กรุงเทพ--19 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ
ตามที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับคำสัมภาษณ์ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรื่องการพิจารณาลงโทษผู้นำเขมรแดง รวมทั้งคำสัมภาษณ์ที่มีนัยว่า ประเทศไทยให้ที่พักพิงแก่ผู้นำคนหนึ่งของเขมรแดงนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนข้อเท็จจริงดังนี้
1. ประเทศไทยมีนโยบายและจุดยืนที่ชัดเจนที่ไม่สนับสนุนนโยบายและการปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาระหว่างการครองอำนาจของเขมรแดงในช่วงปี ค.ศ. 1975 — 1979 และถือว่าปัญหาเขมรแดงเป็นกิจการภายในของกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาจะต้องตัดสินใจเองเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้
2. ประเทศไทยไม่เคยปกป้องหรือคุ้มครองผู้นำเขมรแดง และถ้าพบว่าผู้ใดเข้ามาใน ราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายไทย และรัฐบาลไทยพร้อมจะให้ความ ร่วมมือเกี่ยวกับปัญหาเขมรแดงภายในกรอบกฎหมายไทยและพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ
3. ประเทศไทยพร้อมจะให้ความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศในการสนับสนุน การฟื้นฟูและพัฒนาประเทศกัมพูชา และเห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาควรจะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อความสำเร็จของการประชุมกลุ่มประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือแก่กัมพูชาซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งพิธีรับกัมพูชาเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศเวียดนามในอนาคตต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--
ตามที่มีรายงานข่าวเกี่ยวกับคำสัมภาษณ์ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรื่องการพิจารณาลงโทษผู้นำเขมรแดง รวมทั้งคำสัมภาษณ์ที่มีนัยว่า ประเทศไทยให้ที่พักพิงแก่ผู้นำคนหนึ่งของเขมรแดงนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนข้อเท็จจริงดังนี้
1. ประเทศไทยมีนโยบายและจุดยืนที่ชัดเจนที่ไม่สนับสนุนนโยบายและการปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาระหว่างการครองอำนาจของเขมรแดงในช่วงปี ค.ศ. 1975 — 1979 และถือว่าปัญหาเขมรแดงเป็นกิจการภายในของกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาจะต้องตัดสินใจเองเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องนี้
2. ประเทศไทยไม่เคยปกป้องหรือคุ้มครองผู้นำเขมรแดง และถ้าพบว่าผู้ใดเข้ามาใน ราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายไทย และรัฐบาลไทยพร้อมจะให้ความ ร่วมมือเกี่ยวกับปัญหาเขมรแดงภายในกรอบกฎหมายไทยและพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ
3. ประเทศไทยพร้อมจะให้ความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศในการสนับสนุน การฟื้นฟูและพัฒนาประเทศกัมพูชา และเห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาควรจะสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อความสำเร็จของการประชุมกลุ่มประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือแก่กัมพูชาซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ศกนี้ ที่ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งพิธีรับกัมพูชาเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศเวียดนามในอนาคตต่อไป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 225 0096 หรือ 225 7900-43--จบ--