สิ่งที่รัฐบาลนี้เข้ามาแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศซึ่งเกิดจาก
ประการแรก เงินสำรองระหว่างประเทศเสียหายมูลค่าประมาณ 1,300,000 ล้านบาท จากการปกป้องค่าเงินบาทแล้วไม่สำเร็จ ทำให้เสียหายไป
ประการที่สอง ก็คือการใช้เงินกองทุนฟื้นฟูไปช่วยเหลือสถาบันการเงิน พวกนี้เสียหายไปอีก 1,200,000 ล้านบาท
ประการที่สาม ความเสียหายของประเทศคือ มีผลกระทบตรงนี้ทำให้เงินไหลออก จ้าหนี้ต่างประเทศทวงหนี้คืน มีผลให้เงิน ในประเทศไม่พอทำให้ขาดสภาพคล่อง เมื่อขาดสภาพคล่องแล้วทำให้เราไม่สามารถหาเงินมาลงทุนขยายธุรกิจดำเนินธุร กิจ ต่อไปได้ มีการปลดคนงานเลิกการจ้างงาน การสั่งซื้อของประชาชนหดหาย บริษัทที่ทำธุรกิจการค้าเดิมมีหนี้จากต่างประเทศ มูลค่า 100 เมื่อลดค่าเงินบาทแล้วมูลค่าก็เพิ่มเป็น 200 เดิมทีใช้จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ ปี ขณะที่ดอกเบี้ยต้องจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่าเพราะ ค่าเงินบาท รายได้ลดลง นี่คือสาเหตุที่ธุรกิจล้มละลาย ฉะนั้นเมื่อเราเข้ามาแล้วสิ่งที่ต้องทำคือ 1)สร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหนี้ ต่างประเทศ โดยสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลต่างประเทศก่อน, สร้างความมั่นใจให้กับองค์กรระหว่างประเทศ, IMF, World Bank, OECF, ADB เมื่อสร้างความมั่นใจตรงนี้พวกนี้ให้การรับรองว่าประเทศไทยมีนโยบายถูกทาง มีความถูกต้องมีความมั่นคง และมีความแน่วแน่ จะเห็นได้ว่าการต่ออายุหนี้การยืดอายุหนี้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจนเกือบจ ะร้อยเปอร์เซ็นต์ 2)จากความมั่น ใจที่เกิดขึ้นหมายความว่า ในระบบการเงินที่มีแต่คนหนีหรือเทหุ้นทิ้ง,ขายหุ้น ปรากฎว่าการสร้างความมั่นใจของรัฐบาลได้เป็น ผลสำเร็จ เห็นได้จากธนาคารกรุงเทพเพิ่มทุน ธนาคารกสิกรไทยเพิ่มทุนสำเร็จ ธนาคารเอเซียเพิ่มทุนสำเร็จ มีผลให้ธนาคารอื่น นั้นมีแนวโน้มที่ดีด้วย นอกจากสร้างความมั่นใจแล้วจะมีเรื่องของการช่วยให้ประเทศไทยไม่ให้ล้มละลา ย ประเทศไทยมีหนี้ ระยะสั้นมาก เราจะพยายามแปรหนี้ระยะสั้นให้เป็นระยะยาวหมายถึงว่า กู้เงินก้อนใหม่มาใช้เงินก้อนเก่าแต่อัตราดอกเบี้ยถูก ลงโดยการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านดอกเบี้ย และที่มีการกล่าวหาว่ามีการสร้างหนี้ 7 แสนล้าน นั้นไม่จริง เพราะที่ออก พันธบัตร2 อัน อันหนึ่ง 2 แสนล้าน อีกอัน 5 แสนล้านนั้น พันธบัตรต่างประเทศ 2 แสนล้านเป็นการกู้เข้ามาเพื่อเพิ่มสภาพ คล่องให้กับประเทศ เพราะปัจจุบันนี้เงินเหือดแห้งไม่มีเหลือในระบบเลย และ 2 แสนล้านนี้ไม่ใช่ทุนสำรองแต่จะนำมาเพิ่ม ทุนให้กับ ธกส. เพื่อไปปล่อยให้กับเกษตรกร และเพิ่มทุนให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือให้กับคน และเพิ่มทุน ให้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า เพื่อให้นำเงินไปปล่อยให้กับโรงงานส่งออกและธุรกิจส่งออก เพื่อที่สามารถทำ ธุรกิจต่อไปได้มีการจ้างงานต่อไปได้ คนก็จะไม่ตกงานเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และที่ต้องออกพันธบัตร 5 แสน ล้านในประเทศ ก็คือออกพันธบัตรจากระยะสั้น เพราะปัจจุบันนี้กองทุนฟื้นฟูเป็นหนี้ประมาณ 8 แสนกว่าล้านซึ่งเป็นหนี้ ระยะสั้นที่ชำระภายใน 1 ปี และที่รัฐบาลจะทำคือจะแปรหนี้ตรงนี้กู้ใหม่ให้ชำระภายใน 10 ปีอัตราดอกเบี้ยถูกลงประมาณ 5-6% และเดิมทีรัฐบาลชุดที่แล้วบังคับไว้ว่าเราต้องชำระหนี้เขาด้วยเงินภาษี ฉะนั้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เคย 22% เราสามารถ ออกได้ในอัตรา 13-14% คือลดดอกเบี้ยลงมาตรงนี้ ก็หมายถึงว่าภาษีที่เอาไปชำระดอกเบี้ยนั้นลดน้อยลงมีเงินเหลือมาพัฒนา ชนบทในประเทศมากขึ้น
สำหรับความมั่นใจของประชาชนที่สามารถรับเงินได้จริงในส่วนของ 2 แสนล้าน เพราะ ธกส. ได้ปล่อยเงินกู้ตามชนบท อยู่แล้ว ถ้าหากสามารถมีหลักทรัพย์ไปค้ำประกันกับ ธกส. ก็จะสามารถกู้ได้ แต่ที่การเข้าถึง ธกส. ของชาวบ้านอาจจะมีน้อย คือ มีวงเงินเต็มอยู่แล้วแต่อาจจะไม่ได้เพิ่ม ในขณะที่คนที่ไม่ได้กู้เลยแต่อยากจะกู้ก็สามารถจะกู้ได้แต่ต้องมีหลักทรัพ ย์มาค้ำประกัน ส่วน 5 แสนล้านจะนำมาแปรหนี้ระยะสั้นให้เป็นระยะยาว ไม่ได้กู้เพิ่มเพราะเดิมทีเป็นหนี้อยู่แล้ว โดยเอามาใช้หนี้แทนกอง ทุนฟื้นฟูทั้งหมด 5 แสนล้าน เพราะกองทุนฟื้นฟูเป็นหนี้อยู่แล้ว และคุณทนง พิทยะ รมต.คลังเป็นคนออกหนังสือค้ำประกัน ให้กับกองทุนฟื้นฟู.--จบ--
ประการแรก เงินสำรองระหว่างประเทศเสียหายมูลค่าประมาณ 1,300,000 ล้านบาท จากการปกป้องค่าเงินบาทแล้วไม่สำเร็จ ทำให้เสียหายไป
ประการที่สอง ก็คือการใช้เงินกองทุนฟื้นฟูไปช่วยเหลือสถาบันการเงิน พวกนี้เสียหายไปอีก 1,200,000 ล้านบาท
ประการที่สาม ความเสียหายของประเทศคือ มีผลกระทบตรงนี้ทำให้เงินไหลออก จ้าหนี้ต่างประเทศทวงหนี้คืน มีผลให้เงิน ในประเทศไม่พอทำให้ขาดสภาพคล่อง เมื่อขาดสภาพคล่องแล้วทำให้เราไม่สามารถหาเงินมาลงทุนขยายธุรกิจดำเนินธุร กิจ ต่อไปได้ มีการปลดคนงานเลิกการจ้างงาน การสั่งซื้อของประชาชนหดหาย บริษัทที่ทำธุรกิจการค้าเดิมมีหนี้จากต่างประเทศ มูลค่า 100 เมื่อลดค่าเงินบาทแล้วมูลค่าก็เพิ่มเป็น 200 เดิมทีใช้จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ ปี ขณะที่ดอกเบี้ยต้องจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่าเพราะ ค่าเงินบาท รายได้ลดลง นี่คือสาเหตุที่ธุรกิจล้มละลาย ฉะนั้นเมื่อเราเข้ามาแล้วสิ่งที่ต้องทำคือ 1)สร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหนี้ ต่างประเทศ โดยสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลต่างประเทศก่อน, สร้างความมั่นใจให้กับองค์กรระหว่างประเทศ, IMF, World Bank, OECF, ADB เมื่อสร้างความมั่นใจตรงนี้พวกนี้ให้การรับรองว่าประเทศไทยมีนโยบายถูกทาง มีความถูกต้องมีความมั่นคง และมีความแน่วแน่ จะเห็นได้ว่าการต่ออายุหนี้การยืดอายุหนี้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นจนเกือบจ ะร้อยเปอร์เซ็นต์ 2)จากความมั่น ใจที่เกิดขึ้นหมายความว่า ในระบบการเงินที่มีแต่คนหนีหรือเทหุ้นทิ้ง,ขายหุ้น ปรากฎว่าการสร้างความมั่นใจของรัฐบาลได้เป็น ผลสำเร็จ เห็นได้จากธนาคารกรุงเทพเพิ่มทุน ธนาคารกสิกรไทยเพิ่มทุนสำเร็จ ธนาคารเอเซียเพิ่มทุนสำเร็จ มีผลให้ธนาคารอื่น นั้นมีแนวโน้มที่ดีด้วย นอกจากสร้างความมั่นใจแล้วจะมีเรื่องของการช่วยให้ประเทศไทยไม่ให้ล้มละลา ย ประเทศไทยมีหนี้ ระยะสั้นมาก เราจะพยายามแปรหนี้ระยะสั้นให้เป็นระยะยาวหมายถึงว่า กู้เงินก้อนใหม่มาใช้เงินก้อนเก่าแต่อัตราดอกเบี้ยถูก ลงโดยการประหยัดค่าใช้จ่ายทางด้านดอกเบี้ย และที่มีการกล่าวหาว่ามีการสร้างหนี้ 7 แสนล้าน นั้นไม่จริง เพราะที่ออก พันธบัตร2 อัน อันหนึ่ง 2 แสนล้าน อีกอัน 5 แสนล้านนั้น พันธบัตรต่างประเทศ 2 แสนล้านเป็นการกู้เข้ามาเพื่อเพิ่มสภาพ คล่องให้กับประเทศ เพราะปัจจุบันนี้เงินเหือดแห้งไม่มีเหลือในระบบเลย และ 2 แสนล้านนี้ไม่ใช่ทุนสำรองแต่จะนำมาเพิ่ม ทุนให้กับ ธกส. เพื่อไปปล่อยให้กับเกษตรกร และเพิ่มทุนให้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือให้กับคน และเพิ่มทุน ให้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า เพื่อให้นำเงินไปปล่อยให้กับโรงงานส่งออกและธุรกิจส่งออก เพื่อที่สามารถทำ ธุรกิจต่อไปได้มีการจ้างงานต่อไปได้ คนก็จะไม่ตกงานเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน และที่ต้องออกพันธบัตร 5 แสน ล้านในประเทศ ก็คือออกพันธบัตรจากระยะสั้น เพราะปัจจุบันนี้กองทุนฟื้นฟูเป็นหนี้ประมาณ 8 แสนกว่าล้านซึ่งเป็นหนี้ ระยะสั้นที่ชำระภายใน 1 ปี และที่รัฐบาลจะทำคือจะแปรหนี้ตรงนี้กู้ใหม่ให้ชำระภายใน 10 ปีอัตราดอกเบี้ยถูกลงประมาณ 5-6% และเดิมทีรัฐบาลชุดที่แล้วบังคับไว้ว่าเราต้องชำระหนี้เขาด้วยเงินภาษี ฉะนั้นจากอัตราดอกเบี้ยที่เคย 22% เราสามารถ ออกได้ในอัตรา 13-14% คือลดดอกเบี้ยลงมาตรงนี้ ก็หมายถึงว่าภาษีที่เอาไปชำระดอกเบี้ยนั้นลดน้อยลงมีเงินเหลือมาพัฒนา ชนบทในประเทศมากขึ้น
สำหรับความมั่นใจของประชาชนที่สามารถรับเงินได้จริงในส่วนของ 2 แสนล้าน เพราะ ธกส. ได้ปล่อยเงินกู้ตามชนบท อยู่แล้ว ถ้าหากสามารถมีหลักทรัพย์ไปค้ำประกันกับ ธกส. ก็จะสามารถกู้ได้ แต่ที่การเข้าถึง ธกส. ของชาวบ้านอาจจะมีน้อย คือ มีวงเงินเต็มอยู่แล้วแต่อาจจะไม่ได้เพิ่ม ในขณะที่คนที่ไม่ได้กู้เลยแต่อยากจะกู้ก็สามารถจะกู้ได้แต่ต้องมีหลักทรัพ ย์มาค้ำประกัน ส่วน 5 แสนล้านจะนำมาแปรหนี้ระยะสั้นให้เป็นระยะยาว ไม่ได้กู้เพิ่มเพราะเดิมทีเป็นหนี้อยู่แล้ว โดยเอามาใช้หนี้แทนกอง ทุนฟื้นฟูทั้งหมด 5 แสนล้าน เพราะกองทุนฟื้นฟูเป็นหนี้อยู่แล้ว และคุณทนง พิทยะ รมต.คลังเป็นคนออกหนังสือค้ำประกัน ให้กับกองทุนฟื้นฟู.--จบ--