ระเบียบปฏิบัติภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนที่ปรับปรุงใหม่

          นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สิทธิพิเศษภายใต้เขตการค้าเสรี อาเซียน ซึ่งมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2536 ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตกลงปรับปรุงระเบียบปฎิบัติ ในการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าใหม่ โดยมีรายละเอียดในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ 
          1. กำหนดให้ยื่นหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ( Form D ) ต่อศุลกากรประเทศ ที่นำเข้าได้ภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ออกฟอร์มดีฉบับนั้น 
          2. กรณีไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดสินค้า แต่ตรวจพบว่ามีความแตกต่างเล็กน้อย ( Minor Discrepancy ) เช่น พิกัดย่อย แตกต่างกันระหว่างหน่วยงานผู้ออกและหน่วยงาน ผู้รับหนังสือรับรองฯ หรือ ข้อความที่ระบุในหนังสือรับรองฯ ฟอร์ม ดี กับข้อความในเอกสารที่ยื่นประกอบแตกต่างกัน ให้ถือว่าไม่มีผล ทำให้หนังสือรับรองฯฟอร์มดีฉบับนั้นเสียไป 
          3. ผู้ขายสินค้าสามารถใช้ใบแจ้งราคาขายที่ออกโดยบุคคลที่3 (Third party re-invoicing ) ยื่นต่อศุลกากร ปลายทางได้ เนื่องจากข้อตกลงกำหนดให้หน่วยงานนำเข้าของรัฐบาลในประเทศสมาชิกสามารถยอมรับหนังสือ รับรองฯฟอร์ม ดี ในกรณีที่มีการใช้ใบแจ้งราคาขาย (sale invoice) จากประเทศนอกอาเซียน หรือจากผู้ส่งออกใน อาเซียนผู้ทำหน้าที่นายหน้าในการซื้อขายหรือผู้ที่รับผิดชอบในการจัดทำบัญชีราคาขายสินค้า โดยสินค้านั้นจะต้อง ผลิตได้ตรงตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า 
          นอกจากนี้ อาเซียนกำลังพิจารณาปรับปรุงกฎแหล่งกำเนิดสินค้าโดยนำเกณฑ์การแปรสภาพอย่างเพียงพอ ( Substantial Transformation : ST ) โดยการเปลี่ยนพิกัดอัตราศุลกากร มาใช้สำหรับสินค้าที่ไม่สามารถผ่านหลักเกณฑ์การใช้สัดส่วนการผลิตในประเทศ ( local content 40 % ) ได้โดยสินค้าที่ตกลงให้ใช้ คือ แป้งสาลี ซึ่งใช้หลักเกณฑ์การเปลี่ยนพิกัดอัตราศุลกากรในระดับ 2 หลัก ( CC ) ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ เหล็ก อลูมิเนียม
          อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมูลค่าการส่งออกภายใต้ CEPT ปี 2548( มกราคม- สิงหาคม)มีมูลค่า3,361 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ซึ่งมีมูลค่า 2,520 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.37 
          สำหรับสินค้าที่ไทยใช้สิทธิภายใต้ CEPT สูง ได้แก่ ส่วนประกอบยานยนต์ รถยนต์ แชมพู เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างหรือติดผนัง ซีเมนต์เม็ด ตู้เย็น เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อที่สำนัก ส่งเสริมและพัฒนาสิทธิประโยชน์ทางการค้า โทร. 02-5474872 โทรสาร 02-5474816 
          กรมการค้าระหว่างประเทศ
-สส-