กรุงเทพ--27 ต.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากนายรัฐกิจ มานะทัต กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ว่า มีชาวฮ่องกงประมาณ 50 คน อ้างว่าเป็นสมาชิก New Territories Domestic Animal Association มาชุมนุมหน้าสถานกงสุลใหญ่ฯ และยื่นหนังสือประท้วงการนำเข้าเนื้อสุกรจากประเทศไทยว่า มีเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย (foot and mouth disease) และส่งผลให้มีการ แพร่ระบาดเชื้อต่อคนและสัตว์ในฮ่องกง
นายรัฐกิจฯ ได้มอบหมายให้นายสุพพัต อ่องแสงคุณ ผู้ช่วยกงสุลฝ่ายการพาณิชย์และนางสาวกานดาภา สุนทรเวช กงสุลซึ่งรับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจไปพบกับผู้แทนผู้ประท้วงจำนวน 8 คน และได้รับหนังสือประท้วงเป็นภาษาจีน ซึ่งสถานกงสุลใหญ่กำลังจัดทำ คำแปลจึงได้รับทราบเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ไปร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงเกษตรและการประมง (Fishery and Agricultural Department) ของฮ่องกงด้วยแล้ว ทั้งนี้ ผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ชี้แจงในชั้นต้นว่า ในทางปฏิบัติ กระทรวงเกษตรและการประมงของฮ่องกงได้มีมาตรการตรวจตราด้านสุขอนามัย รวมทั้งโรคปากและเท้าเปื่อยในสินค้าเนื้อสัตว์ที่นำเข้าจากต่างประเทศอยู่แล้ว
ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงได้รายงานด้วยว่า การส่งออกเนื้อสุกรจากประเทศไทยได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากข้อได้เปรียบในเรื่องราคาและคุณภาพโดยในเดือนมิถุนายน 2541 มีการนำเข้าสุกรจากประเทศไทยประมาณ 8 ตัวต่อวัน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 600-700 ตัวต่อวัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานภูมิภาคประจำกรุงเทพฯ ขององค์การอาหารโลก (FAO) และกระทรวงสาธารณสุขสรุปผลได้ดังนี้
1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทยมีกฎและระเบียบที่ให้บริษัทส่งออกเนื้อสัตว์ทุกรายนำเนื้อสัตว์ที่ส่งออกของตนมาตรวจสอบสุขอนามัยที่กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของเนื้อสัตว์ไทย อยู่แล้ว
2. ปัจจุบัน สำนักงานภูมิภาคประจำกรุงเทพฯ ของ FAO ได้ยืนยันว่า มีมาตรการติตตามตรวจสอบเนื้อสัตว์ของไทยเป็นประจำอยู่แล้ว และตามสถิติโรคปากและเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นกับปศุสัตว์ของไทยก็มีจำนวนลดลงทุกปี
3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขไทยได้ยืนยันว่า โรคปากและเท้าเปื่อยไม่สามารถติดต่อกับคนไทย
ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่าเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อยจะแพร่ระบาดเชื้อต่อคนของสมาชิก New Territories Domestic Animal Association จึงคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และอาจเป็นไปได้ที่การนำเนื้อสุกรเข้าฮ่องกงเป็นปริมาณมากจะมีผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของไทยก็จะพิจารณาตรวจสอบกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม ต่อไปเนื่องจากการส่งออกสุกรของไทยไปฮ่องกงมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากนายรัฐกิจ มานะทัต กงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ว่า มีชาวฮ่องกงประมาณ 50 คน อ้างว่าเป็นสมาชิก New Territories Domestic Animal Association มาชุมนุมหน้าสถานกงสุลใหญ่ฯ และยื่นหนังสือประท้วงการนำเข้าเนื้อสุกรจากประเทศไทยว่า มีเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย (foot and mouth disease) และส่งผลให้มีการ แพร่ระบาดเชื้อต่อคนและสัตว์ในฮ่องกง
นายรัฐกิจฯ ได้มอบหมายให้นายสุพพัต อ่องแสงคุณ ผู้ช่วยกงสุลฝ่ายการพาณิชย์และนางสาวกานดาภา สุนทรเวช กงสุลซึ่งรับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจไปพบกับผู้แทนผู้ประท้วงจำนวน 8 คน และได้รับหนังสือประท้วงเป็นภาษาจีน ซึ่งสถานกงสุลใหญ่กำลังจัดทำ คำแปลจึงได้รับทราบเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ไปร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงเกษตรและการประมง (Fishery and Agricultural Department) ของฮ่องกงด้วยแล้ว ทั้งนี้ ผู้แทนสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ชี้แจงในชั้นต้นว่า ในทางปฏิบัติ กระทรวงเกษตรและการประมงของฮ่องกงได้มีมาตรการตรวจตราด้านสุขอนามัย รวมทั้งโรคปากและเท้าเปื่อยในสินค้าเนื้อสัตว์ที่นำเข้าจากต่างประเทศอยู่แล้ว
ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกงได้รายงานด้วยว่า การส่งออกเนื้อสุกรจากประเทศไทยได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากเนื่องจากข้อได้เปรียบในเรื่องราคาและคุณภาพโดยในเดือนมิถุนายน 2541 มีการนำเข้าสุกรจากประเทศไทยประมาณ 8 ตัวต่อวัน แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 600-700 ตัวต่อวัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้ตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอันได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานภูมิภาคประจำกรุงเทพฯ ขององค์การอาหารโลก (FAO) และกระทรวงสาธารณสุขสรุปผลได้ดังนี้
1. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทยมีกฎและระเบียบที่ให้บริษัทส่งออกเนื้อสัตว์ทุกรายนำเนื้อสัตว์ที่ส่งออกของตนมาตรวจสอบสุขอนามัยที่กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของเนื้อสัตว์ไทย อยู่แล้ว
2. ปัจจุบัน สำนักงานภูมิภาคประจำกรุงเทพฯ ของ FAO ได้ยืนยันว่า มีมาตรการติตตามตรวจสอบเนื้อสัตว์ของไทยเป็นประจำอยู่แล้ว และตามสถิติโรคปากและเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นกับปศุสัตว์ของไทยก็มีจำนวนลดลงทุกปี
3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงสาธารณสุขไทยได้ยืนยันว่า โรคปากและเท้าเปื่อยไม่สามารถติดต่อกับคนไทย
ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่าเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อยจะแพร่ระบาดเชื้อต่อคนของสมาชิก New Territories Domestic Animal Association จึงคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง และอาจเป็นไปได้ที่การนำเนื้อสุกรเข้าฮ่องกงเป็นปริมาณมากจะมีผลกระทบต่อผู้เลี้ยงสุกรในฮ่องกง อย่างไรก็ตาม หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของไทยก็จะพิจารณาตรวจสอบกรณีดังกล่าวเพิ่มเติม ต่อไปเนื่องจากการส่งออกสุกรของไทยไปฮ่องกงมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--