1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในข้าวนาปี 2541/42
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล สามารถทำความเสียหายแก่ข้าวนาปีและนาปรัง โดยทำให้ข้าวแห้งตายเป็นหย่อม ๆ นอกจากนั้นยังเป็นพาหะนำโรคไวรัสมาสู่ข้าว ทำให้ข้าวเป็นโรคใบหงิก (โรคจู๋) เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลส่วนมักจะเกิดในพื้นที่เขตชลประทานที่มีการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับในฤดูนาปี ปี 2541/42 จากข้อมูลกรมส่งเสริมการเกษตรคาดว่าจะมีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศใน 45 จังหวัด รวมพื้นที่ที่ต้องช่วยเหลือประมาณ 5.0 ล้านไร่ โดย
1) ภาคเหนือ คาดว่าจะระบาด 20% ของพื้นที่เพาะปลูก
2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะระบาด 3% ของพื้นที่เพาะปลูก
3) ภาคกลาง คาดว่าจะระบาด 30% ของพื้นที่เพาะปลูก
4) ภาคตะวันตก คาดว่าจะระบาด 20% ของพื้นที่เพาะปลูก
5) ภาคตะวันออก คาดว่าจะระบาด 15% ของพื้นที่เพาะปลูก
6) ภาคใต้ คาดว่าจะระบาด 1% ของพื้นที่เพาะปลูก
สถานการณ์การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ จากปรากฎการณ์ EI Nino และมีการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องโดยใช้พันธุ์ข้าวชนิดเดียวกันเป็นพื้นที่ที่กว้างขวางตลอดจนการปฎิบัติดูแลนาข้าวที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นที่น่าวิตกว่าการระบาดจะลุกลามต่อไปจนถึงฤดูการทำนาปรัง ปี 2542 ดังนั้นเพื่อตัดวงจรชีวิตของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเกษตรกรควรเปลี่ยนไปปลูกพืชไร่และพืชผักทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง
นโยบายและมาตรการข้าว ปี 2540/41 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่รับผิดชอบ ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์ปีการผลิต 2540/41 ซึ่งผลการรวบรวมข้าวเปลือก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2541 ได้ทั้งสิ้น 427,931.71 ตัน มูลค่า 3,004.06 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของ ธ.ก.ส. ปีการผลิต 2540/41 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2541 รับจำนำปริมาณ 786,363 ตัน มูลค่า 2,938.73 ล้านบาท และได้ไถ่ถอน 616,082 ตันมูลค่า 2,379.24 ล้านบาท
ภาวะการซื้อขายข้าวในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาข้าวได้อ่อนตัวลงเนื่องจากปริมาณข้าวในสต๊อกของผู้ซื้อมีเพียงพอกับการส่งออก ประกอบกับผู้ซื้อต่างเกรงว่าจะประสบกับการไม่คุ้มทุน จากการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น ส่งผลให้ผู้ซื้อชะลอการรับซื้อและเสนอราคารับซื้อต่ำลง
กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานถึงสถานการณ์ข้าวส่งออกว่าขณะนี้ประเทศไทยสามารถส่งข้าวออกได้แล้วประมาณ 5.2 ล้านตันข้าวสาร (มค.-ตค.) สูงขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 27 แสดงให้เห็นว่าปริมาณข้าวส่งออกของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี และการส่งออกข้าวยังมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราเฉลี่ย คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 ตันต่อเดือน และเมื่อถึงสิ้นปี 2541 ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 6.0 ล้านตันข้าวสาร
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 4 พฤศจิกายน 2541 ไทยส่งออกข้าวรวม 5,248,182 ตัน สูงขึ้นจาก 4,140,335 ตัน ของการส่งออกช่วงระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 27.00
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 6,923 บาท ลดลงจากเกวียนละ 7,485 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 7.51
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 5,821 บาท ลดลงจากเกวียนละ 6,790 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 14.26
ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี ความชื้น 14-15% ที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 5,710 บาท ลดลงจากเกวียนละ 6,300 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 9.37
ราคาขายส่งตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 9,028 บาท ลดลงจากตันละ 10,148 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 11.04
ราคาส่งออกเอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,920 บาท/ตัน) ลดลงจากตันละ 310 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,548 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.23
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
ผลผลิตข้าวของฟิลปิปินส์ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพายุไต้ฝุ่น Zeb และ Babs ได้พัดผ่านประเทศฟิลิปปินส์ทำให้ผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายประมาณ 645,046 ตัน ส่งผลให้ฟิลิปปินส์ ต้องสั่งซื้อข้าวเพิ่มเติมจำนวน 300,000 ตัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ อย่างไรก็ดี ในปี 2541 ฟิลปปินส์ ได้นำเข้าข้าวแล้วเป็นจำนวน 2.165 ล้านตัน เนื่องมาจากปรากฎการณ์ EI Nino ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้ง ผลผลิตข้าวได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ปรากฎการณ์ La Nina ได้ทำให้ ฟิลิปปินส์ ประสบกับพายุฝนและน้ำท่วม ทำความเสียหายกับพื้นที่ทางการเกษตร
เวียดนามจะส่งออกข้าวได้ 3.8 ล้านตันข้าวสาร ในปี 2541
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2541 ตลาดข้าวภายในประเทศเวียดนามค่อนข้างเงียบ เนื่องจากราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยราคาส่งออกข้าวเวียดนามในช่วงนี้ ราคาส่งออกข้าว 5% ตันละ 280-285 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าว 10% ตันละ 275-280 ดอลลาร์สหรัฐ และข้าว 25% ตันละ 265 ดอลลาร์สหรัฐ
ตั้งแต่มกราคม-กันยายน 2541 เวียดนามได้ส่งข้าวออกประมาณ 3.6 ล้านตันและคาดว่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541 เวียดนามจะส่งข้าวออกได้ทั้งสิ้น 3.8 ล้านตัน เทียบกับ 3.55 ล้านตันของปีที่แล้ว ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0
สำหรับสถานการณ์การผลิตข้าวของเวียนาม ปี 2541/42 ได้เกิดภาวะน้ำท่วมบริเวณสามเหลี่ยมปากน้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญเพียงเล็กน้อย กลับส่งผลดีให้กับการเพาะปลูกข้าวฤดูการผลิต winter-spring ซึ่งคาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ช่วงเดือนมกราคม 2542 แทนที่จะเก็บเกี่ยวเดือน มีนาคม เช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
ราคาข้าวในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประกาศราคาข้าวในตลาดโลก ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 เทียบกับที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 ดังนี้
ข้าวเมล็ดยาวปอนด์ละ 13.33 เซนต์ (10.66 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดกลางปอนด์ละ 11.92 เซนต์ (9.54 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดสั้นปอนด์ละ 11.84 เซนต์ (9.70 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหักปอนด์ละ 6.67 เซนต์ (5.34 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อนหมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 36.40 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 41 ประจำวันที่ 2 - 8 พ.ย. 2541--
การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ในข้าวนาปี 2541/42
เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล สามารถทำความเสียหายแก่ข้าวนาปีและนาปรัง โดยทำให้ข้าวแห้งตายเป็นหย่อม ๆ นอกจากนั้นยังเป็นพาหะนำโรคไวรัสมาสู่ข้าว ทำให้ข้าวเป็นโรคใบหงิก (โรคจู๋) เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลส่วนมักจะเกิดในพื้นที่เขตชลประทานที่มีการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับในฤดูนาปี ปี 2541/42 จากข้อมูลกรมส่งเสริมการเกษตรคาดว่าจะมีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญของประเทศใน 45 จังหวัด รวมพื้นที่ที่ต้องช่วยเหลือประมาณ 5.0 ล้านไร่ โดย
1) ภาคเหนือ คาดว่าจะระบาด 20% ของพื้นที่เพาะปลูก
2) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะระบาด 3% ของพื้นที่เพาะปลูก
3) ภาคกลาง คาดว่าจะระบาด 30% ของพื้นที่เพาะปลูก
4) ภาคตะวันตก คาดว่าจะระบาด 20% ของพื้นที่เพาะปลูก
5) ภาคตะวันออก คาดว่าจะระบาด 15% ของพื้นที่เพาะปลูก
6) ภาคใต้ คาดว่าจะระบาด 1% ของพื้นที่เพาะปลูก
สถานการณ์การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ จากปรากฎการณ์ EI Nino และมีการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องโดยใช้พันธุ์ข้าวชนิดเดียวกันเป็นพื้นที่ที่กว้างขวางตลอดจนการปฎิบัติดูแลนาข้าวที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็นที่น่าวิตกว่าการระบาดจะลุกลามต่อไปจนถึงฤดูการทำนาปรัง ปี 2542 ดังนั้นเพื่อตัดวงจรชีวิตของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเกษตรกรควรเปลี่ยนไปปลูกพืชไร่และพืชผักทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง
นโยบายและมาตรการข้าว ปี 2540/41 ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่รับผิดชอบ ได้แก่ โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์ปีการผลิต 2540/41 ซึ่งผลการรวบรวมข้าวเปลือก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2541 ได้ทั้งสิ้น 427,931.71 ตัน มูลค่า 3,004.06 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของ ธ.ก.ส. ปีการผลิต 2540/41 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2540 ถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2541 รับจำนำปริมาณ 786,363 ตัน มูลค่า 2,938.73 ล้านบาท และได้ไถ่ถอน 616,082 ตันมูลค่า 2,379.24 ล้านบาท
ภาวะการซื้อขายข้าวในช่วงสัปดาห์นี้ ราคาข้าวได้อ่อนตัวลงเนื่องจากปริมาณข้าวในสต๊อกของผู้ซื้อมีเพียงพอกับการส่งออก ประกอบกับผู้ซื้อต่างเกรงว่าจะประสบกับการไม่คุ้มทุน จากการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวขึ้น ส่งผลให้ผู้ซื้อชะลอการรับซื้อและเสนอราคารับซื้อต่ำลง
กระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานถึงสถานการณ์ข้าวส่งออกว่าขณะนี้ประเทศไทยสามารถส่งข้าวออกได้แล้วประมาณ 5.2 ล้านตันข้าวสาร (มค.-ตค.) สูงขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 27 แสดงให้เห็นว่าปริมาณข้าวส่งออกของไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี และการส่งออกข้าวยังมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราเฉลี่ย คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 ตันต่อเดือน และเมื่อถึงสิ้นปี 2541 ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่า 6.0 ล้านตันข้าวสาร
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 4 พฤศจิกายน 2541 ไทยส่งออกข้าวรวม 5,248,182 ตัน สูงขึ้นจาก 4,140,335 ตัน ของการส่งออกช่วงระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 27.00
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 6,923 บาท ลดลงจากเกวียนละ 7,485 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 7.51
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5% ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 5,821 บาท ลดลงจากเกวียนละ 6,790 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 14.26
ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี ความชื้น 14-15% ที่ท่าข้าวกำนันทรง จังหวัดนครสวรรค์ สัปดาห์นี้เฉลี่ยเกวียนละ 5,710 บาท ลดลงจากเกวียนละ 6,300 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 9.37
ราคาขายส่งตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 9,028 บาท ลดลงจากตันละ 10,148 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 11.04
ราคาส่งออกเอฟ.โอ.บี
ราคาข้าวสารเจ้า 5% (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10,920 บาท/ตัน) ลดลงจากตันละ 310 ดอลลาร์สหรัฐฯ (11,548 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.23
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
ผลผลิตข้าวของฟิลปิปินส์ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพายุไต้ฝุ่น Zeb และ Babs ได้พัดผ่านประเทศฟิลิปปินส์ทำให้ผลผลิตข้าวได้รับความเสียหายประมาณ 645,046 ตัน ส่งผลให้ฟิลิปปินส์ ต้องสั่งซื้อข้าวเพิ่มเติมจำนวน 300,000 ตัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศ อย่างไรก็ดี ในปี 2541 ฟิลปปินส์ ได้นำเข้าข้าวแล้วเป็นจำนวน 2.165 ล้านตัน เนื่องมาจากปรากฎการณ์ EI Nino ทำให้เกิดสภาพอากาศแห้งแล้ง ผลผลิตข้าวได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ปรากฎการณ์ La Nina ได้ทำให้ ฟิลิปปินส์ ประสบกับพายุฝนและน้ำท่วม ทำความเสียหายกับพื้นที่ทางการเกษตร
เวียดนามจะส่งออกข้าวได้ 3.8 ล้านตันข้าวสาร ในปี 2541
ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2541 ตลาดข้าวภายในประเทศเวียดนามค่อนข้างเงียบ เนื่องจากราคาข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยราคาส่งออกข้าวเวียดนามในช่วงนี้ ราคาส่งออกข้าว 5% ตันละ 280-285 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าว 10% ตันละ 275-280 ดอลลาร์สหรัฐ และข้าว 25% ตันละ 265 ดอลลาร์สหรัฐ
ตั้งแต่มกราคม-กันยายน 2541 เวียดนามได้ส่งข้าวออกประมาณ 3.6 ล้านตันและคาดว่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2541 เวียดนามจะส่งข้าวออกได้ทั้งสิ้น 3.8 ล้านตัน เทียบกับ 3.55 ล้านตันของปีที่แล้ว ส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.0
สำหรับสถานการณ์การผลิตข้าวของเวียนาม ปี 2541/42 ได้เกิดภาวะน้ำท่วมบริเวณสามเหลี่ยมปากน้ำโขง ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญเพียงเล็กน้อย กลับส่งผลดีให้กับการเพาะปลูกข้าวฤดูการผลิต winter-spring ซึ่งคาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ช่วงเดือนมกราคม 2542 แทนที่จะเก็บเกี่ยวเดือน มีนาคม เช่นทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
ราคาข้าวในตลาดโลก
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประกาศราคาข้าวในตลาดโลก ณ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2541 เทียบกับที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2541 ดังนี้
ข้าวเมล็ดยาวปอนด์ละ 13.33 เซนต์ (10.66 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดกลางปอนด์ละ 11.92 เซนต์ (9.54 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวเมล็ดสั้นปอนด์ละ 11.84 เซนต์ (9.70 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวหักปอนด์ละ 6.67 เซนต์ (5.34 บาท/กก.) ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อนหมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 36.40 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ฉบับที่ 41 ประจำวันที่ 2 - 8 พ.ย. 2541--