ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดสรรวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตผ่านธนาคารพาณิชย์ให้แก่ผู้ส่งออกเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท รวมกับของเดิม 28,000 ล้านบาท เป็น 33,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ส่งออก
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กล่าวถึงการเพิ่มวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากที่ได้มีการปรับสัดส่วนการให้กู้สมทบของธนาคารพาณิชย์สำหรับบริการแพ็คกิ้งเครดิตจาก 50 : 50 : เป็น 60 : 40 และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจาก 12% เป็น 13% เพื่อจูงใจให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ส่งอกเพิ่มขึ้น ผลปรากฏว่ามียอดการใช้วงเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม 21,986.2 ล้านบาท เป็น 27,707.2 ล้านบาท ซึ่งเกือบเต็มวงเงิน 28,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้ส่งออกยังมีความต้องการใช้วงเงินเพิ่มมากขึ้น ธสน. จึงได้เสนอขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาวงเงินเพิ่มเติม ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดสรรวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตเพิ่มให้อีก 5,000 ล้านบาท จึงทำให้ขณะนี้มียอดรวมแพ็คกิ้งเครดิตที่ให้ผ่านธนาคารพาณิชย์ 33,000 ล้านบาท และ ธสน. ให้กู้แก่ผู้ส่งออกโดยตรง 5,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตที่ได้รับจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งสิ้น 38,000 ล้านบาท
สำหรับบริการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องที่ ธสน. เซ็นสัญญากู้เงินจาก ADB ไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ ธสน. และธนาคารพาณิชย์ได้เจรจาตกลงในหลักการและวิธีปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว ผู้ส่งออกสามารถขอใช้เงินนี้เพื่อนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าออก และเพื่อใช้ในการรับซื้อตั๋วสินค้าออกทั้งที่มี L/C และไม่มี L/C คุ้มครอง โดยในเบื้องต้นผู้ส่งออกสามารถติดต่อได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ทหารไทย กรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2541 เป็นต้นไป สำหรับธนาคารพาณิชย์อื่นจะแจ้งให้ทราบเมื่อเตรียมการพร้อม
ส่วนบริการประกันการส่งออกผ่านธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้ผู้ส่งออกสามารถใช้บริการนี้ที่ธนาคารเอเชียและไทยทนุ ส่วนธนาคารพาณิชย์อื่นๆ จะทยอยให้บริการหลังจากปรับระบบคอมพิวเตอร์ภายในธนาคารแต่ละแห่งเรียบร้อยแล้ว
--Exim News, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ปีที่ 4 ฉบับ 4 ประจำเดือน เมษายน--
หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กล่าวถึงการเพิ่มวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากที่ได้มีการปรับสัดส่วนการให้กู้สมทบของธนาคารพาณิชย์สำหรับบริการแพ็คกิ้งเครดิตจาก 50 : 50 : เป็น 60 : 40 และปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจาก 12% เป็น 13% เพื่อจูงใจให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ส่งอกเพิ่มขึ้น ผลปรากฏว่ามียอดการใช้วงเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม 21,986.2 ล้านบาท เป็น 27,707.2 ล้านบาท ซึ่งเกือบเต็มวงเงิน 28,000 ล้านบาท เนื่องจากผู้ส่งออกยังมีความต้องการใช้วงเงินเพิ่มมากขึ้น ธสน. จึงได้เสนอขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยพิจารณาวงเงินเพิ่มเติม ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดสรรวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตเพิ่มให้อีก 5,000 ล้านบาท จึงทำให้ขณะนี้มียอดรวมแพ็คกิ้งเครดิตที่ให้ผ่านธนาคารพาณิชย์ 33,000 ล้านบาท และ ธสน. ให้กู้แก่ผู้ส่งออกโดยตรง 5,000 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินแพ็คกิ้งเครดิตที่ได้รับจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทั้งสิ้น 38,000 ล้านบาท
สำหรับบริการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องที่ ธสน. เซ็นสัญญากู้เงินจาก ADB ไปเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ ธสน. และธนาคารพาณิชย์ได้เจรจาตกลงในหลักการและวิธีปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว ผู้ส่งออกสามารถขอใช้เงินนี้เพื่อนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าออก และเพื่อใช้ในการรับซื้อตั๋วสินค้าออกทั้งที่มี L/C และไม่มี L/C คุ้มครอง โดยในเบื้องต้นผู้ส่งออกสามารถติดต่อได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ ทหารไทย กรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2541 เป็นต้นไป สำหรับธนาคารพาณิชย์อื่นจะแจ้งให้ทราบเมื่อเตรียมการพร้อม
ส่วนบริการประกันการส่งออกผ่านธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้ผู้ส่งออกสามารถใช้บริการนี้ที่ธนาคารเอเชียและไทยทนุ ส่วนธนาคารพาณิชย์อื่นๆ จะทยอยให้บริการหลังจากปรับระบบคอมพิวเตอร์ภายในธนาคารแต่ละแห่งเรียบร้อยแล้ว
--Exim News, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ปีที่ 4 ฉบับ 4 ประจำเดือน เมษายน--