กรุงเทพ--28 ก.ย.--กระทรวงการต่างประเทศ
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลแจ้งว่า องค์การ Kav La Oved ซึ่งเป็นองค์การช่วยเหลือคนงานปาเลสไตน์และคนงานต่างชาติในอิสราเอลได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่า เมื่อปี พ.ศ. 2537 บริษัทรับเหมาก่อสร้างของอิสราเอล 3 บริษัท คือ บริษัทอิสราเอลคาน บริษัทอารดิน และบริษัทโอเมก้า ได้ล้มละลาย และองค์การฯ ได้ร้องเรียนสถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอล (Natinal Insurance Institute-NII) ให้พิจารณาช่วยเหลือคนงานของบริษัททั้งสาม ซึ่งมีคนงานก่อสร้างไทยรวมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่งนั้น บัดนี้ สถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอลได้ตกลงให้ความช่วยเหลือแก่คนงานของบริษัททั้งสามแล้ว และกำลังดำเนินเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่คนงานอยู่ จึงขอความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งให้คนงานไทยที่ได้เคยทำงานกับบริษัทดังกล่าวและยังไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทฯ ยื่นคำร้องต่อสถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอลที่กรุงเยรูซาเล็ม พร้อมทั้งแจ้งเลขที่บัญชีธนาคารของตน จะเป็นบัญชีธนาคารในประเทศอิสราเอลหรือบัญชีธนาคารในประเทศไทยก็ได้ ทั้งนี้ สถาบันประกันฯ จะจ่ายเงินโดยการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของคนงานที่นายจ้างค้างจ่ายเงินเท่านั้น
สถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งด้วยว่า กรณีบริษัทก่อสร้างล้มละลายข้างต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่สอท. จะเปิดทำการในอิสราเอล และจากการสอบถามคนงานที่เคยทำงานกับบริษัทก่อสร้างข้างต้น ซึ่งบางคนยังทำงานอยู่ในอิสราเอลได้ความว่า คนงานที่เดินทางไปทำงานกับบริษัททั้งสามในอิสราเอลมีจำนวนรวมประมาณ 50-60 คน และเป็นการเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลกันเอง โดยไม่มีบริษัทจัดหางานไทยจัดส่งไป แต่ในช่วงที่บริษัทล้มละลายในปี พ.ศ. 2538 มีคนงานไทยเหลืออยู่ประมาณ 20 คน เนื่องจากคนงานส่วนใหญ่ได้ทะยอยหนีไปทำงานกับนายจ้างอื่นก่อนหน้านี้ เพราะถูกบริษัททั้งสามโกงและไม่จ่ายค่าจ้างตามอัตราในสัญญาจ้าง
อย่างไรก็ตาม โดยที่ในขณะนี้คนงานส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดได้เดินทางกลับไปประเทศไทยแล้ว จึงขอให้คนงานไทย ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัดได้ทราบและติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศ(ศูนย์คุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ) เพื่อยื่นคำร้องขอเงินช่วยเหลือต่อไป
อนึ่ง สำหรับหลักฐานเอกสารที่คนงานควรนำมามอบให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อใช้ในการยื่นคำร้อง ได้แก่
1. สำเนาหนังสือเดินทางและสำเนาตราประทับเดินทางเข้า-ออกอิสราเอล
2. สำเนาบัตรประชาชน (เพื่อการตรวจสอบของกระทรวงฯ และ สอท.)
3. บัตรคนงานที่บริษัทนายจ้างออกให้หรือสัญญาจ้างงาน
4. สำเนาบัญชีธนาคารที่ปรากฎชื่อคนงาน ชื่อธนาคาร และเลขที่บัญชี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
ด้วยกระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลแจ้งว่า องค์การ Kav La Oved ซึ่งเป็นองค์การช่วยเหลือคนงานปาเลสไตน์และคนงานต่างชาติในอิสราเอลได้มีหนังสือถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งว่า เมื่อปี พ.ศ. 2537 บริษัทรับเหมาก่อสร้างของอิสราเอล 3 บริษัท คือ บริษัทอิสราเอลคาน บริษัทอารดิน และบริษัทโอเมก้า ได้ล้มละลาย และองค์การฯ ได้ร้องเรียนสถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอล (Natinal Insurance Institute-NII) ให้พิจารณาช่วยเหลือคนงานของบริษัททั้งสาม ซึ่งมีคนงานก่อสร้างไทยรวมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่งนั้น บัดนี้ สถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอลได้ตกลงให้ความช่วยเหลือแก่คนงานของบริษัททั้งสามแล้ว และกำลังดำเนินเรื่องเกี่ยวกับการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่คนงานอยู่ จึงขอความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งให้คนงานไทยที่ได้เคยทำงานกับบริษัทดังกล่าวและยังไม่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทฯ ยื่นคำร้องต่อสถาบันประกันแห่งชาติของอิสราเอลที่กรุงเยรูซาเล็ม พร้อมทั้งแจ้งเลขที่บัญชีธนาคารของตน จะเป็นบัญชีธนาคารในประเทศอิสราเอลหรือบัญชีธนาคารในประเทศไทยก็ได้ ทั้งนี้ สถาบันประกันฯ จะจ่ายเงินโดยการโอนเข้าบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของคนงานที่นายจ้างค้างจ่ายเงินเท่านั้น
สถานเอกอัครราชทูตฯ แจ้งด้วยว่า กรณีบริษัทก่อสร้างล้มละลายข้างต้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่สอท. จะเปิดทำการในอิสราเอล และจากการสอบถามคนงานที่เคยทำงานกับบริษัทก่อสร้างข้างต้น ซึ่งบางคนยังทำงานอยู่ในอิสราเอลได้ความว่า คนงานที่เดินทางไปทำงานกับบริษัททั้งสามในอิสราเอลมีจำนวนรวมประมาณ 50-60 คน และเป็นการเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลกันเอง โดยไม่มีบริษัทจัดหางานไทยจัดส่งไป แต่ในช่วงที่บริษัทล้มละลายในปี พ.ศ. 2538 มีคนงานไทยเหลืออยู่ประมาณ 20 คน เนื่องจากคนงานส่วนใหญ่ได้ทะยอยหนีไปทำงานกับนายจ้างอื่นก่อนหน้านี้ เพราะถูกบริษัททั้งสามโกงและไม่จ่ายค่าจ้างตามอัตราในสัญญาจ้าง
อย่างไรก็ตาม โดยที่ในขณะนี้คนงานส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดได้เดินทางกลับไปประเทศไทยแล้ว จึงขอให้คนงานไทย ซึ่งทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัดได้ทราบและติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศ(ศูนย์คุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ) เพื่อยื่นคำร้องขอเงินช่วยเหลือต่อไป
อนึ่ง สำหรับหลักฐานเอกสารที่คนงานควรนำมามอบให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อใช้ในการยื่นคำร้อง ได้แก่
1. สำเนาหนังสือเดินทางและสำเนาตราประทับเดินทางเข้า-ออกอิสราเอล
2. สำเนาบัตรประชาชน (เพื่อการตรวจสอบของกระทรวงฯ และ สอท.)
3. บัตรคนงานที่บริษัทนายจ้างออกให้หรือสัญญาจ้างงาน
4. สำเนาบัญชีธนาคารที่ปรากฎชื่อคนงาน ชื่อธนาคาร และเลขที่บัญชี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--