แท็ก
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
องอาจ คล้ามไพบูลย์
บัญญัติ บรรทัดฐาน
พรรคประชาธิปัตย์
การเลือกตั้ง
เป็นข่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องสติกเกอร์ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค รวมทั้งนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพฯ ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้หลายครั้ง แต่ยังมีความพยายามที่จะนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมือง ในการทำลายคะแนนนิยมของพรรคประชาธิปัตย์อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยการกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำสติกเกอร์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างว่า เป็นข้อความที่หมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมายนั้น และมีความพยายามที่จะโยงว่าเป็นการกระทำของพรรคประชาธิปัตย์ มีความพยายามที่จะโยงว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องร้ายแรงทางการเมือง ถึงขั้นที่จะต้องยุบพรรค และพยายามที่จะใส่ร้ายป้ายสีแกนนำของพรรคหลายคน ว่าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
พรรคขอตั้งข้อสังเกตว่า
1. นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจและนำสติกเกอร์ที่เป็นข่าวไว้ในครอบครอง ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. จนกระทั่งวันนี้ ผ่านไป 8 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ใดทั้งสิ้น นอกจากการพยายามออกข่าวว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่ตลอดเวลา
2. การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น มีข้อน่าสงสัยหลายประการ โดยเฉพาะการพยายามออกข่าวเกินกว่าหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพึงกระทำ ทำให้ประชาชนไขว้เขว ในข้อเท็จจริง และเชื่อถือในข้อมูลที่นำมาเสนอ ทั้งที่หลายข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งถ้าข้อมูลใดถูกนำเสนอโดยไม่เป็นความจริง และเป็นข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคหรือต่อบุคคลใดในพรรคก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของพรรค และของคนในพรรค ไม่ให้เกิดความเสื่อมเสีย จากการกล่าวให้ร้ายป้ายสีของเจ้าหน้าที่หรือนักการเมือง หรือผู้ใดก็ตามที่ออกมากล่าวในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรค รวมทั้งนักกฎหมายอิสระหลายท่านที่จะเข้ามามีส่วนในการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง โดยจะพยายามทำให้เร็วที่สุด
3. พรรคเห็นว่าเป็นการใช้วิชามารสร้างสถานการณ์โดยใช้คนของรัฐเป็นเครื่องมือ กระทำการเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 4. การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็น รวมทั้งเป็นความพยายามที่จะเล่นข่าว เพื่อสร้างความสงสัยให้เกิดกับประชาชน รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้เกิดขึ้นกับพรรค อย่างเป็นขบวนการ พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่าบุคคลใดก็ตาม ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผิดกฎหมาย ก็ขอให้เจ้าหน้าที่หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายมากกว่าที่จะดำเนินการรับใช้นักการเมือง เพื่อเอากฎหมายนั้นมาบิดเบือนหรือเล่นงานคู่แข่งทางการเมืองในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าญาติของผู้สมัครเขตคลองเตยข่มขู่พยาน นายองอาจกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือผู้สมัคร หรือใครก็ตาม ทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย จากการสอบถามนายถนอมในเบื้องต้น นายถนอมได้แจ้งว่าไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด ซึ่งตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อพรรคในช่วงแรกๆ เพราะมีการให้ข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แต่เมื่อประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นก็เริ่มเข้าใจว่า เป็นการเล่นเกมการเมืองอย่างสกปรก
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่มีนโยบายและไม่มีมติ ที่จะให้พิมพ์สติกเกอร์อะไรทั้งสิ้น ส่วนที่พรรคไทยรักไทยบอกว่ามีเทปลับการประชุม เราก็ไม่ทราบว่ามีได้อย่างไร รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการเรียกคนของพรรคไปสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด “ยิ่งเวลานานมากขึ้น ประชาชนก็จะยิ่งเห็นความจริงมากขึ้น ว่า นักการเมืองต้องการทำเรื่องนี้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย หรือ เพื่อหวังผลทำลายล้างคู่แข่งกันแน่ เรื่องนี้มีพิรุธหลายอย่าง มีความไม่ชอบมาพากลหลายกรณี เช่น ทำไมต้องเกิดที่คลองเตย ทำไมต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ หลังจากนั้นท่านนายกฯก็เกรี้ยวกราดในเรื่องนี้อย่างผิดสังเกต” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว และว่า การตรวจสอบเทปที่พรรคไทยรักไทยอ้างถึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้าไปตรวจสอบได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-
พรรคขอตั้งข้อสังเกตว่า
1. นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจและนำสติกเกอร์ที่เป็นข่าวไว้ในครอบครอง ตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. จนกระทั่งวันนี้ ผ่านไป 8 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ใดทั้งสิ้น นอกจากการพยายามออกข่าวว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่ตลอดเวลา
2. การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น มีข้อน่าสงสัยหลายประการ โดยเฉพาะการพยายามออกข่าวเกินกว่าหน้าที่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพึงกระทำ ทำให้ประชาชนไขว้เขว ในข้อเท็จจริง และเชื่อถือในข้อมูลที่นำมาเสนอ ทั้งที่หลายข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งถ้าข้อมูลใดถูกนำเสนอโดยไม่เป็นความจริง และเป็นข้อมูลที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพรรคหรือต่อบุคคลใดในพรรคก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของพรรค และของคนในพรรค ไม่ให้เกิดความเสื่อมเสีย จากการกล่าวให้ร้ายป้ายสีของเจ้าหน้าที่หรือนักการเมือง หรือผู้ใดก็ตามที่ออกมากล่าวในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของพรรค รวมทั้งนักกฎหมายอิสระหลายท่านที่จะเข้ามามีส่วนในการตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง โดยจะพยายามทำให้เร็วที่สุด
3. พรรคเห็นว่าเป็นการใช้วิชามารสร้างสถานการณ์โดยใช้คนของรัฐเป็นเครื่องมือ กระทำการเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 4. การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนประเด็น รวมทั้งเป็นความพยายามที่จะเล่นข่าว เพื่อสร้างความสงสัยให้เกิดกับประชาชน รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้เกิดขึ้นกับพรรค อย่างเป็นขบวนการ พรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นว่าบุคคลใดก็ตาม ที่ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ผิดกฎหมาย ก็ขอให้เจ้าหน้าที่หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายมากกว่าที่จะดำเนินการรับใช้นักการเมือง เพื่อเอากฎหมายนั้นมาบิดเบือนหรือเล่นงานคู่แข่งทางการเมืองในช่วงที่มีการเลือกตั้ง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าญาติของผู้สมัครเขตคลองเตยข่มขู่พยาน นายองอาจกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นญาติหรือผู้สมัคร หรือใครก็ตาม ทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย จากการสอบถามนายถนอมในเบื้องต้น นายถนอมได้แจ้งว่าไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด ซึ่งตนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อพรรคในช่วงแรกๆ เพราะมีการให้ข่าวที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง แต่เมื่อประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้นก็เริ่มเข้าใจว่า เป็นการเล่นเกมการเมืองอย่างสกปรก
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไม่มีนโยบายและไม่มีมติ ที่จะให้พิมพ์สติกเกอร์อะไรทั้งสิ้น ส่วนที่พรรคไทยรักไทยบอกว่ามีเทปลับการประชุม เราก็ไม่ทราบว่ามีได้อย่างไร รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีการเรียกคนของพรรคไปสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด “ยิ่งเวลานานมากขึ้น ประชาชนก็จะยิ่งเห็นความจริงมากขึ้น ว่า นักการเมืองต้องการทำเรื่องนี้ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย หรือ เพื่อหวังผลทำลายล้างคู่แข่งกันแน่ เรื่องนี้มีพิรุธหลายอย่าง มีความไม่ชอบมาพากลหลายกรณี เช่น ทำไมต้องเกิดที่คลองเตย ทำไมต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ หลังจากนั้นท่านนายกฯก็เกรี้ยวกราดในเรื่องนี้อย่างผิดสังเกต” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว และว่า การตรวจสอบเทปที่พรรคไทยรักไทยอ้างถึงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่เรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเข้าไปตรวจสอบได้
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 31 ม.ค.2548--จบ--
-ดท-