่นไหวว่า การจัดการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จะขัดกับแนวทางสมานฉันท์ ซึ่งแนวทางความสมานฉันท์ มุ่งในเรื่องของการสร้างความสมานฉันท์ในหมู่ประชาชน แต่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย ผู้ที่ก่อความไม่สงบ ผู้ที่ใช้ความรุนแรงนั้น ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการที่เด็ดขาดภายใต้กฎหมายและการเคารพในสิทธิมนุษยชน และคิดว่ารัฐบาลในฐานะผู้รับผิดชอบและผู้ปฏิบัติก็ต้องแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมภายใต้นโยบายที่ได้ประกาศไป อย่างไรก็ตามวันนี้ท่านนายกฯก็ให้สัมภาษณ์พูดจาด้วยความระมัดระวัง จึงอยากให้ทุกคนในรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดี
‘อย่ามองว่าปัญหาจำกัดอยู่เฉพาะ 3 จังหวัด ยังมีพื้นที่ต่อเนื่องและพื้นที่ที่รัฐบาลต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตอกย้ำในเรื่องนี้ เพื่อให้รัฐบาลมีความตื่นตัวในการที่จะเข้ามาแก้ไขและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อไป การเสริมมาตรการต่างๆ ทั้งการข่าว การป้องกัน และการรีบทบทวนว่าจุดไหนเป็นช่องโหว่ ช่องว่าง ต้องเข้าไปดำเนินการ เชื่อว่าถ้าหากมาตรการเข้มแข็ง ก็จะทำให้ขอบเขตของปัญหาไม่ลุกลามบานปลาย ซึ่งแนวทางทั้งหมดทำได้เร็วเท่าไหร่ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องไม่สับสน การสร้างความอบอุ่นใจ การให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย และมาตรการที่จำเป็นจะต้องมีขึ้นในลักษณะที่เข้มงวดหรือเข้มแข็งก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ ขณะเดียวกันต้องขจัดเงื่อนไขในแง่ของการดำเนินนโยบายที่มองภาพรวมระยะยาวว่า อย่าไปสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมจากความผิดพลาด หรือการไปละเมิดสิทธิต่างๆที่จะทำให้มีผู้เข้าไปเป็นแนวร่วมกับผู้ที่ก่อความไม่สงบเพิ่มขึ้น’ นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์เปิดเผยว่าวันนี้พรรคได้มอบหมายให้นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคฯ นำ ส.ส.ของพรรคไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล เนื่องจากตนติดภารกิจ แต่อย่างไรก็ตามจะนำคณะของพรรคลงเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในพื้นที่อีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน 2548นี้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 4 เม.ย. 2548--จบ--
-ดท-