กรุงเทพ--17 ก.พ.--กระทรวงการต่างประเทศ
วันนี้ (17 ก.พ.) ฯพณฯ ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ภายหลังจากการเดินทางกลับจากกัมพูชา สรุปได้ดังนี้
1. การส่งผู้หนีภัยจากการสู้รบชาวกัมพูชากลับมาตุภูมิ ที่ประชุม 3 ฝ่ายระหว่างรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลไทย และสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้หนีภัยของสหประชาชาติ (UNHCR) ได้เห็นพ้องกันในการที่จะส่งผู้หนีภัยจากการสู้รบชาวกัมพูชาซึ่งยังคงอยู่ในประเทศไทย กลับไปสู่ภูมิลำเนาเดิมอย่างสมัครใจและปลอดภัย โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การให้ผู้หนีภัยฯ ชาวกัมพูชาเหล่านี้กลับเข้าสู่กระบวนการทางสังคมของกัมพูชาได้อย่างเป็นอย่างดี (Reintegration) เช่น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสัมมาอาชีพ ซึ่งทั้งสามฝ่ายก็ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้ความสนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย และ มีความเห็นร่วมกันว่า ปัญหาดังกล่าว จะสิ้นสุดในเร็ววันนี้
2. ปัญหาทุ่นระเบิดในกัมพูชา ทั้งสามฝ่ายได้เห็นพ้องต้องกันต่อความสำคัญของปัญหาทุ่นระเบิดซึ่งมีจำนวนมากในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นปัญหาไม่เฉพาะกับการส่งผู้หนีภัยกลับประเทศเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อประชาชนกัมพูชาโดยทั่วไป โดยทั้งสามฝ่ายได้เรียกร้องประชาคมโลกให้ความสนับสนุนในการกู้ทุ่นระเบิด และรัฐบาลไทยควรร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างใกล้ชิดในการกู้ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาให้หมดไปโดยสิ้นเชิง
3. การฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยฯ ชาวกัมพูชา ทั้งสามฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในการที่จะเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ที่เคยเป็นที่พักพิงชั่วคราวของผู้หนีภัย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ หรือป่าไม้ โดยประชาคมโลกควรตระหนักถึงความเสียสละของประเทศไทยในส่วนนี้
4. การเข้าเยี่ยมคารวะบุคคคลสำคัญของกัมพูชา ในระหว่างการเยือนกัมพูชาครั้งนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการกับกษัตริย์สีหนุ สมเด็จฮุนเซ็นนายกรัฐมนตรี และนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมเด็จเจีย ซิม อดีตประธานสภาแห่งชาติ และสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ในระหว่างการเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์สีหนุ ได้อธิบายให้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ทราบถึงความคืบหน้าทางการเมืองของกัมพูชา ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า “กษัตริย์สีหนุ ยืนยันว่าการเมืองของกัมพูชามีเสถียรภาพ และพร้อมที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกที่ดีของสมาคมอาเซียนได้” ซึ่ง ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ จะได้นำความกราบเรียนต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ต่อไป นอกจากนี้ กษัตริย์สีหนุได้ขอบคุณประชาชนชาวไทย และประเทศไทยที่ให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่ชาวกัมพูชาซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีมาตลอด และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้จับกุมดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุโบราณที่ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฏหมาย
ในการเข้าเยี่ยมคารวะ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และ นาย ฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเห็นพ้องร่วมกันในการเร่งรัดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกันตามกรอบความร่วมมือ ซี่งมีการตกลงกันไว้ตั้งแต่การเยือนประเทศไทยของสมเด็จฮุนเซนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซนได้เน้นย้ำถึงเรื่องความร่วมมืออย่างครบวงจรในการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การลักลอบขนสินค้าเถื่อน วัตถุโบราณ ปัญหายาเสพติด ปัญหาการปักปันเขตแดน ปัญหาการกู้ทุ่นระเบิดฯลฯ โดยนายฮอร์ นัม ฮอง ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชามิได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า จะได้เชิญรัฐบาลกัมพูชามาร่วมทำร่างความตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันให้จัดการประชุมคณะกรรมา ธิการร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ภายในปีนี้ โดยกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างกัน โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานภายในครึ่งปีแรกนี้ เพื่อนำผลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมครั้งที่ 3
ในระหว่างการเยือน ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้นำสารจก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีไปมอบแก่กษัตริย์สีหนุ และสมเด็จฮุนเซ็น ซึ่งทั้งสองท่านได้ตอบสนองความคาดหวังของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีว่าประเทศกัมพูชา และประเทศไทยจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันตลอดไป ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่าจากการที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญหลายท่านในระหว่างการเยือนครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลกัมพูชามีความจริงใจในการร่วมมือกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
อนึ่ง จากการเยี่ยมชมห้องประชุมวุฒิสภาซึ่งก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า “เป็นที่เชื่อว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกระบวนการจัดตั้งวุฒิสภา ตลอดจนการเลือกตั้งวุฒิสภา จะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และกัมพูชาจะได้เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบต่อไป”--จบ--
วันนี้ (17 ก.พ.) ฯพณฯ ม.ร.ว. สุขุมพันธ์ บริพัตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ท่าอากาศยานกรุงเทพ ภายหลังจากการเดินทางกลับจากกัมพูชา สรุปได้ดังนี้
1. การส่งผู้หนีภัยจากการสู้รบชาวกัมพูชากลับมาตุภูมิ ที่ประชุม 3 ฝ่ายระหว่างรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลไทย และสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้หนีภัยของสหประชาชาติ (UNHCR) ได้เห็นพ้องกันในการที่จะส่งผู้หนีภัยจากการสู้รบชาวกัมพูชาซึ่งยังคงอยู่ในประเทศไทย กลับไปสู่ภูมิลำเนาเดิมอย่างสมัครใจและปลอดภัย โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การให้ผู้หนีภัยฯ ชาวกัมพูชาเหล่านี้กลับเข้าสู่กระบวนการทางสังคมของกัมพูชาได้อย่างเป็นอย่างดี (Reintegration) เช่น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีสัมมาอาชีพ ซึ่งทั้งสามฝ่ายก็ได้เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้ความสนับสนุนในเรื่องนี้ด้วย และ มีความเห็นร่วมกันว่า ปัญหาดังกล่าว จะสิ้นสุดในเร็ววันนี้
2. ปัญหาทุ่นระเบิดในกัมพูชา ทั้งสามฝ่ายได้เห็นพ้องต้องกันต่อความสำคัญของปัญหาทุ่นระเบิดซึ่งมีจำนวนมากในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นปัญหาไม่เฉพาะกับการส่งผู้หนีภัยกลับประเทศเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อประชาชนกัมพูชาโดยทั่วไป โดยทั้งสามฝ่ายได้เรียกร้องประชาคมโลกให้ความสนับสนุนในการกู้ทุ่นระเบิด และรัฐบาลไทยควรร่วมมือกับรัฐบาลกัมพูชาอย่างใกล้ชิดในการกู้ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาให้หมดไปโดยสิ้นเชิง
3. การฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยฯ ชาวกัมพูชา ทั้งสามฝ่ายเห็นพ้องต้องกันในการที่จะเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ที่เคยเป็นที่พักพิงชั่วคราวของผู้หนีภัย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ หรือป่าไม้ โดยประชาคมโลกควรตระหนักถึงความเสียสละของประเทศไทยในส่วนนี้
4. การเข้าเยี่ยมคารวะบุคคคลสำคัญของกัมพูชา ในระหว่างการเยือนกัมพูชาครั้งนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ และหารือข้อราชการกับกษัตริย์สีหนุ สมเด็จฮุนเซ็นนายกรัฐมนตรี และนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สมเด็จเจีย ซิม อดีตประธานสภาแห่งชาติ และสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ในระหว่างการเข้าเฝ้าฯ กษัตริย์สีหนุ ได้อธิบายให้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ทราบถึงความคืบหน้าทางการเมืองของกัมพูชา ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า “กษัตริย์สีหนุ ยืนยันว่าการเมืองของกัมพูชามีเสถียรภาพ และพร้อมที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกที่ดีของสมาคมอาเซียนได้” ซึ่ง ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ จะได้นำความกราบเรียนต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ต่อไป นอกจากนี้ กษัตริย์สีหนุได้ขอบคุณประชาชนชาวไทย และประเทศไทยที่ให้ที่พักพิงชั่วคราวแก่ชาวกัมพูชาซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีมาตลอด และขอบคุณรัฐบาลไทยที่ได้จับกุมดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุโบราณที่ถูกลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฏหมาย
ในการเข้าเยี่ยมคารวะ สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และ นาย ฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเห็นพ้องร่วมกันในการเร่งรัดความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกันตามกรอบความร่วมมือ ซี่งมีการตกลงกันไว้ตั้งแต่การเยือนประเทศไทยของสมเด็จฮุนเซนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ สมเด็จฮุนเซนได้เน้นย้ำถึงเรื่องความร่วมมืออย่างครบวงจรในการแก้ไขปัญหาชายแดนระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การลักลอบขนสินค้าเถื่อน วัตถุโบราณ ปัญหายาเสพติด ปัญหาการปักปันเขตแดน ปัญหาการกู้ทุ่นระเบิดฯลฯ โดยนายฮอร์ นัม ฮอง ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชามิได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า จะได้เชิญรัฐบาลกัมพูชามาร่วมทำร่างความตกลงเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันให้จัดการประชุมคณะกรรมา ธิการร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 3 ภายในปีนี้ โดยกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างกัน โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองประเทศเป็นประธานภายในครึ่งปีแรกนี้ เพื่อนำผลเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมครั้งที่ 3
ในระหว่างการเยือน ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ ได้นำสารจก ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีไปมอบแก่กษัตริย์สีหนุ และสมเด็จฮุนเซ็น ซึ่งทั้งสองท่านได้ตอบสนองความคาดหวังของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีว่าประเทศกัมพูชา และประเทศไทยจำเป็นที่ต้องร่วมมือกันตลอดไป ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่าจากการที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะบุคคลสำคัญหลายท่านในระหว่างการเยือนครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลกัมพูชามีความจริงใจในการร่วมมือกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิด
อนึ่ง จากการเยี่ยมชมห้องประชุมวุฒิสภาซึ่งก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฯพณฯ รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ กล่าวว่า “เป็นที่เชื่อว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกระบวนการจัดตั้งวุฒิสภา ตลอดจนการเลือกตั้งวุฒิสภา จะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และกัมพูชาจะได้เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบต่อไป”--จบ--